posttoday

ลิวอิส ไมล์สโตน ยอดผู้กำกับหนุ่มยุคนู้น

25 มกราคม 2558

ใกล้แจกผลรางวัลออสการ์เข้ามาทุกที ระหว่างลุ้นผลรางวัล“เล่าเรื่องเก่า”ขอนำมาทำความรู้จักกับผู้กำกับที่อายุน้อยที่สุด

ใกล้แจกผลรางวัลออสการ์เข้ามาทุกที ระหว่างลุ้นผลรางวัล“เล่าเรื่องเก่า”ขอนำมาทำความรู้จักกับผู้กำกับที่อายุน้อยที่สุดขณะที่คว้ารางวัลออสการ์ในฐานะผู้กำกับยอดเยี่ยม เขาคือลิวอิส ไมล์สโตน ซึ่งอายุ 33 ปี ขณะที่ได้รับรางวัลออสการ์ผู้กำกับยอดเยี่ม หรือBest Directorจากภาพยนตร์เรื่องTwo Arabian Knights(1927)โดยหลังจากนั้นเขายังคว้ารางวัลออสการ์ในสาขาเดียวกันอีกครั้ง กับผลงานAll Quiet onthe Western Front (1930)อีกด้วย

ลิวอิส ไมล์สโตน เป็นผู้กำ กับหนังชาวอเมริกันเชื้อสายรัสเซีย เขาเกิดในครอบครัวชาวยิวที่เมืองคิสชิเนฟ ของเบสซาราเบีย ซึ่งขณะนั้นอยู่ในการปกครองของสหภาพโซเวียต(ปัจจุบันคือเมืองคริสิเนา ประเทศมอลโดวา)ครอบครัวของเขาอพยพจากบ้านเกิดมายังสหรัฐ ตั้งแต่ก่อนสงครามโลก ครั้งที่1จะเกิด

ตอนนั้นลิวอิสยังเป็นวัยรุ่น เขาเริ่มทำ งานก๊อกๆ แก๊กๆ ก่อนที่จะถึงวัยเกณฑ์ทหาร และได้เข้ามาประจำ ในหน่วยทหารสื่อสารของกองทัพสหรัฐ ซึ่งเขาได้ทำ หน้าที่ผู้ช่วยผู้กำ กับหนังสารคดีที่ถ่ายทำ การฝึกซ้อมของทหารระหว่างเตรียมไปรบ รวมทั้งในสนามรบด้วย ก่อนที่เขาจะได้เป็นพลเมืองอเมริกันในปี1919

หลังสงครามโลก ครั้งที่1เขาไปตามล่าฝันที่ฮอลลีวู้ด โดยได้งานแรกเป็นนักตัดต่อหนัง ก่อนจะได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ช่วยผู้กำ กับ ไม่นานผลงานของเขาก็เข้าตาฮาเวิร์ด ฮิวจ์ส เจ้าของพาราเมาท์พิกเจอร์ส และผลักดันให้ลิวอิสขึ้นมาเป็นผู้กำ กับหลังจากก่อนหน้านั้นกำ กับหนังหลายเรื่อง แต่ไม่ได้รับการขึ้นเครดิต

ในปี1927เขากำ กับหนังมากกว่า5เรื่องและเป็นปีที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังของเขาด้วย หนึ่งในนั้นคือTwo Arabian Knightsซึ่งคว้ารางวัลผู้กำ กับยอดเยี่ยมในวัย33ปีเท่านั้น

หลังจากนั้นอีก2ปี เขาก็มีผลงานที่เป็นมาสเตอร์พีซ และได้ชื่อขึ้นทำ เนียบหนังคลาสสิกอย่างAll Quiet on the Western Frontที่สร้างจากนิยายต้านสงครามของ เอริค มาเรีย เรอมาร์กชื่อเดียวกัน ตามด้วยผลงานเด่นๆ อีกชิ้น คือTheFront Page (1931)ซึ่งสร้างจากบทละครของเบนเฮชต์ กับ ชาร์ลส์ แมคอาร์เธอร์

ในเรื่องนี้เขาเป็นผู้กำ กับคนแรกที่นำ โรโทมบูเลเตอร์(Rotoambulator)มาใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์ โรโทมบูเลเตอร์ คือการนำ เอาเทคนิคดอลลี่(Dolly)กล้องบนล้อ3ล้อ มาใช้ควบคู่กับเครน(Crane)ซึ่งทำ ให้ได้ภาพในมุมมองที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่รู้จะด้วยเหตุนี้หรือเปล่าทำ ให้The Front Pageได้รับเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ในสาขาผู้กำ กับยอดเยี่ยมอีกครั้งหนึ่ง

ผลงานของลิวอิสในช่วงทศวรรษที่1930-1940บ่งบอกอัตลักษณ์ของเขาได้อย่างชัดแจ้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งความโดดเด่นเรื่องมุมมองของภาพ และการใช้แสงที่ไม่เหมือนใคร ที่โดดเด่นมากๆ ก็อย่างเรื่องOf Mice and Men (1939)ที่จะได้เห็นมุมกล้องและการจัดแสงที่ส่งผลต่อเรื่องราวและอารมณ์ของภาพยนตร์อย่างสูง

ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่2เขากำ กับหนังที่มีฉากหลังเป็นสงคราม3เรื่อง ตั้งแต่TheNorth Star (1943), The Purple Heart (1944)และA Walk in the Sun (1945)น่าแปลกที่เนื้อหาของเรื่องมุ่งไปทางปกป้องนาซีเยอรมันและจกั รวรรดญิ ีป่ นุ่ เสยี เปน็สว่ นใหญ่หลังสงครามลิวอิส ไมล์สโตน จึงถูกกาหัวว่าเป็นผู้ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ เขากับภรรยาจึงหนีไปอยู่ในยุโรปแต่ก่อนจะไปเขาก็ได้ทำ หนังเอาไว้2-3เรื่อง แต่ดูเหมือนจะไม่มีพลังเหมือนที่ผ่านๆ มา

หลังทศวรรษที่1950เขากลับมายังสหรัฐและได้กำ กับเรื่องOcean’s 11 (1960)ซึ่งได้สุดยอดนักแสดงแห่งยุคมาร่วมงาน ตั้งแต่ แฟรงก์ซีเนตรา,ดีน มาร์ติน รวมไปถึง มาร์ลอน แบรนโดทำ ให้หนังเรื่องนี้ไปถึงระดับบอกซ์ออฟฟิศ หลังจากนั้นเขาไม่มีหนังมากนักให้กำ กับจึงไปจับการทำ ทีวี ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบ แต่สิ่งที่ทำ ให้เขาเลิกกำ กับกลางคันคืออยู่ดีๆ เขาก็ป่วยหนักและเสียชีวิตหลังจากนั้นอีกไม่นาน

คำ สั่งลาครั้งสุดท้ายของเขาในปี1980ก็คือขอให้ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ช่วยนำ ความยาวของต้นฉบับAll Quiet on the Western Frontกลับคืนมาดังออริจินัลที่เขาทำ ไว้ในปี1930อย่างไรก็ตาม กว่าเขาจะได้ดังหวัง นั่นคือหลังจากที่เขาตายไปแล้วถึง20ปีทีเดียว