posttoday

คำต่อคำ"โย ยศวดี"เปิดใจทั้งน้ำตาปมแตกคอ"บี น้ำทิพย์"

14 ตุลาคม 2557

"โย ยศวดี" เคลียร์ทั้งน้ำตา ปัญหาธุรกิจโยบี เชื่อ"บี น้ำทิพย์"เข้าใจผิด เผยตัดสัมพันธ์ไม่ขาด

"โย ยศวดี" เคลียร์ทั้งน้ำตา ปัญหาธุรกิจโยบี เชื่อ"บี น้ำทิพย์"เข้าใจผิด เผยตัดสัมพันธ์ไม่ขาด

กลายเป็นเกาเหลาชามโตระหว่างสองนางแบบเพื่อนรัก "บี น้ำทิพย์" และ "โย ยศวดี" ต้องมาแตกคอกันจากการทำธุรกิจอาหารเสริมร่วมกันแต่กลับเคลียร์ไม่ลงตัว ซึ่งก่อนหน้านี้สาวบีออกมาประกาศชัดตัดความสัมพันธ์เหลือไว้แค่เพื่อนร่วมโลกเท่านั้น ไม่ขอสุงสิงกันอีก ล่าสุดได้เจอสาวโยในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมตัวใหม่ power fit by yo เจ้าตัวเปิดใจทั้งน้ำตาถึงเรื่องดังกล่าวให้ฟังว่า...

"ที่มายืนสัมภาษณ์วันนี้ไม่ต้องการหักหลังใดๆ ด้วยเจตนาที่ดี และยังรักเขาเหมือนน้อง ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรมาก็ตาม เราจะมาพูดในเรื่องจริงแต่จะไม่ทำร้ายหรือทำลายอะไรเขาเลย ธุรกิจโยบี ตอนที่เรียกมาคุยเราตัดสินใจจะลงทุนเองทั้งหมดและชวนเขามาทั้งหมด ณ ตอนนั้น คุณบีก็ทราบอยู่แล้วว่าเขาไม่ได้ลงทุนใดๆเลย แม้กระทั่งวันนั้นมาจนถึงวันนี้ คุณบีก็ยังไม่เคยลงทุน ช่วงที่เรามีปัญหาในเรื่องร้านอาหารก็มาคุยกับเขาว่าจะทำอย่างไร เพราะคู่แข่งมันเยอะ สรุปว่าเหนื่อยทั้งคู่ เลยคิดว่าจะปิดธุรกิจ ซึ่งเขาก็เห็นชอบด้วย"

"คุณบีเขาทำหน้าที่โปรโมทโดยใช้ภาพลักษณ์ของนักแสดง ตรงนี้ที่พูดคุยไว้ ในช่วงเริ่มทำธุรกิจตอนแรก การถือหุ้นโยบีจริงๆมีสามหุ้น คือ โย พี่เอ และ บี และสัดส่วนในการแบ่งและผลกำไรที่ให้ คุณบีได้รับ 50% เต็มๆ เราได้แบ่งส่วนนึงของเราให้กับ เอ แต่ไม่มาก เพราะเขาก็มีเงินเดือนในส่วนนึงอยู่แล้ว จุดแตกหักมันมาตรงที่การตัดสินใจจะปิดธุรกิจ มันต้องมีเงินรองรับ ในการใช้จ่ายสำหรับลูกน้อง ในการที่จะพักงานคน10ชีวิต มันเป็นเรื่องใหญ่มาก และเราก็แพลนกับทีมงานด้วยว่าจะทำอะไร แต่เราก็เข้าใจคุณบีด้วยว่า คนที่ไม่เคยมาทำงานก็จะเห็นแต่รายได้แต่ไม่เห็นรายจ่ายเลย พอมาดูเลยอาจจะมีจุดนึงที่ไม่เข้าใจ พอไม่เข้าใจก็นั่งคุยกัน เราพร้อมที่จะเคลียร์ให้ดูจะทำเห็นให้ชัดเจน และนัดเขาให้มาดูในวันที่จะปิดบริษัท ว่าสุดท้ายแล้วผลกำไรมันเหลือประมาณเท่าไหร่"

