อุ้ม ลักษณา เข้าแจ้งความหลังถูกกล่าวหาว่าขายตัว

อุ้ม ลักษณา แจ้งความข้อหาหมิ่นประมาท รับเสียใจกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น ยันหามีหลักฐานให้เอามาโชว์

จากประเด็นที่มีเอเจนซี่อ้างเคยส่งอุ้มขายตัวเรทราคา 1.5 - 2 แสนบาทแต่ตอนนี้เลิกไปแล้วเพราะมีเสี่ยเลี้ยงซึ่งสร้างความเสียหายอย่างมาก ล่าสุดวันที่ 5 ส.ค. เวลา 14.00 น. ดารานางแบบชื่อดัง"อุ้ม ลักขณา"หรือ"ญริชฎา วัธนวงส์ศิริ" เดินทางพร้อมบิดาเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามหลังถูกกลุ่มคนที่อ้างว่าตนขายบริการทางเพศ โดยเจ้าตัวรวบรวมหลักฐานไว้ครบ ยันเอาเรื่องถึงที่สุด เบื้องต้นแจ้งข้อหาหมิ่นประมาท ท้าหากมีหลักฐานให้เอามาโชว์ หากเป็นจริงตนและครอบครัวยินดีออกจากวงการ รับเสียใจมากกับกระแสข่าวดังกล่าว

อุ้ม-ลักขณา กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากได้รับไลน์ข้อความจากบุคคลคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้หญิงถามตนว่า รับงาน “เอสที” รึเปล่า เราก็ไม่เข้าใจก็เลยถามว่า เอสที คืออะไร เขาก็บอกว่าพี่ไม่รับงานแล้วเหรอ งั้นหนูบอกตรงๆ เลยนะพี่ว่า มันคืองานขายตัว พี่ไม่ขายแล้วเหรอ ตนจึงบอกไปว่าไม่เคยขายตัว ตั้งแต่เข้าวงการมาก็ไม่เคยทำ แล้วก็ได้ถามว่าน้องเขาไปว่าทำไมเข้าใจแบบนั้น และไปเอาไลน์ส่วนตัวของพี่มาได้ยังไง เขาก็บอกว่าพอดีมีเอเย่นซี่ซึ่งเป็นโมเดลลิ่งที่จัดหาผู้หญิงไปขายบริการ แต่ไม่ทราบว่ามีโมเดลลิ่งใครบ้าง 6-7 เอเย่นซี่ เขาก็มีกรุ๊ปไลน์คุยกัน ก็ไปโพสว่ามีใครสามารถติดต่อ อุ้ม-ลักขณา ได้บ้าง

นอกจากนี้ยังมีการบอกเล่ากันว่าตนเคยขายตัว โดยคิดค่าบริการ 1.5 แสนบาท แต่ลูกค้าที่ติดต่อเอเย่นซี่มาบอกว่ายินดีจ่ายให้ถึง 2 แสนบาท แต่ขอให้ติดต่อได้ และเอ็นเตอร์เทน คือรับงานกินข้าวด้วยรึเปล่า เขาจึงไปตามหาตนที่กรุ๊ปไลน์ เอสที ซึ่งก็คือตัวย่อจากคำว่า ซัมติง หรือซั่มกัน จนเขาก็ไปตามหาตนในกรุ๊ปนั้น ซึ่งก็มีคนหนึ่งใช้ชื่อว่า “เฟิร์น” อ้างว่าหาได้ เคยส่งตนให้กับลูกค้ามาแล้วในราคาแสนกว่าบาท แต่บอกอีกว่าดูเหมือนว่าเดี๋ยวนี้ตนจะไม่ทำแล้ว เพราะว่ามีเสี่ยเลี้ยง เขาอ้างกันถึงขนาดนี้

“กระทั่งมีน้องคนหนึ่งชื่อว่า มีมี่ อุ้มไม่ทราบว่าเขามีความสัมพันธ์ หรือรู้จักกับเอก แฟนเก่าของอุ้ม ได้ยังไง เขาก็บอกว่าเขาเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันตอนอยู่ภูเก็ต น้องคนนี้ก็เลยไปถามจากเอก ว่าขอไลน์พี่อุ้มได้มั้ย จะติดต่อเรื่องงาน เรื่องถ่ายแบบ แต่มีมี่ สั่งให้น้องที่ไปขอไลน์อุ้ม อย่าพูดว่าเป็นงานเอสที ให้บอกว่าเป็นงานถ่ายแบบ เพราะถ้าบอกว่าเป็นงานเอสที พี่อุ้ม เขาจะไม่รับ น้องคนนั้นก็เลยถามว่าจะไม่ให้บอกได้ไงเพราะมันคืองานขายนะพี่ แล้วให้โกหกว่าเป็นงานถ่ายแบบ” อุ้ม-ลักขณา กล่าว

