posttoday

นรีกระจ่าง คันธมาส...ในวันที่ฉันคือ Cocojazz

07 ธันวาคม 2557

ผมจำได้ว่าตอนผมอยู่ชั้น ป.6 (ปี 2532) ผมชอบไปเดินเล่นเรื่อยเปื่อยอยู่แถวตลาด ที่ซึ่งมีร้านขายเสื้อผ้า

ผมจำได้ว่าตอนผมอยู่ชั้น ป.6 (ปี 2532) ผมชอบไปเดินเล่นเรื่อยเปื่อยอยู่แถวตลาด ที่ซึ่งมีร้านขายเสื้อผ้า ขายกระเป๋า ขายรองเท้า ขายหนังสือ และขายเทป ล่อตาล่อใจให้เด็กบ้านนอกมีอะไรได้ตื่นตาตื่นใจเล่น พลันผมก็ได้ยินเพลงอีกนาน (เวอร์ชั่นแปลกหู) จากร้านขายเทปร้านหนึ่ง ซึ่งเวอร์ชั่นแปลกหูนี้ พี่คนขายเทปบอกผมว่า เพลงนี้เป็นเพลงของอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ที่ร้องโดย “จุ๋ม-นรีกระจ่าง คันธมาส” ที่มาพร้อมกับนักดนตรีอีกสองคน ใช้ชื่อวงว่า “Cocojazz” (ตอนนั้นคิดแค่ว่ามันคล้ายโคโคนัทหรือเปล่า ให้ตายเถอะ)

25 ปีล่วงผ่านไป ผู้หญิงคนที่ผมเคยได้ยินเสียงร้องอันแปลกหูของเธอจากร้านขายเทปในวันนั้น วันนี้เธอได้มานั่งอยู่ตรงหน้าผมแล้ว เพื่อมาบอกเล่าเรื่องราววันวานให้ผมฟัง พร้อมกับบอกเหตุผลว่า ทำไมชื่อวงของเธอถึงใช้ชื่อว่า โคโค่แจ๊ซ

“ก่อนเป็นนักร้อง จุ๋มร้องเพลงไทยเดิมและนำสวดมนต์ที่โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ พอเรียนจบ รู้ตัวว่าหัวไม่ดี คุณป้าเลยแนะนำให้ไปเรียนที่โรงเรียนพณิชยการพระนคร เรียนที่นี่ก็ได้ร้องเพลงเหมือนกัน วันหนึ่งคุณพ่อคงเห็นว่าจุ๋มชอบร้องเพลงในห้องนอนแล้วทนไม่ได้ เลยมาบอกจุ๋มว่า คนเก่งๆ อย่าง ตู่ นันทิดา หรือแหวน ฐิติมา เขาเก่งนะ และเขาก็ไม่ได้ร้องเพลงแค่ในห้องนอน เขาออกไปร้องเพลงข้างนอกกันหมด ฟังแค่นี้จุ๋มสะอึกเลย จุ๋มเลยตัดสินใจส่งเทปไปประกวดรายการคอนเสิร์ตคอนเทสต์ ทางช่อง 5 เป็นรายการที่ฮิตมากในช่วงเวลานั้น มี ปัญญา นิรันดร์กุลและผุสชา โทณะวณิก เป็นพิธีกร คนที่แจ้งเกิดจากรายการนี้ก็มี แอนนา โรจน์รุ่งฤกษ์ อังศนา ช้างเศวต และอีกหลายท่านรวมทั้งจุ๋มด้วย (หัวเราะ) ตอนที่จุ๋มส่งเทปเพลงไปประกวดเป็นช่วงเวลาที่เขาเปิดรับให้ร้องเพลงต้นแบบจากศิลปินดัง นั่นคือ รวิวรรณ จินดา จุ๋มร้องเพลงของพี่อุ้ยที่ทางรายการกำหนด 4 เพลง แล้วก็ร้องเพลงที่เหลือๆ ของพี่อุ้ยใส่ไปในเทปคาสเซ็ทจนหมดเทปม้วนนั้น (หัวเราะ)”