"แต่ต้องบอกว่าตั้งแต่เปิดธุรกิจมานั้น เราและเขาได้ผลกำไรในสัดส่วนที่เท่ากันตลอด ไม่มีใครน้อยไปกว่าใคร ทั้งที่เขาไม่ได้ลงทุน จริงๆมีช่วงนึงที่ธุรกิจมีปัญหาจริงๆ เราก็ไปขอเงินทุนจากเขาสองแสน เขาเอามาให้แต่ต้องคืนและเราก็คืน สุดท้ายเขาก็มาในจุดเดิมว่า เขาไม่ได้ลงทุนเหมือนเดิม"

"เรื่องที่บอกว่าเราเอาเงินเขามาหมุนเพื่อไปทำธุรกิจอื่น ตรงนี้1สัปดาห์ที่ผ่านมามีคำถามต่างๆว่าเกิดอะไรขึ้น ใครโกงใคร และเราก็ไม่พูดสักคำ จนวันนี่ที่มาพูดไม่ได้ต้องการจะทำร้าย แต่มันคือความจริง ปัญหากับซัพพลายเออร์ต่างๆเคลียร์หมด ไม่มีหนี้สินตรงนี้ บริษัทปิดแล้วและมันจบเขาจะไม่มายุ่งอีก แต่มันไม่จบจุดเดียวคือคุณบี เราประชุมกันเรื่องจะปิดตรงนี้ช่วงเดือนสิงหา คุณบีขอในหลายๆสิ่งและเราก็ทำให้ทุกอย่าง ที่จะปิดบริษัทให้ดีที่สุดและได้ผลประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน แต่เรียกให้เขามาประชุม เขาบอกว่าไม่ว่าง เรียกไปทางผู้ช่วยเขา เขาบอกว่าไม่มีเวลา และพร้อมจะดับเครื่องชน เราฟังแล้วเสียใจว่าทำไม ต้องดับเครื่องชนในเมื่อถ้าลดในเรื่องอคติมีสติในการแก้ปัญหาเรามองว่ามันเล็กน้อย เราแก้ด้วยความรักและยังมีความเป็นเพื่อนกันอยู่ มันจะไม่มาไกลขนาดนี้"

"วันที่คุณบีไปพูดกับสื่อ ก็มีเรื่องเข้ามาว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นจริงๆ เพราะตอนเราจะปิดตั้งใจจะปิดกันเงียบๆเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อย มาวันนี้เรากล้าพูดต่อหน้ากล้องขนาดนี้ ถ้ายังไม่เชื่อในสิ่งที่เราพูดเราพร้อมยินดีที่จะทำตามกระบวนการทุกอย่าง เราเชื่อว่าเรื่องนี้คงไม่มีเบื้องหลัง และเราก็ยินดีจะรับฟังทุกฝ่าย เพียงแค่ว่าอย่าใช้อารมณ์ไม่งั้นจะไม่จบ กับการปิดธุรกิจนี้คุณบีไม่ต้องจ่ายอะไรเลย ตอนนี้แค่อยากให้มาเซ็นยอมรับปิดบริษัทและมาดูบัญชีทั้งหมด ที่มันเกิดขึ้นมา20เดือนว่าเขาพอใจไหม ถ้ามีส่วนไหนที่เขาคิดว่าไม่ถูกต้อง โดนเราโกงยินดีที่จะรับฟัง ที่เขาเป็นแบบนี้เชื่อว่าเขาเข้าใจผิดเราถึงไม่โกรธตอนที่ได้ยิน เรายังรักเขา และทุกวันนี้ก็ยังรัก และพร้อมจะรับฟังว่าเขารู้สึกยังไง เพราะการที่เขาไปพูดแบบนั้นเขาก็ต้องมีจุดนึงที่เขารู้สึกว่าเขาคงไม่ไหว"

