ยอดยาหยีของอาตี๋อาหมวย “จ้าวเหว่ย”

โดย...โจลิฟวิ่ง

ขึ้นแท่นเป็นขวัญใจคอหนังแดนมังกรไปอีกหนึ่ง “จ้าวเหว่ย” เพราะทันทีที่ภาพยนตร์เรื่องใหม่ Dearest เข้าฉายที่จีนแผ่นใหญ่ เธอก็โกยเรตติ้งถล่มทลาย พร้อมทะยานสู่แชมป์ไชนีส บ็อกซ์ออฟฟิศ ด้วยรายได้เปิดตัว 35.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

Dearest กำกับโดย “ปีเตอร์ โฮ ซัน ชาน” หรือที่คนไทยคุ้นเคยในชื่อ “ปีเตอร์ ชาน” ดรามาสุดๆ เรียกน้ำตาตั้งแต่ฉากแรกจนฉากสุดท้าย แน่นอน สไตล์การเล่าเรื่องของปีเตอร์ ชานยังคงเน้นภาพที่สื่อถึงอารมณ์ตัวละคร รวมทั้งบทสนทนาและการแสดงที่สะเทือนใจ โดยเล่าเรื่องพ่อแม่ออกตามหาลูกชายที่ถูกลักพาตัวไป ซึ่งผู้กำกับได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงที่เคยตกเป็นข่าวใหญ่ในเมืองจีน

ก่อนหน้าที่หนังจะเข้าฉายที่เมืองจีน Dearest มีโอกาสเดินทางไปเปิดรอบปฐมทัศน์ เทศกาลภาพยนตร์เวนิส ประเทศอิตาลี ต่อด้วยไปฉายโชว์ที่เทศกาลภาพยนตร์โตรอนโต ประเทศแคนาดา ซึ่งเสียงตอบก็ค่อนข้างดี แม้จะโดนค่อนขอดว่าจงใจบิ้วอารมณ์แบบเมโลดรามามากไปหน่อย

“มันเป็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน โดยเกี่ยวโยงกับเด็ก พ่อแม่ คู่รัก เพื่อน รวมไปถึงคนแปลกหน้า โดยที่พวกเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย” ปีเตอร์ ชาน บอกกับสื่อในรอบฉายปฐมทัศน์

เพิ่งจบไปสดๆ ร้อนๆ ก็คือ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูชาน ประเทศเกาหลีใต้ หนังเรื่องนี้ถูกจัดฉายโชว์ในสาย A Window on Asian Cinema ร่วมกับสุดยอดผลงานฝั่งเอเชีย รวมถึงภาพยนตร์ไทย “คิดถึงวิทยา” ของ “นิธิวัฒน์ ธราธร” และ So Be It ของ “คงเดช จาตุรันต์รัศมี”

ที่เจ๋งกว่านั้น เวทีม้าทองคำ ปี 2014 ได้เปิดโผรายชื่อในแต่ละสาขาออกมาเรียบร้อย มีชื่อของจ้าวเหว่ยเข้าชิงสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมด้วย ซึ่งคู่แข่งปีนี้น่ากลัวทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น “กงลี่” จาก Coming Home “ถังเหว่ย” จาก The Golden Era “กุ้ยหลุนเหม่ย” จาก Black Coal, Thin Ice ล้วนสูสีทั้งบารมีและฝีมือ

“ฉันตอนแรกฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจตัวเองสักเท่าไร่ว่าจะเล่นได้มั๊ย เพราะฉันนึกภาพแม่ที่ใช้ชีวิตในต่างจังหวัด แล้วต้องออกตามหาลูกที่ถูกลักพาตัวไปไม่ออกจริงๆ จนฉันมีโอกาสไปพูดคุยกับคนพื้นที่และเวิร์กช็อป ฉันจึงสามารถตีความและรับรู้ความรู้สึกเหล่านี้ได้” จ้าวเหว่ย เผยถึงความยากลำบากในการเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้