นรีกระจ่างบอกเล่าอย่างอารมณ์ดีว่า พอส่งเทปเพลงไปปุ๊บ ไม่นานทางเจเอสแอลซึ่งเป็นผู้ผลิตรายการก็เรียกให้เธอไปประกวดรอบแชมป์ประจำสัปดาห์ ทำให้เธอได้ออกหน้าจอทีวี ซึ่งเธอตั้งกดดัน เครียด และตื่นเต้น

“ในวันประกวด จุ๋มร้องเพลงได้หัวเราะก็พอ โชคดีที่ท่านผู้อำนวยการของโรงเรียนสั่งปิดโรงเรียนครึ่งวันเพื่อให้เพื่อนๆ นักเรียนมาเชียร์เรา จุ๋มเลยทำเต็มที่เท่าที่เด็กคนหนึ่งจะทำได้ ตอนร้องเพลงเลยใส่ลีลาหามุขมาเล่น มีพี่ตุ๋ม-นัดดา วิยกาญจน์ พี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา เป็นกรรมการ ปรากฏว่าจุ๋มชนะ ตอนนั้นเอ๋อไปเลย หลังจากนั้น อาจารย์วิรัช อยู่ถาวร ก็ได้เรียกให้จุ๋มไปร้องเพลงประกอบละคร เรื่อง รัตนาวดี ทางช่อง 3 ชื่อเพลงรัตนาวดี ซึ่งตอนนี้ยังหาฟังได้จากทางยูทูบ”

แต่จุดพลิกผันจริงๆ ของนรีกระจ่าง คือ การที่ สมพงษ์ วรรณภิญโญ กับ จิก-ประภาส ชลศรานนท์ เห็นว่าเธอประกวดรายการนี้ ในรอบแชมป์ ออฟ เดอะ แชมป์ แล้วแพ้ แต่มีแววและเข้าทางเขาสองคนที่กำลังค้นหานักร้องมาร้องเพลงแนวแจ๊ซ เขาเลยติดต่อเธอเข้าสังกัด เซ็นสัญญาเป็นศิลปิน ซึ่งนรีกระจ่างต้องเรียนร้องเพลงกับครูนภ โสตถิพันธุ์ นานอยู่เป็นปี กว่าจะได้มาเป็นนักร้องนำวงโคโค่แจ๊ซ (ชื่อนี้มาจากการที่จิก ประภาสเห็นว่า เมื่อชาวนิโกรกินมะพร้าวเสร็จ มักเอากะลามะพร้าวมาเคาะเป็นเสียงดนตรี บวกกับแนวเพลงแจ๊ซ เลยออกมาเป็นชื่อโคโค่แจ๊ซ) ที่ซึ่งมีนักดนตรีหลักอยู่ 2 คนแล้ว นั่นคือ อ.ปิยะ โกสินานนท์ และ อ.ชื่น เริงใจ (ตอนนี้เสียชีวิตแล้วทั้งสองท่าน)

“พอจุ๋มได้มาเป็นนักร้องนำวงโคโค่แจ๊ซ จุ๋มรู้สึกว่าตอนนั้นไม่มีตัวตนของจุ๋มอยู่ในวงนี้เลย เหมือนจุ๋มต้องร้องเพลงของคนอื่น แต่งตัวเป็นคนอื่น ซึ่งไม่ใช่ตัวตนของจุ๋ม แต่ปรากฏว่า เพลงความรักเพรียกหา หรือเพลงอีกนาน คนฟังชอบกันมาก ทำให้จุ๋มรู้ว่า ตอนนั้นจุ๋มยังเด็ก เลยยังไม่เข้าใจว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่ผู้ใหญ่ในค่ายวางทิศทางให้เราเป็นอย่างนั้น เพื่อไปสู่จุดสำเร็จ”

