สามหนุ่ม ‘ดับเบิลยู เอช โอ’ หล่อ (ล่ำ) เกินห้ามใจ!

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

อะไรเอ่ยไม่ธรรมดา อื้อหือ ไม่ธรรมดา?

คำตอบคือ ไม่ใช่ ไชยา มิตรชัย จ๊ะหนู อย่าตอบแบบนั้น เพราะความไม่ธรรมดาที่ว่า คือ นายแบบโฆษณาเนเจอร์กิฟ เอ็กซ์ตร้า คอฟฟี่ คิวเทน พลัส ที่เข้าตาคนดู แล้วดันไปเข้าตาเจ้าของค่ายเพลงอย่างบอย โกสิยพงษ์ แห่งเลิฟอีส จนนำมาเสกสรรปั้นแต่ให้กลายเป็นทำวงบอยแบนด์ ชื่อ ดับเบิลยู เอช โอ (W H O) ที่มีสโลแกนที่ว่า จากผู้ชายธรรมดามาเป็นบอยแบนด์ อะไรก็เป็นได้ ขอแค่เชื่อว่าเราหล่อ

ถามว่ากระแสความแรง...แรงแค่ไหนน่ะเหรอ?

ซิงเกิลแรกของพวกเขา “ฉันหล่อไป (แอม กู๊ด ลุคกิ้ง)” เผยแพร่ผ่านทางยูทูบมียอดวิวเกือบหนึ่งล้านวิวและซิงเกิลที่สองของพวกเราที่เผยแพร่ไปเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ในเพลง “เลียข้อศอก” ก็กำลังไต่อันดับความแรงจนฉุดไม่อยู่

มาวันนี้ไม่จับเข่าคุยกับพวกเขาเห็นจะไม่ได้การแล้ว เราเลยคุยกับสามหนุ่ม ดับเบิลยู เอช โอ ที่ทั้งฮอตและคูลเอามั่กๆ

แนะนำตัวกันหน่อยลูกพี่

“สวัสดีครับ ผมชื่อ ตุ๊กสมยศ ชัยพระอินทร์ เป็นตัวแทนของดับเบิลยู ที่ย่อมาจากวินมอเตอร์ไซค์ครับ อาชีพจริงๆ ของผม ผมเป็นเทรนเนอร์อยู่ที่เอฟบีทีฟิตเนสครับ”

ตุ๊กเผยให้เราทราบว่าเขาเป็นใคร ซึ่งภาพแรกที่เขาเห็นคือ เขาใช่หนุ่มวินมอเตอร์ไซค์มากๆ จนอดถามถึงคนอื่นๆ ไม่ได้คุณเป็นใคร และทำอะไรมาก่อนหน้านี้

“สวัสดีครับ ผมชื่อ ตงฮิ้มสุรัตน์ พัฒนจารีต ป็นตัวแทนของเอช เฮียร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง อาชีพจริงๆ ของผม ผมเป็นเภสัชกรและมีร้านขายยาของตัวเองอยู่ที่ซอยรางน้ำครับ”

มาที่ฝั่งของหนุ่มตี๋สูงยาวเข่าดีกันบ้างดีกว่า

“สวัสดีครับ ผมชื่อ หลิวอัศนัย ยั่งยืน เป็นตัวแทนของโอ หนุ่มออฟฟิศ อาชีพจริงๆ ของผม ผมเป็นครูสอนเทควันโด เปิดยิมสอนเองที่บ้าน เนื่องจากพอได้สายดำดั้งสี่ ก็คิดว่ามาลองสอนเด็กๆ ดีกว่า ก็เลยผันตัวเองมาเป็นอาจารย์สอนและสามารถออกใบประกาศนียบัตรให้เด็กๆ ได้ แต่ยังให้ใบประกาศนียบัตรสายดำไม่ได้ ต้องสายดำดั้ง 5 ถึงจะให้ได้ครับ”

ก่อนมาเป็นบอยแบนด์

ตุ๊กเผยให้เราทราบว่า เขาไม่เคยผ่านงานในวงการบันเทิงมาก่อน งานนี้เป็นงานแรก ส่วนตงฮิ้มเผยว่า เขาเคยผ่านงานในวงการบันเทิงด้านงานเต้นมาพอสมควร

“โดยส่วนตัวผมชอบเต้นฮิปฮอป เต้นป๊อปปิ้ง โดยศึกษาเองและเรียนตามสตูดิโอ รวมทั้งได้ออกแบบท่าเต้นให้กับศิลปินต่างๆ และเป็นครูสอนเต้นตามสถาบันต่างๆ ด้วยครับ สำหรับผมงานการเต้น ก็มีคอนเสิร์ตของแร็พเตอร์ เจนนิเฟอร์ คิ้ม กอล์ฟ พิชญะ และคอนเสิร์ตเล็กๆ ตามที่ต่างๆ แต่ผมหยุดเต้นไปสองปี เพื่อทำธุรกิจของตัวเอง แล้วก็กลับมาทำงานชิ้นนี้นี่แหละครับ”