"ยอมรับว่าหลังการสัมภาษณ์ของเขาวันนั้นเรามีปากเสียงกันในการคุยไลน์ในเรื่องการปิดไอจีและช่องทางโซเซียลมีเดียต่างๆ เขาโกรธที่เราเอาผลิตภัณฑ์ไปโปรโมตในไอจี เขาสั่งให้เราปิดทุกอย่างในวันนั้น เราก็โอเคถ้าเป็นอย่างนั้นก็ยินดี จริงๆเราเองเสียดายมากกับฐานคนที่ฟอลโล่ เพราะทุกภาพเราเขียนเอง เข้าออฟฟิศทำงานตลอด แต่เขาบอกไม่ได้ เราก็ยอมจนวันนี้ปิดเรียบร้อย สุดท้ายข่าวมาออกตอนเย็น เรารับไม่ได้ในคำพูดก็เลยสวนไป ตอนนี้ไม่ได้คุยเลย อยากให้เขานึกถึงเวลาที่โยต้องดูแลหลายชีวิตและอยากให้มีเหตุผลมากๆ กับการที่เราทำธุรกิจใหม่ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย แค่ต้องการลูกน้องที่ติดตัวมาด้วยให้รอด วันที่เราปิดโยบีมันไม่มีการถามสักคำว่าลูกน้องเราจะอยู่อย่างไร กับสิ่งที่จะบอกบี โยทำดีที่สุดแล้วที่คนคนนึงจะทำได้ ทุกวันนี้ไม่เคยโกรธบีเลย และรักบีเสมอ แต่วันนี้ขอแค่ความยุธติธรรมให้กับโยบ้าง"

"เรื่องคำพูดว่าเราเป็นเพื่อนร่วมโลก สำหรับเขาเขาพูดแต่สำหรับเรา เราทำไม่ได้ เพราะทุกวันที่ทำงานกับเขาอึดอัดมาก ถึงขนาดพูดไปเลยว่า แฟชั่นวีคปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายที่จะทำเพราะมันเป็นที่ที่อยู่แล้วไม่มีความสุขจริงๆ ถามคำหนึ่งเวลารักใครสักคนนึงมันตัดได้ง่ายๆไหม สำหรับเราเราทำไม่ได้(น้ำตาซึม) ถ้าจะไม่คบกันเป็นเพื่อนไม่เป็นไรเลย ขอให้เคลียร์ทึกอย่างให้ชัดเจนและรับฟังคนอื่นบ้าง เรื่องจะฟ้องไหมแล้วแต่เขาแต่เราไม่คิด เราอยากให้จบแบบสันติ ไม่ต้องหารให้มีการต่อว่ากันในโซเซียลใดๆทั้งสิ้น อยู่กันแบบสันติ เราไม่เคยว่าเขาสักคำเดียว และเราก็อยากได้รับแบบนั้นเช่นกัน"

"เรื่องที่มีผู้ไม่หวังดี สร้างเรื่องให้เขา ถ้าเราจะทำคงไม่ทำตอนนี้คงทำไปนานแล้ว มาทำตอนที่ทุกคนจะคิดว่าเป็นเราทำทำไม เรากับเขาไม่ได้เที่ยวแฮงค์เอาท์กับเขามาเป็นปี เนื่องจากที่เขาพูดคือความจริงว่า ทัศนคติเราไม่ตรงกัน ช่วงแรกๆที่เราทำธุรกิจด้วยกัน เราคิดว่าเราเหมือน แต่พออยู่ด้วยกันเรารู้ว่าเราต่างกันมาก มันเลยห่างๆกันไป ถามว่าเสียใจไหม เราไม่ได้เสียใจแต่แค่คิดว่า ถ้าวันนั้นไม่ชวนเขาทำหน้าจะยังเป็นเพื่อนกันได้อยู่"