posttoday

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เปิดใจขอโทษสังคม

19 พฤษภาคม 2557

"น้องฝ้าย"มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เปิดใจขอโทษสังคมมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ยืนยันจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก ยอมรับรูปร่างท้วมเร่งฟิตหุ่นก่อนขึ้นเวทีโลก

"น้องฝ้าย"มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เปิดใจขอโทษสังคมมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ยืนยันจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก ยอมรับรูปร่างท้วมเร่งฟิตหุ่นก่อนขึ้นเวทีโลก

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. หลังจากที่องค์กรมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เลื่อนการเดินสายขอบคุณสื่อ เพื่อเชิญสื่อมาร่วมรับฟังการชี้แจงของสามสาวงาม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ หลังจบรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ณ ชั้น 10 อาคารมาลีนนท์ โดย "ฝ้าย-เวฬุรีย์ ดิษยบุตร" มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014 เผยกับกองทัพสื่อมวลชนว่า ตอนนี้สภาพจิตใจของเธอดีขึ้น เข้มแข็งขึ้น เพราะได้กำลังจากคนรอบข้างเยอะมาก แม้ว่าเธอจะได้รับแรงกดดันที่มีคนคอยเปรียบเทียบ วิพากษ์วิจารณ์เรื่องรูปร่าง แต่เธอก็เอาแรงกดดันนั้นมาเป็นกำลังใจทำให้เธอฮึดสู้ เพื่อพัฒนาต่อไป เพื่อทำให้เธอสามารถมายืนตรงจุดนี้ได้

"หลังจบการประกวด ก็มีคนรอบข้างบอกมาว่าเกิดเรื่องราวอะไรขึ้น เขาก็แนะนำว่าอย่าเพิ่งเข้าไปดูไปเช็คข่าวทางโซเชียลมีเดีย เดี๋ยวมันจะบั่นทอนจิตใจ อยากให้เราโฟกัสไปที่เรื่องการพัฒนาตัวเองก่อน"

สำหรับกระแสข่าวที่เกิดขึ้นมากมายหลังเธอได้รับมงกุฏ ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่เธอได้เป็นการล็อคตัวไว้หรือเปล่า เวฬุรีย์เผยว่า ไม่ได้ล็อคตัวแน่นอน "เห็นได้จากวันประกาศผลที่ฝ้ายตกใจมากจริงๆ ฝ้ายไม่ได้รู้อะไรแน่นอน รวมทั้งไม่เกี่ยวกับทางช่อง 3 ผลักดันเพื่อให้ละครเรื่องเรือนริษยา ของผู้จัด ตุ๊ก-จันทร์จิรา จูแจ้ง ที่จะออกอากาศในเร็ววันนี้ เกิดเป็นกระแสข่าวขึ้นมา ฝ้ายขอบอกว่าไม่ใช่จริงๆ การไปเล่นละครของฝ้าย ก็เหมือนการไปฝึกงานของเด็กสตรอเบอรี่ชีสเค้กที่ต้องเล่นละครจากบทเล็กๆ ก่อน ไม่ได้เกี่ยวกับที่ฝ้ายต้องมาประกวด และไม่ได้ล็อคตัวเพราะละครกำลังจะออนแอร์อย่างแน่นอนค่ะ"

ในส่วนที่มีการนำภาพจากทวิตเตอร์ส่วนตัวของเวฬุรีย์มาพูดถึงเกี่ยวกับการเข้ามาประกวดแบบงงๆ เธอเผยว่า ที่งงเพราะเธอติดถ่ายละครเรือนริษยา กลัวว่าถ้ามาสมัครจะต้องติดถ่ายละครหรือเปล่า "แต่พอฝ้ายได้ปรึกษาพี่ตุ๊ก แกเห็นว่าไม่ติดถ่ายอะไรแล้ว ฝ้ายก็เลยมาทำตามความฝัน มันก็เลยงงๆ ที่เราสามารถมาทำตามความฝันของเราได้แล้วจริงๆ"

นอกจากนี้ยังมีกระแสดข่าววางตัวไม่เหมาะสม พูดจากหยาบคาย สูบบารากุในที่สาธารณะ และแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่่างดุเด็ดเผ็ดมัน เวฬุรีย์เผยว่า เธอต้องขอโทษพี่ๆ แฟนนางงามและคนไทยทั้งประเทศที่เธอวางตัวไม่เหมาะสม และขอยืนยันว่าจะไม่มีพฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นอีก