หลังจากอัลบั้มชุดแรกวางแผง มิวสิควิดีโอเพลงได้เผยแพร่ เพลงเริ่มติดหู เริ่มได้รับรางวัล มีงานถ่ายแบบลงปกหนังสือ ได้ขึ้นเวที 7 สีคอนเสิร์ต และอีกหลายเวทีตามมานรีกระจ่างเผยว่า คนเริ่มรู้จักเธอมากขึ้น ขึ้นรถเมล์ไปเรียน ก็มีคนเข้ามาทัก เข้ามาขอลายเซ็น ไปเดินเล่นกันเพื่อนที่มาบุญครอง ร้านขายเทปต่างเปิดเพลงของเธอ

“ตอนนั้นต้องวางตัวเข้มเป็นผู้ใหญ่ เพราะจุ๋มมีอาจารย์ทั้งสองท่านร่วมวงอยู่ด้วย จะโนะเนะแบบวัยรุ่นก็คงไม่ได้”

หกเดือนต่อมาวงโคโค่แจ๊ซก็ได้ทำอัลบั้มชุดที่สอง แต่ก่อนอัลบั้มจะวางแผง อ.ปิยะ ก็ได้เสียชีวิต ทำให้วงโคโค่แจ๊ซเหลือกันเพียงสองคน “จากนั้นก็แยกตัวไปทำอัลบั้มเดี่ยว แล้วกลับมารวมวงกับ อ.ชื่น อีกครั้ง พร้อมกับอยู่ค่ายใหม่ที่มีชื่อว่า มูเซอ ซึ่งหัวเรือใหญ่ของค่ายก็คือพี่จิก ประภาส ซึ่งเขาแยกตัวมาจากค่ายคีตาเพื่อมาทำค่ายเพลงเอง

"ชีวิตหลังจากนั้น จุ๋มก็ไปทำเพลงกับคนนั้นคนนี้ ไปทำศัลยกรรม ไปสักที่ต้นแขนซ้าย ไปแต่งงานอยู่เมืองนอกกับแฟน แต่แฟนเสียชีวิต ก็เลยกลับมาทำงานร้องเพลงเหมือนเดิม ตอนนี้ก็มีอัลบั้มเพลงชุดใหม่ ชื่อชุดว่า on a clear day ทำกับค่ายบีบีเรคคอร์ด ซึ่งมีพี่นิ่ม สีฟ้า เขียนเนื้อให้ มีพี่อภิชัย เย็นพูนสุข เป็นโปรดิวเซอร์ และมีพี่สมชัย ขำเลิศกุล เป็นแมนเนเจอร์ ไดเรกเตอร์ให้ค่ะ อีกทั้งจุ๋มกำลังจะมีคอนเสิร์ตร่วมกับ นัดดา วิยกาญจน์ วิยะดา โกมารกุล ณ นคร รวิวรรณ จินดา และวิน วีรชัย ใช้ชื่อคอนเสิร์ต ว่า The Divas & Win Show ในวันอาทิตย์ที่ 14 ธ.ค.นี้ ที่รอยัลพารากอนฮอลล์ รอบเดียว แต่มันถึงใจแน่นอนค่ะ”

นรีกระจ่างบอกเล่าทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าจะขอบคุณบุคคลสำคัญ อันดับแรก เธอคงต้องขอบคุณคุณพ่อของเธอก่อนใครเพื่อน “ขอบคุณคุณพ่อ ที่ถ้าเขาไม่เดินมาบอกจุ๋มในวันนั้น คงไม่มีจุ๋มในวันนี้ ขอบคุณพี่จิก ถ้าไม่มีพี่จิก คงไม่มีไอเดียดีๆ เกิดขึ้นมา พี่จิกทำให้จุ๋มรู้ว่า เกิดมาไม่มีตังค์ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิดมามีกึ๋น เราไปได้ทุกทิศทุกทาง และขอบคุณพี่สมพงษ์ ที่มีตังค์ให้พี่จิกได้ใช้กึ๋นสร้างสรรค์ให้เป็นผลงานดีๆ ออกมาค่ะ”

ข่าวล่าสุด

กองหลังผลัดกันรั่ว ! แมนยู เสมอเดือด บอร์นมัธ 4-4 ผลบอลพรีเมียร์ลีก