posttoday

เปิดหมดเปลือก!คนเขียนบท"สงครามนางงาม"

13 ธันวาคม 2557

ถ้ามีละครโทรทัศน์สักเรื่องหนึ่ง ที่ละครกับโลกแห่งความจริงผสานกันเป็นเนื้อเดียวกัน จนถึงขั้นคนดูรู้สึกอิน

ถ้ามีละครโทรทัศน์สักเรื่องหนึ่ง ที่ละครกับโลกแห่งความจริงผสานกันเป็นเนื้อเดียวกัน จนถึงขั้นคนดูรู้สึกอิน และรู้สึกว่าละครไม่ใช่ละคร แต่มันคือเรื่องจริง อีกทั้งทีมงานที่ทำละครเรื่องนั้นๆก็กำลังทำให้คนดูในโลกแห่งความเป็นจริง กำลังเข้าไปเป็นคนดูในโลกแห่งละครด้วย ไม่ว่าจะเป็นการโหวต หรือการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของฉากสำคัญที่สุดของละครเรื่องนั้น

ใช่แล้วครับ ผมกำลังพูดถึงละครโทรทัศน์ 18+ ที่ออกอากาศทางช่อง One ละครเรื่องนั้นคือ สงครามนางงาม นั่นเอง

ครั้งนี้ผมไม่ได้ไปพูดคุยกับเหล่านักแสดงหรือผู้กำกับการแสดงหรอกนะครับ ผมจะพาคุณไปทำความรู้จักและพูดคุยกับ 4 สาวผู้เขียนบทละครเรื่องนี้ เธอคือคนเขียนบทพันธุ์ใหม่ ที่น่าจับตามองมากถึงมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น หนึ่ง-ชวนนท์ สารพัฒน์,โอ๊ะ-วรรณถวิล สุขน้อย, หน่อมแน้ม-รฐาพัชร์ ตุลยพิทักษ์ และมิกิ-วีรพล บุญเลิศ ที่ขอบอกว่า มุมมองความคิดของเธอเหล่านี้“แซ่บ” ไม่แพ้เรื่องราวที่พวกเธอต่างเป็นผู้เขียนและกำหนดมันขึ้นมา

“สำหรับละครเรื่องนี้ หนึ่งเป็นหัวหน้าทีมเขียนบทค่ะ เป็นคนควบคุมทิศทางเรื่องราวของละคร และมีน้องๆ อีกสามคนช่วยกันเขียน โดยแบ่งซีนกันไปทำ ซึ่งเราทั้งสี่คนต่างก็มีผลงานเขียนบทใน เอ็กแซ็กท์-ซีเนริโอ กันอยู่แล้ว ประจวบเหมาะที่พี่ป้อน (นิพนธ์ ผิวเณร) บอกพวกเราว่า ได้เวลาทำละคร 18+ แล้วสนใจทำมั้ย ทำเรื่องอะไรกันดี พอมาคุยกับพี่ป้อนบ่อยเข้าๆ ก็เลยลงตัวที่ละครเรื่อง สงครามนางงาม พี่ป้อนคงเห็นว่าเราทั้งสี่คนถนัดเขียนเรื่องแซ่บๆ เรื่องแรงๆ เรื่องผู้หญิงๆ ซึ่งเป็นทางถนัดของพวกเรา (หัวเราะ) โดยเฉพาะมิกิ ที่เป็นแฟนนางงามตัวจริง ฝันอยากเป็นนางงามด้วย เลยทำให้เวลาสร้างตัวละคร หรือเขียนบทขึ้นมา มันมีความน่าสนใจมากขึ้น”

หลังจากฟอร์มทีมคนเขียนบทได้แล้ว ชวนนท์เผยว่า ทั้งสี่คนต่างช่วยกันพล็อตเรื่องและสร้างตัวละครขึ้นมา โดยทั้งสี่ยืนยันว่า ละครเรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นก่อนที่จะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นจากเวทีนางงามเวทีหนึ่ง เพียงแค่ละครเรื่องนี้มันมาในจังหวะที่เข้ากันกับเหตุการณ์หรือกระแสนางงามอย่างพอดิบพอดี