อุ้ม-ลักขณา กล่าวอีกว่า รายละเอียดตรงนี้ เอก ก็ไม่ทราบว่าเป็นงานอะไร คิดว่าเป็นงานถ่ายแบบ เขาเลยให้ไลน์ของตนไป น้องคนนี้ก็เลยไลน์มาหา แล้วก็บอกว่าพี่รับงานเอสที รึเปล่า รับอยู่ที่เท่าไหร่ พี่ไม่รับแล้วเหรอ มีเสี่ยเลี้ยงแล้วเหรอ ตนจึงรู้สึกตกใจ แล้วก็คิดว่าทำไมถึงมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง และเกิดขึ้นบ่อยมาก ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการติดต่อมาว่าพร้อมจ่ายค่าตัว 5 แสนบาท แต่เรายืนยันว่าไม่เคยขาย แล้วยังมีการบอกว่า “อุ้มมันขายอยู่แล้ว ลุกแรงๆ อย่างนี้ทำไมจะไม่ขาย” จึงคิดว่าเราควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อออกมาปกป้องตัวเอง

ขณะที่ อภิชาติ พ่อของดารานางแบบชื่อดัง กล่าวว่า มีความประสงค์จะเข้าแจ้งความคนที่ปล่อยข่าวที่ติดต่อมาให้ได้ เพราะหลักฐานทุกอย่างมันมีหมด ทั้งชื่อไลน์ เบอร์โทรศัพท์เรามีทุกอย่าง เรื่องนี้เป็นการกระทำที่เกินเหตุเกินไป ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย มันก็ผิดทั้งคู่เลย รู้ว่ามันผิดแล้วยังจะทำอีก ส่วนเรื่องที่เกิดกับอุ้ม หากว่าคุณมีหลักฐาน ก็เอาออกมาเลย แล้วเราทั้งครอบครัวจะออกจากวงการ ถ้าอุ้มเคยไปทำตอนไหน จะนิ่งเฉยอยู่ทำไม ตนก็เชื่อว่าจะต้องเอามาแฉกันอยู่แล้ว แต่เพราะเขาไม่มีไง แล้วมาพูดแบบนี้ว่าสร้างราคาให้ตัวเอง ก็ออกมาเลย ควรจะบอกตำรวจเพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย เราอยากทำให้เป็นคดีตัวอย่าง

ต่อข้อถามว่าขณะนี้ทราบแล้วหรือไม่ว่าเขาจะติดต่อไปให้บริการกับใคร อุ้ม-ลักขณา กล่าวว่า ทราบแล้วว่าเขาติดต่อไปให้ใคร แต่คงขอปรึกษากับทางตำรวจก่อน เราคงเอาเรื่องหมดทุกกรณีที่ทำได้ คือ ปัจจุบันนี้ก็อยากรู้ ว่าใครที่ชอบปล่อยข่าวแบบนี้ออกมา ตนศรัทธาวงการนี้มาก แต่ก็มักจะมีคนกลุ่มหนึ่งที่จ้องทำลายชื่อเสียงของคนในวงการนี้

“อุ้มว่ามันน่าเกลียดนะ เหมือนแบบว่าคุณไปรู้จักเรามาจากไหน พวกโมเดลลิ่งบางคนก็ไปพูดกันว่า อุ้มไม่รับงานกินข้าวนะ แต่ขึ้นห้องอย่างเดียวเลย พวกคุณสร้างเรื่องราวกัน ทำแบบนี้ได้ยังไง บางทีก็พูดว่ารับกินข้าว แต่ต้องไปที่ลับๆ เพราะเป็นดาราอะไรแบบนี้ คือ มันเป็นการดูถูกอาชีพของเราด้วย” อุ้ม-ลักขณา กล่าวและว่า ตนขายความเซ็กซี่ ก็จริง แต่ตนไม่เคยขายตัว แล้วไม่อยากให้เขาเหมารวม แล้วมันยังมีการเอ่ยไปถึงดาราคนอื่น ซึ่งตนไม่อยากให้เขาไปพูดกัน และส่วนตัวก็ไม่เชื่อว่าดาราจะทำแบบนี้

ด้าน พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ ผกก.1 บก.ป. กล่าวว่า เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจะรับเรื่องไว้ ก่อนจะตรวจสอบหลักฐานต่างๆ และสอบปากคำผู้ร้องทุกข์เอาไว้ แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นหลักฐาน อย่างไรก็ดี เท่าที่ได้ฟังคิดว่าน่าจะสามารถดำเนินคดีเอาผิดกับผู้กระทำการดังกล่าวได้ แต่จะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายใดบ้าง คงต้องขอเวลาในการพิจารณาเสียก่อน

 

อุ้ม ลักษณา เข้าแจ้งความที่กองปราบ

 

 

อุ้ม ลักษณา เข้าแจ้งความที่กองปราบ