posttoday

ศิลปินหมอลำแห่งชาติ บานเย็น รากแก่น

08 กุมภาพันธ์ 2557

“ศิลปินแห่งชาติ” เป็นรางวัลที่ “บานเย็น รากแก่น” อยากได้มากที่สุดในชีวิต แม้ว่าตลอดเวลาที่อยู่ในวงการลูกทุ่งหมอลำมาเกือบ 50 ปี

โดย...นกขุนทอง

“ศิลปินแห่งชาติ” เป็นรางวัลที่ “บานเย็น รากแก่น” อยากได้มากที่สุดในชีวิต แม้ว่าตลอดเวลาที่อยู่ในวงการลูกทุ่งหมอลำมาเกือบ 50 ปี จนได้รับการยกย่องให้เป็นถึง “ราชินีหมอลำ” จะมีรางวัลการันตรีคุณภาพการทำงานของเธอมาแล้วมากมาย ทว่าสูงสุดแห่งชีวิตเธอก็อยากได้ชื่อว่าเป็นศิลปินแห่งชาติ หากแต่เพียงคิดไม่ถึงว่าจะมีวันนี้

เมื่อกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ประกาศรายชื่อ “ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2556” ปรากฏว่า มีชื่อของ พ.ศ. 2556 โดย “บานเย็น รากแก่น” อยู่ด้วย

ในที่สุดเธอก็ได้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (การแสดงพื้นบ้านหมอลำ) ประจำปี 2556

“สุดยอดของชีวิตแล้ว ถือเป็นขั้นสุดท้าย ศิลปินแห่งชาติเป็นที่สูงสุดในชีวิตของบานเย็น” บานเย็นบอกเป็นประโยคแรกหลังจากได้รับรางวัลยิ่งใหญ่ที่ใฝ่ฝัน แม้ว่าจะผ่านวินาทีแรกที่รู้ตัวว่าได้รับรางวัลศิลปินแห่งชาติมาแล้วนับร้อยชั่วโมง แต่ความปลาบปลื้มใจยังไม่ลดน้อยลงเลย

มิหนำซ้ำยังพร่ำขอบคุณผู้มีพระคุณทั้งหลายที่คอยสนับสนุนจนส่งให้เธอมาถึงวันนี้ ทั้งครูเพลงที่เขียนเพลงดีๆ ให้ ถึงขนาดเอ่ยกันว่า ถ้าเขียนเพลงให้บานเย็นร้องต้องให้สิ่งที่ดีที่สุด บริษัทนายห้างที่สนับสนุนมานมนานอย่าง ท็อปไลน์ ไดมอนด์ ดีดี เรคคอร์ด คณะกรรมการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติที่เห็นคุณค่าในตัวเธอ และที่บานเย็นย้ำแล้วย้ำอีก ให้พิมพ์บอกในที่นี้ให้ได้ก็คือ แฟนเพลงทั้งหลาย พี่น้องชาวอีสานที่รักบานเย็นเหนียวแน่น ตลอดจนพี่น้องทั่วทั้งประเทศไทยที่เปิดรับให้โอกาสศิลปินหมอลำได้เข้าไปมอบความบันเทิง เปิดรับวัฒนธรรมประเพณีอีสานที่เธอตั้งใจนำไปถ่ายทอดสืบสาน

ศิลปินหมอลำแห่งชาติ บานเย็น รากแก่น

 

รางวัลพระราชทานผู้อนุรักษ์เพลงพื้นบ้านดีเด่น จากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ปี 2539 เกียรติบัตรศิลปินพื้นบ้านอีสาน จากกรมศิลปากร ปี 2542 รางวัลพระพิฆเนศทองคำพระราชทาน ปี 2542 เป็นอาทิ ทุกรางวัลที่บานเย็นเคยได้รับจนถึงรางวัลล่าสุด ล้วนเป็นกำลังใจและแรงผลักให้บานเย็นยังทำงานต่อ แม้ว่าตอนนี้อายุ 62 ปีแล้วก็ไม่ขอวางมือจากวงการ