“เราเริ่มกำหนดคาแรกเตอร์ตัวละครมาตั้งแต่กลางปีที่แล้วโดยมีตัวละครที่เป็นนางงามหลักๆ ประมาณ 4 ตัว แต่พอทำไปทำมา เราอยากหาความแปลกใหม่ เลยหาตัวละครมาเพิ่มอีก 4 ตัว เป็น 8 ตัว แล้วก็เพิ่มมาอีกเป็น 10 ตัว หลังจากนั้นเราก็ออกไปหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการไปสัมภาษณ์ผู้จัดการประกวดนางงาม สัมภาษณ์กรรมการ สัมภาษณ์พี่เลี้ยงนางงาม สัมภาษณ์นางงามที่ได้ตำแหน่งในระดับประเทศด้วยนะ เพื่อจะได้มั่นใจว่าผู้หญิงที่เราอยากจะได้ใน 10 ตัวนี้ ควรจะนำเสนอออกมาแบบไหนบ้าง พอได้ข้อมูลได้คาแรกเตอร์ตัวละครครบถ้วนเราก็ทำการคัดเลือกนักแสดง โดยเราประกาศรับสมัครหานักแสดงใหม่เพื่อโปรเจกต์นี้ กฎเกณฑ์เดียวกับการรับสมัครนางงาม เช่น ต้องใส่ชุดว่ายน้ำได้ ซึ่งน้องๆ ที่มาสมัครก็มาจากทุกทิศทุกทาง โดยเราได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการคัดเลือกด้วยทำการคัดเลือกหลายวัน ประมาณ  5-6 รอบ คัดเลือกเข้มข้นมาก อย่างน้องที่มาแคสบทริบบิ้น เสียงเขาคือริบบิ้นเลย น้องที่มาแคสบทใบข้าว ตอนแรกเราเฉยๆ แต่พอน้องเขาได้รำ ได้ยิ้มได้โปรยเสน่ห์ เราก็รู้เลยว่าคนนี้ต้องได้รับบทใบข้าวอย่างแน่นอนถามว่าพวกเราทั้งสี่มีคนที่แอบชอบอยู่ในใจมั้ย มี แต่ก็ต้องเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด พอได้นักแสดงมาแล้ว ก็มาปรับบทให้เข้ากับคนที่มาแสดงตัวละครตัวนั้นด้วย เพื่อความสมบูรณ์ที่สุด”

วรรณถวิลเผยว่า ตัวละครที่ชื่อ ซัมเมอร์ จุดเริ่มต้นเส้นทางนางงามของเธอตามท้องเรื่อง มาจากเรื่องราวชีวิตของนางสาวไทยปี 2530 เอ้-ชุติมา นัยนา ที่เธอเล่าให้คนเขียนบทฟังว่า เธอไปเที่ยวแล้วเงินหมด ก็เลยมาประกวดนางงาม “อย่างตัวละครที่ชื่อ ริบบิ้นตอนแรกเราวางคาแรกเตอร์เป็นตัวละครแบ๊วๆ โดนลูกโซ่หลอกใช้แต่พอได้นักแสดงมาลองเล่นบทดู เราทั้งสี่ต่างค้นพบว่า น้องมีของมีมุมที่น่าสนใจ เลยปรับบทให้ตัวละครตัวนี้มีอะไรให้เล่นอย่างเข้มข้นแต่ถ้าถามเราว่า ละครเรื่องนี้ ใครเป็นพระเอกนางเอก ขอบอกเลยว่า ไม่มีใครเป็นพระเอกนางเอก เวทีการประกวดคือพระเอกนางเอกตัวจริง ที่สำคัญตัวละครทุกตัวต่างมีส่วนเกี่ยวพันและสร้างเรื่องราวให้เรื่องมันดำเนินไปอย่างเข้มข้น ตัวละครทุกตัวมีความเป็นสีเทาเหมือนกันหมด เพียงแต่ใครจะเทาค่อนไปทางดำ หรือเทาค่อนไปทางขาว ไม่มีใครดีหรือเลวแบบสุดโต่ง รวมทั้งไม่มีใครที่ตื่นขึ้นมาแล้วคิดที่จะเลวไปเลยความสนุกของละครเรื่องนี้ อยู่ที่ความต้องการของตัวละคร โดยเฉพาะนางงามทั้ง 10 คน ความต้องการสูงสุดคือสิ่งเดียวกัน นั่นคือ มงกุฎ เราเชื่อว่า เมื่อคนดูได้ดูตัวละครแต่ละตัวแล้วจะรู้สึกรัก ในขณะเดียวกันก็นึกสงสัยว่า ทำไมถึงทำแบบนี้ ความรู้สึกนี้เราเชื่อว่ามันเกิดขึ้นมาจากความเป็นสีเทาของตัวละครนี่แหละค่ะ”