สำหรับหลิว เขาเผยว่า จุดเริ่มต้นของเขา คือ ละครเวที เรื่อง บ็อกซิ่ง บอยส์ และผู้ใหญ่ก็เห็นว่าเขาสามารถเล่นละครได้จึงให้โอกาสเล่นละคร ซึ่งก็มีผลงานอยู่หลายเรื่องพอควร

“ผมเล่นละครของของค่ายเอ็กแซ็กท์ครับและก็มีผลงานโฆษณาอีกหลายตัว จนมาถึงโฆษณาเนเจอร์กิฟและวงดับเบิลยู เอช โอ นี่”

กับโฆษณาเนเจอร์กิฟ

ตงฮิ้มเผยว่า เขาทั้งสามคนผ่านการแคสติ้ง ทั้งร้อง เต้น แอ็กติ้ง แต่โฆษณาของเนเจอร์กิฟตัวนี้จะไม่ได้เน้นการร้องเป็นพิเศษ จะเน้นหุ่นเป็นพิเศษครับ รวมทั้งเรื่องเต้นแล้วก็แอ็กติ้งด้วย ส่วนเรื่องร้องไม่จำเป็นครับ ให้พอร้องได้ก็พอ

“ผมทำงานอยู่ที่ร้านขายยาตามปกติ แล้วมีคนโทรมาอยากให้ไปแคส เพื่อนๆ ที่เป็นแดนเซอร์คงบอกทีมแคสติ้งว่าคาแรกเตอร์ผมได้หมด พอทีมงานโทรมาผมก็ปฏิเสธ เพราะเมื่อก่อนไปแคสโฆษณาเยอะ ไม่เคยได้เลย แต่ก็ตัดสินใจไปแคส เพราะคิดว่าตัวเองมีหุ่นที่เฟิร์มขึ้นและอยากให้ชีวิตมีสีสันก็เลยไป พอผมแคสเสร็จก็รอเป็นเดือนกว่าจะได้ถ่ายทำ ตอนแรกผมได้รับบทเป็นเภสัชกร แต่ทีมงานมาเปลี่ยนเป็นอาเฮียขายอุปกรณ์ก่อสร้างเพราะเกรงว่าโฆษณาตัวนี้จะไปกระทบต่อคนทำงานเภสัชกร”

ในส่วนของหลิว เขาเผยว่า เขาก็ไปแคสงานตามปกติ พอแคสได้ก็รอเป็นเดือนกว่าจะถ่ายทำ เหตุที่ทั้งหลิวและตงฮิ้มต้องรอเป็นเดือน นั่นเป็นเพราะคนที่จะมารับบทวินมอเตอร์ไซค์...หายากมาก ตุ๊กเผยว่า กว่าบทนี้จะตกเป็นของเขา ทีมงานค้นหามานานมาก พอเขาไปแคสติ้งประมาณสองครั้ง ใช้เวลาสองวัน เขาก็ได้รับบทนี้ไป และเริ่มต้นถ่ายทำเลย

“ผมจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันหยุดของผม แล้วมีน้องที่รู้จักโทรมาชวนให้ไปแคสติ้งโฆษณาตัวนี้ เขาอยากได้คนหน้าตาแบบนี้ หุ่นแบบนี้ แล้ววันนั้นผมไม่มีอะไรทำพอดี ก็เลยไปแคส ตั้งแต่หนึ่งทุ่มจนถึงห้าทุ่ม พอไปแคส เรื่องเต้นก็ผ่าน เพราะอยู่ฟิตเนส ผมเคยสอนคลาสเต้นมาก่อน แต่ผมติดเรื่องแอ็กติ้ง แคสถึง 60 เทก ก็เครียดเหมือนกัน คิดว่าคงไม่ใช่ทางของเรา แคสเสร็จผมก็รอคำตอบ พอเที่ยงคืนเขาโทรมาบอกให้ไปแคสกับผู้กำกับในอีกวัน พอแคสกับผู้กำกับเสร็จ เขาก็บอกว่าผมได้เลย สงสัยผมนี่แหละเหมาะกับบทนี้จริงๆ (หัวเราะ)”

สามหนุ่มเผยว่า ตอนถ่ายโฆษณา ทั้งสามแยกกันถ่าย ไม่ได้เจอกัน มาเจอกันวันสุดท้าย ตอนมาถ่ายรวมกันเขารู้สึกสนุกมาก เหตุเพราะมันเป็นอะไรที่ฮามาก มีคนมากรี๊ด มาถือป้ายไฟเชียร์ ผิดกับตุ๊ก