นอกจากจะมุ่งมั่นและทำการบ้านอย่างหนักกับการรับบทเด่นแล้ว สิ่งที่แฟนๆ จะได้เห็นจ้าวเหว่ยในภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็คงเป็นเรื่องสปิริตนักแสดง จ้าวเหว่ยสมบุกสมบันมากๆ เรียกว่าไม่ห่วงสวยเลย เสื้อผ้าหน้าผมจัดเต็มแบบคนชนบท พลิกจากสาวไฮโซสู่คนรากหญ้า ที่สำคัญ เกือบทั้งเรื่อง เธอต้องเสียน้ำตาเป็นว่าเล่น

จ้าวเหว่ย เกิดวันที่ 12 มี.ค. 1976 เติบโตที่เมืองอู๋หู มณฑลอานฮุย โดยเธอก้าวเข้าวงการตั้งแต่วัย 17 ในฐานะตัวประกอบเล็กๆ หนังของ “จางอี้โหมว” A Soul Haunted by Painting โดยมี กงลี เล่นเป็นนางเอก ก่อนเธอจะตัดสินใจไปสมัครเรียนที่โรงเรียนภาพยนตร์และศิลปะเซี่ยงไฮ้และจบระดับปริญญาตรีอย่างงดงามที่สถาบันภาพยนตร์ปักกิ่ง พร้อมคว้าตำแหน่งนักแสดงยอดเยี่ยมแห่งรุ่น

ยุคแรกๆ ในวงการ ผลงานส่วนใหญ่ของจ้าวเหว่ยหนักไปทางละคร มีออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ผลงานที่มัดใจแฟนๆ และส่งให้เธอดังสุดขีด ต้องยกให้บทบาท “เสี่ยวเยี่ยนจื่อ” แห่งละคร “องค์หญิงกำมะลอ” ติดกันงอมแงมทั่วบ้านทั่วเมือง จนเธอรั้งตำแหน่งดาวเด่นนางเอกเอเชียไปครองอย่างไม่ต้องสงสัย

จากผลงานจอแก้วอันโดดเด้ง โอกาสทองก็ตกในมือจ้าวเหว่ย เมื่อผู้กำกับดังหันมาเรียกใช้บริการเธอ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ อาทิ Red Cliff ทั้ง 2 ภาค (ประกบ เหลียงเฉาเหว่ย กับ ทาเคชิ คาเนชิโร่) Mulan: Rise of a Warrior (ประกบ เฉินคุน) หรือจะเป็น 14 Blade (ประกบ ดอนนี เยน) จนถึง Painted Skin: The Resurrection (ประกบ เฉินคุน อีกรอบ) ล้วนได้จ้าวเหว่ยรับบทนางเอก

ใช่จะเก่งแต่แสดงอย่างเดียว ในมาดผู้กำกับ จ้าวเหว่ย ก็ไม่ธรรมดา เธอผ่านงานกำกับมาแล้ว 2 เรื่อง Angel's Suitcase เป็นภาพยนตร์สั้นเมื่อ 7 ปีที่แล้ว อีกเรื่องคือ So Young ภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกปีที่แล้ว สร้างชื่อให้จ้าวเหว่ยเป็นที่จับตามอง เพราะหลังจากภาพยนตร์เข้าฉายกระแสตอบรับดีเกินคาด เสียงรับวิจารณ์เชิงบวก แถมยังโกยรายได้ที่เมืองจีนไปเป็นกอบเป็นกำ 116 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งๆ ที่ใช้ทุนสร้างเพียง 5 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนงานกำกับเรื่องถัดไป จ้าวเหว่ย ยังไม่มีในเร็ววัน ระหว่างนี้แฟนๆ ก็ชมสุดยอดการแสดงจากภาพยนตร์เคล้าน้ำตา Dearest ไปพลางๆ ก่อน ซึ่งโปรแกรมเข้าฉายในบ้านเรา คาดว่าไม่น่ารอนานเกินปลายปีแน่นอน