ในการเขียนเรื่องราวชีวิตของคนที่หลากหลายมากมาย การจะเข้าใจคน รู้ด้านมืดด้านสว่างของคน การมาปะทะกันทางอารมณ์ของคน รฐาพัชร์เผยว่า พวกเธอทั้งสี่ต่างพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกันมากพอสมควร “เราคุยกันเยอะมาก คุยและถามกันว่าเราคิดอย่างนี้ คนอื่นคิดว่ายังไง ไปในทางเดียวกันมั้ย หรือใครมีความเห็นที่แตกต่าง เราต้องรับฟังเหตุผลของกันและกัน เพื่อจะได้ตัวละครที่มีเหตุมีผลกับสิ่งที่เขาคิด พูด และกระทำออกมาเราต้องคิดว่า ถ้าเป็นเรา เราคิดยังไง เราจะทำยังไง แล้วแทงไปที่ตัวละครตัวนั้น ว่าถ้าเป็นตัวละครตัวนั้น เขาจะคิดยังไง เขาจะพูดเขาจะทำยังไง และเมื่อผลเกิดขึ้น เขาจะรับผลแห่งการกระทำนั้นอย่างไร ซึ่งเมื่อเขียนบทไปเรื่อยๆ เราก็ได้เรียนรู้ ได้ค้นพบอะไรบางอย่าง ณ ขณะที่เขียน”

สำหรับ มิกิ เธอเผยอย่างจริงใจว่า เธอได้เรียนรู้และค้นพบจากตอนที่ 3 ซึ่งเป็นตอนที่ตัวละครต่างโดนตรวจสอบประวัติ “บางคนไม่ได้คิดว่าจะมาประกวดนางงาม เลยทำอะไรไปตามใจตัวเอง โดยไม่คิดถึงผลเสียที่จะตามมาในอนาคต มันก็สอนใจเราได้ดีทีเดียวว่า หากจะทำอะไรให้คิดก่อนทำ เผื่อวันหนึ่งเราดังขึ้นมาจะได้ไม่ถูกขุดคุ้ยประวัติ (หัวเราะ) และมิกิก็ได้เรียนรู้อีกอย่างหนึ่งว่า การเขียนบทละครไป ถ่ายทำไป มันเหนื่อยมาก แต่มันก็ดีกับตัวเรานะ ทำให้เราเป็นคนตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะต้องเขียนบทกันหัวหมุน ไม่งั้นจะถ่ายทำกันไม่ทัน (หัวเราะ)”

เปิดหมดเปลือก!คนเขียนบท"สงครามนางงาม"

 