“พอโฆษณาตัวนี้ออนแอร์ เราตื่นเต้นกันมาก คนรอบข้างก็เข้ามาทัก และคนส่วนใหญ่ก็คิดว่าเราสามคนทำอาชีพนั้นจริงๆ (หัวเราะ)”+

จากโฆษณามาเป็นวงบอยแบนด์

ตงฮิ้มบอกเล่าให้เราทราบว่า จุดเริ่มต้นในการต่อยอดจากโฆษณามาเป็นวงบอยแบนด์ มาจากการที่ บอย โกสิยพงษ์และเนเจอร์กิฟ ได้เล็งเห็นถึงอะไรบางอย่างตั้งแต่ตอนถ่ายทำและคิดว่าน่าจะต่อยอดได้ เลยเตรียมการเพื่อทำวงบอยแบนด์นี้ขึ้นมา หลิวเสริมว่า สำหรับตัวเพลงที่เป็นโฆษณากับเพลงฉันหล่อไป ณ ตอนนี้ ก็เป็นคนละเวอร์ชั่นกัน

“พี่บอยให้ทีมงานจากค่ายเลิฟอีสเป็นคนเรียบเรียงใหม่ เนื้อเพลงก็มีการเปลี่ยนเนื้อไปบ้างและคนที่ร้องเพลงนี้ก็เป็นนักร้องจากวงเดอะ บีกินส์ ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่า ทั้งเพลงจากโฆษณากับเพลงฉันหล่อไป เราไม่ได้เป็นคนร้อง แต่พวกเราก็ร้องกันได้นะ (หัวเราะ)”

ตุ๊กเผยว่า ตอนที่ทางค่ายเลิฟอีสจะเอาเขาทั้งสามคนไปทำวงบอยแบนด์ ต่างก็ตกใจ ไม่เชื่อ คิดว่าอำแน่ๆ แต่พอบอกว่าเป็นบอยแบนด์ที่ไม่ได้เน้นหน้าตา ไม่ได้เน้นเสียงร้อง เอนเตอร์เทนคนดูด้วยร่างกาย และสเต็ปการเต้น เขาทั้งสามเห็นว่ามันแหวกแนวดี และน่าจะขายได้ ก็เลยตัดสินใจทำ

ท่าเต้น แอ็กติ้ง และกับการเป็นวงบอยแบนด์

หลิวเผยว่า ท่าเต้นมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอย่างที่ใครๆ หลายคนคงเห็นว่าเขาทั้งสามคนเต้นกันทั้งเพลง ซึ่งเพิ่มท่ายากในซิงเกิลที่สองอีกต่างหาก

“เรามีครูมาสอนท่าเต้นให้ครับ ซึ่งเราก็เต็มที่กันมาก แม้จะมีจุดยากตรงที่ต้องเต้นให้พร้อมเพรียงกันให้ไปด้วยกันได้ แต่ไม่ว่าจะยังไงเราต้องเชื่อว่าเราเต้นแล้วหล่อและดูดี เพื่อให้คนที่ดูผลงานเราเชื่อว่าเราเต้นแล้วหล่อและดูดีได้จริงๆ”

สำรับตงฮิ้มและตุ๊ก เผยตรงกันว่า จุดที่ยากอาจยากตรงที่ต้องใส่อินเนอร์ในการเต้นให้สุดๆ “รวมทั้งท่าร่อน เราสามคนต้องร่อนให้เต็มเหนี่ยวครับ (หัวเราะ)”

เรื่อง (ไม่) ลับ ฉบับหนุ่มกล้ามโต

ตุ๊ก : เป็นคนที่เงียบที่สุดในวง แต่ถ้าได้เต้น เขาจะเปลี่ยนเป็นอีกคน สำหรับตุ๊ก การเต้น คือ ชีวิต คือ การต่อสู้ กล้ามเนื้อ และท่วงท่าของเขาจะพูดแทนทุกอย่างที่เขารู้สึกออกมา

ตงฮิ้ม : เป็นตัวฮาของวง ด้วยคาแรกเตอร์ที่ร่าเริง บ้าบอ เขาทำให้คนรอบข้างยิ้มได้เสมอ เขาชอบเต้นท่าแปลกๆ ให้คนอื่นดูมาตั้งแต่เด็ก และวันนี้เมื่อเขาโตขึ้น การเต้นบวกกล้ามเนื้อของเขา ก็ทำให้สาวๆ ยิ้มแก้มแดงเลยทีเดียว

หลิว : เป็นผู้ชายโรแมนติก อารมณ์อ่อนไหว ในขณะเดียวกันก็เป็นคนมุ่งมั่น จริงจัง การเต้นของเขาจึงมีส่วนผสมของความอ่อนพลิ้วและแข็งแรงในคราวเดียวกัน หลิวเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น แต่ถ้าใกล้ไปจะรู้สึกได้ถึงความร้อนแรง