"ตอนนี้ฝ้ายเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์แล้วก็จะทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชน และฝ้ายจะนำคำติมาปรับปรุง ไม่พูดจาด้วยถ้อยคำหยาบคายอีก กับภาพหลุดที่เหมือนว่าฝ้ายกำลังสูบบารากุอยู่นั้น จริงๆ แล้วฝ้ายไปกินอาหารกับเพื่อนสองคนที่ตรอกข้าวสาร ระหว่างรออาหาร ก็เล่นเกมกับเพื่อน เป่าลูกโป่งที่เป็นสบู่ แล้วเพื่อนก็ถ่ายรูปเก็บไว้ กับเรื่องการเมือง ที่ฝ้ายวิจารณ์คนเสื้อแดง ตอนนั้นฝ้ายยังอยู่ในวัยที่คิดอะไรไม่ได้ เป็นอารมณ์ชั่ววูบฝ้ายเท่านั้น และในเรื่องของการที่มีข่าวว่าฝ้ายเป็นเมียน้อยครูสอนโยคะ ความจริงคือ ตอนนั้นฝ้ายอ้วนมาก ฝ้ายก็เลยไปเรียนโยคะทุกเย็น จนไม่มีเวลาให้เำพื่อน ปกติเราจะไปกินข้าวกัน จนเพื่อนน้อยใจ เลยตั้งเป็นฉายาตลกๆ ให้ว่า เป็นเมียน้อยครูสอนโยคะ ก็แค่นั้นเอง"

กับการเอารูปในอดีตมาแฉ เวฬุรีย์เผยว่า ตอนแรกเธฮรู้สึกเครียด ด้วยความที่เข้ามาทีเดียวพร้อมกันหมด ไม่คาดคิดว่าเรื่องมันจะเกิดเป็นแบบนี้ แต่เธอโชคดีดีที่คนรอบข้างเข้าใจ รู้ว่าเธอเป็นคนยังไง "พ่อแม่พี่น้องให้กำลังใจ บอกฝ้ายว่าอย่าเก็บมาคิดมาก เรื่องมันผ่านไปแล้ว แค่เราทำวันนี้ให้ดีที่สุด รับหน้าที่มาแล้วต้องทำให้ดีที่สุด ทำให้เห็นว่าเราก็สามารถทำได้ในตำแหน่งนี้"

กับกระแสข่าวที่มีกลุ่มแหนนางงามพยายามเรียกร้องให้เวฬุรีย์สละมงกุฏ เธอยืนยันว่า ไม่ได้สละมงกุฏและสละสิทธิ์การเป็นมิสยูนิเวิร์สอย่างแน่นอน และวิงวอนให้แฟนนางงามเห็นพัฒนาการของเธอว่าเธอสามารถพัฒนาไปได้ไกลแค่ไหน

"ฝ้ายอยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้ฝ้ายไปประกวดเวทีระดับโลกให้ดีที่สุดีดกว่าค่ะ รวมทั้งอยากให้ทุกคนมองฝ้ายให้ลึกรอบด้าน ไม่ใช่แค่มองในสิ่งที่เห็น บางทีการมองหรือรับฟังด้านเดียว ไม่สามารถบอกได้ว่าฝ้ายแรง นิสัยไม่ดี ใช้คำหยาบตลอดเวลา ตอนนี้ฝ้ายเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ฝ้ายก็ต้องประพฤติตัวดีให้เหมาะสมกับตำแหน่ง ฝ้ายสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก และจะพัฒนาให้ทุกคนได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของฝ้ายอย่างแน่นอนค่ะ"

สำหรับรองอันดับ 1 “แอลลี่-พิมบงกช จันทร์แก้ว" เธอเผยกับกองทัพสื่อมวลชนว่า เธอเคารพในการตัดสินจากคณะกรรมการ และยอมรับอย่างคนที่มีน้ำใจเป็นนักกีฬา ที่รู้แพ้รู้ชนะรู้อภัย เพราะเธอเคยเป็นนักกีฬามาก่อน

"จริงๆ จากใจคือเสียใจ เพราะนี่คือความฝัน แต่เสียใจไม่เยอะ ดีใจมากกว่าที่ได้เดินตามฝัน ทุกคนมีความฝัน และแอลลี่ก็กล้าเดินตามฝัน แม้จะไม่ได้ทำความฝันให้กลายเป็นจริง"

ผู้สื่อข่าวถามพิมบงกชว่า ตอนที่ทุกคนตะโกนเชียร์เธอ เรียกชื่อ แอลลี่ อยู่ตลอดเวลา จนทำให้เธอร้องไห้ออกมา เธอร้องไห้เพราะเสียใจที่ไม่ได้ตำแหน่งใช่ไหม พิมบงกชเผยว่า ที่ร้องไห้เพราะดีใจและตื้นตั้นใจที่ทุกคนรักและอยากให้เธอได้ตำแหน่ง