ถ้าถามว่าแต่ละคนมีตัวละครในดวงใจมั้ย วรรณถวิลเผยว่าเธอชอบหมอเอย เธอเห็นด้วยกับเหตุผลของหมอเอย แม้คนดูจะหมั่นไส้หมอเอยกันเหลือเกิน ส่วนชวนนท์ เธอชอบใบข้าวที่ไม่ได้คิดร้ายกับใคร เพียงแค่เอนจอยไปกับการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งหากไปอยู่ในละครเรื่องอื่น ใบข้าวจะเป็นตัวร้าย แต่ในชีวิตจริงเขาเป็นคนดีของสังคม เขาสามารถเลือกเส้นทางแห่งความสุขของเขาได้ อีกทั้งยังเป็นตัวละครที่คนเขียนบทส่วนใหญ่ต่างเฝ้ารอกันมานาน ในส่วนของมิกิ เธอชอบเพียงฟ้า เพราะตัวละครตัวนี้มีความอึดอัดภายใน อยู่ภายใต้กรอบของแม่ ทำให้คนดูเห็นถึงความสำคัญของการเลี้ยงดูของพ่อแม่ ถ้าเลี้ยงแบบให้อยู่แต่ในกรอบ ไม่ค่อยได้ออกสู่โลกกว้าง ผลที่ตามมาอาจทำร้ายคนเป็นพ่อเป็นแม่ได้อย่างมากมายมหาศาล สำหรับรฐาพัชร์ เธอชอบริบบิ้น เหตุเพราะเวลาเขียนบทของตัวละครตัวนี้ เธอรู้สึกสนุกมาก ยิ่งตัวละครตัวนี้ได้อยู่กับลูกโซ่ ยิ่งสนุก และไม่คิดว่าตัวละครตัวนี้จะเดินทางมาไกลมาก จากแบ๊วๆ กลายมาเป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราวได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ไม่ว่าจะแซ่บ จะเข้มข้น จะแรง จะเชือดเฉือนกันแค่ไหนก็ตามชวนนท์เผยว่า ละครเรื่องนี้ก็ยังมีเส้นศีลธรรมค้ำอยู่ “แม้จะเป็น18+ เราก็ยังต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ เรายังต้องยึดเส้นศีลธรรมเอาไว้ แม้จะเลยเส้นนี้ขึ้นมาบ้างนิดนึง แต่หากเลยไปไกล คนดูหรือสังคมคงไม่อนุญาตให้เราทำได้ ในฐานะคนเขียนบท เราไม่อึดอัดนะ เราทำได้เท่าที่เราทำได้อยู่แล้ว แต่เราเชื่อมั่นว่า ต่อไปเราจะมีละครที่พูดเรื่องจริงกันมากขึ้น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีต่อสังคมไทยนะ”

รฐาพัชร์เผยว่า สุดท้ายแล้วละครเรื่องนี้จะต้องมีคนได้มงกุฎเพียงหนึ่งคนเท่านั้น ซึ่งเส้นทางแห่งการเดินทางไปถึงจุดนั้น อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ “วันนี้เราทั้งสี่คนยังตอบไม่ได้ว่าใครจะได้มงกุฎ ละครจะจบยังไง เราก็ยังตอบไม่ได้ เรารู้แค่ว่า แต่ละตอน เราจะให้ตัวละครตัวไหนมาเจอกับใคร จะบิดเรื่องราวไปทางใด เพื่อให้เรื่องราวมีความเข้มข้นและน่าสนใจมากขึ้น ในแต่ละตอนเราก็พยายามสร้างความบาลานซ์ให้ได้มากที่สุด เอาเป็นว่าให้คนดูติดตามต่อไปเรื่อยๆ เชื่อเถอะว่า ใครทำอะไรไว้คนนั้นย่อมได้รับผลแห่งการกระทำ”

สำหรับกระแส โดยเฉพาะจากแฟนนางงาม มิกิเผยว่า ก็มีทั้งคนชอบ มีทั้งคนด่า มีทั้งคนตั้งข้อสงสัย วิพากษ์ วิจารณ์กันไปอย่างมากมาย “ไม่ว่าอย่างไร เรายินดีน้อมรับค่ะ นั่นเป็นเพราะเมื่อเราเขียนบทเสร็จแล้ว เราไม่มีสิทธิตอบโต้หรือแก้ตัว คนดูมีสิทธิตีความ ติติง อวยอย่างเดียวก็ไม่ใช่ว่าจะดีนะ มันไม่ทำให้เกิดการพัฒนา โชคดีที่ละครของเรา มันเขียนไป ถ่ายไป มีบางจุดที่มันรั่ว พอมีคนติง เราก็ปรับได้เร็วทันใจ”

วรรณถวิลทิ้งท้ายไว้ว่า คนที่ติติงแล้วทั้งสี่คนต้องรีบปรับกันอย่างด่วนจี๋ นั่นคือผู้กำกับนั่นเอง “โดยเฉพาะตอนที่ป้อนแซวว่าพวกเราเขียนความชั่วได้ดีมาก ความดีหายไปหมดเลย ช่วยเอาความดีเข้ามาใส่ในละครหน่อย (หัวเราะ) เอาจริงๆ เราว่า ตัวละครดีเขียนยากนะ เพราะตัวละครดีมักคิดอีกอย่าง พูดอีกอย่างทำอีกอย่างแต่ตัวละครร้าย มันจริงใจมาก คิดอย่างนี้ พูดอย่างนี้ทำอย่างนี้ ตัวละครร้ายมันจริงใจกับตัวเอง ซึ่งไม่ใช่เราทั้งสี่คนเลย (หัวเราะ)”