"ตอนนั้นที่ร้องไห้ ไม่ได้ร้องไห้เสียใจ เป็นการร้องไห้ดีใจที่ทุกคนตะโกนเชียร์เรามากกว่าค่ะ"

มาที่รองอันดับ 2 “น้ำเพชร-สุณัณณิภาร์ กฤษณสุวรรณ" กับกระแสข่าวโจมตีเรื่องโกงอายุ มีภาพหลุดเซ็กซี่ ขึ้นคร่อมตัวผู้ชาย สุณัณณิภาร์ เผยว่า เธอเตรียมใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้แล้ว รวมทั้งทำใจมาก่อนหน้าที่จะประกวด ว่าเมื่อหากเธอได้รับตำแหน่ง ย่อมมีสิ่งนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

"การที่เรามายืนตรงอยู่จุดนี้ มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียดเป็นธรรมดา ซึี่งสิ่งเหล่านี้เราทำใจตั้งแต่ก่อนการประกวดแล้วค่ะ"

ในส่วนของเรื่องโกงอายุ สุณัณณิภาร์ได้นำเอาสูจิบัตรมายืนยันต่อหน้ากองทัพสื่อมวลชน โดยเธอเกิดที่โรงพยาบาลราชวิถี เมื่อวันที่ 30 กรกฏาคม 2535 เวลาเกิด 13.41 นาที โดยตอนนี้เธอมีอายุ 21 ปี 11 เดือน

"ตอนหนูประกวดกอซซิป เกิร์ล หนูอายุ 20 ปี 9 เดือน ยังไม่เต็ม 21 หนูก็ยังอายุ 20 ปีอยู่ และ ณ ขณะที่หนูประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ หนูอายุ 21 ปี 11 เดือน (แต่ทำไมออกรายการคุณสรยุทธ ถึงพูดว่า 20 ปี 2 เดือน ตกลงเป็นไง-ผู้สื่อข่าวถาม) หนูอยากให้เข้าใจว่าเรื่องอายุอาจเป็นการเข้าใจผิด หนูเองก็ไม่คาดคิดว่าหนูจะได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้ นี่เป็นความฝันของหนู ตอนปี 2012 หนูก็มาประกวด แต่สละสิทธิ์ในการคัดตัว เพราะหนูมีเหตุผลจำเป็นเกี่ยวกับทางบ้าน ตอนหนูสละสิทธิ์ หนูไปฝึกฝนการเดิน การพูด ความสามารถพิเศษ บุคลิกภาพ เพื่อมาประกวดในครั้งนี้"

กรณีที่มีภาพหลุดขึ้นคร่อมตัวผู้ชาย สุณัณณิภาร์เผยว่า เป็นภาพจากการประกวดฟิตแอนด์เฟิร์ม บอดี้เฟิร์ส 2012 ซึ่งไม่ใช่งานพริตตี้อย่างที่หลายคนพูดถึง "มันเป็นการประกวดให้คู่บัดดี้ออกกำลังกาย ซึ่งบัดดี้หนูคือแจ็ค ซึ่งสนิทกันตั้งแต่เดินแบบ แล้วรูปที่คร่อมตัวแจ็ค คือรูปที่หนูกำลังซิทอัพอยู่ รูปก็ไม่ไ่ด้เซ็กซี่เหมือนเอฟเอชเอ็มหรืออะไร มันเป็นรูปที่ให้คนออกกำลังกาย ซึ่งหนูไมไ่ด้ตกใจอะไร เพราะรูปม้ันอยู่ในเพจของสยามบันเทิงซึ่งเป็นคนจัดประกวดอยู่แล้ว

ท้ายที่สุด สุณัณณิภาร์ ขอโทษและขอโอกาสต่อหน้ากองทัพสื่อมวลชน โดยเธอพูดว่า เธอไม่สามารถกลับไปแก้ไขเรื่องราวในอดีตได้ เธออาจประกวดเซ็กซี่มาก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะแรงหรือไม่ดี

"หนูอยากให้สังคมมองในสิ่งที่หนูทำในปัจจุบัน มองในสิ่งที่หนูทำในตอนนี้ รวมทั้งมองเห็นโครงการที่หนูทำก่อนมาประกวด นั่นคือโครงการจิตอาสาพัฒนาโรงเรียนชนบท หนูอาจไม่ใช่คนที่ดีพร้อม แต่ก็พร้อมจะเป็นคนดีที่สุดของพ่อแม่และสังคมค่ะ หนูต้องขอโทษจากใจจริงๆ ถ้าทำให้ทุกคนผิดหวัง และขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้อย่างท่วมท้น ฝากโครงการจิตอาสาพัฒนาโรงเรียนชนบทของหนูด้วยนะคะ"

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เปิดใจขอโทษสังคม

 

มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เปิดใจขอโทษสังคม