“ทุกรางวัลที่เคยได้รับเก็บไว้หมด ไว้เตือนใจตัวเอง มองดูแล้วชื่นใจให้มีกำลังใจทำงานต่อ อย่างรางวัลศิลปินแห่งชาติ พูดกันตามตรงเราทำงานตรงนี้เราก็อยากได้ เพราะเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ แต่ไม่คิดว่าจะได้ เพราะในบ้านเรามีศิลปินเก่งๆ มีคุณภาพที่เหมาะสมกับรางวัลนี้ เราไม่รู้ว่าเราจะก้าวขึ้นถึงขั้นนี้ได้หรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ถึงไม่ได้เราก็ยังทำงานให้ดีที่สุด ถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมต่อไป เพราะคนยอมรับเรา ตั้งให้เราเป็นราชินีหมอลำแล้ว ตรงนี้ก็เหมือนเป็นสิ่งติดตัวเราตลอดเวลา เราเหมือนตัวแทนที่จะต้องสืบสานศิลปวัฒนธรรมต่อไป

แต่พอถึงวันนี้ที่เราได้ เป็นเกียรติกับวงศ์ตระกูล เป็นเกียรติต่ออาชีพ โอย สุดยอดของศิลปิน อยู่มาเกือบ 50 ปี ถือว่าวันนี้เราประสบความสำเร็จแล้ว ตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงวันนี้ แต่ก็ยังไม่หยุดทำงานนะ ยังทำอยู่และยังคิดพัฒนางานใหม่ๆ ยิ่งได้รางวัลมา ยิ่งทำให้เรากระตือรือร้น บางทีคิดไปก็ท้อเหมือนกันนะ เพราะความเหนื่อย เราทำงานอย่างเดียวมาตลอด 50 ปี ถามตัวเองอยู่หลายครั้งว่า จะหยุดบ้างไหม แต่พอได้รางวัลแต่ละครั้งก็ไปไหนไม่ได้ (หัวเราะ) เราต้องอยู่ เราต้องทำต่อไปที่นี้การบ้านก็มาแล้ว จะทำอะไรต่อไป อยากสร้างสรรค์งานดีๆ ออกมา รางวัลทุกรางวัลคือกำลังใจที่ดีมากๆ”

คงทราบกันอยู่แล้วว่าตั้งแต่ยังละอ่อน เป็นหมอลำกลอนดาวรุ่ง งานของบานเย็นมีทุกวัน บางวันมีหลายงานติด จนสุขภาพร่างกายรับไม่ไหวจึงรับงานลดน้อยลง แม้กระทั่งตอนนี้งานจ้างของบานเย็นก็ยังมีตลอด หากเปิดรับหมดก็ฮอตไม่แพ้ตอนสมัยยังสาว เพียงแต่ตอนนี้ขอเลือกรับงานที่ไปมาสะดวกไม่เหนื่อยมากนัก และรับงานไม่ถี่จนเกินไปเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน ที่สำคัญมีเวลาอยู่กับครอบครัวอยู่กับลูกกับหลานมากขึ้น

...“ถ้ารับก็มีทุกวัน บางวันมีสองที่ แต่ตอนนี้ขอเลือกงานที่ไปมาสะดวก แล้วขอไม่เล่นเยอะเป็นชั่วโมงคงไม่ไหว เอาแค่กำลังเราพอดีพองาม เพราะลูกๆ ก็ขอร้องให้พัก แต่แม่บอกว่าให้พักก็อยู่เฉยไม่ได้ มันเหงา เพราะชอบงานนี้ อยู่กับแฟนเพลงมาตลอดชีวิต วันหนึ่งหายไปเลย ไม่เห็นแฟนคลับหน้าเวที เราเองนั่นแหละที่รับไม่ได้ (หัวเราะ) เพราะรู้สึกเหมือนเราเป็นญาติพี่น้องกันไปแล้ว มาเจอกันสังสรรค์กัน ไม่ได้คิดว่าไปแสดงเป็นทางการ จะหยุดเลยทีเดียวไม่ได้ แม่ขอไปบ้าง อย่างบางงานก็ว่าจะไม่รับนะ แต่เจ้าภาพโทรมาเอง เป็นคุณยายอายุ 85 ปี บอกว่าไม่เคยเจอตัวจริงบานเย็นเลย จะตายไปเฉยๆ โดยไม่เห็นหน้าไม่ได้ มาเล่นให้ดูหน่อย เราก็รับแล้ว ส่วนมากจะเป็นแบบนั้น ใจอ่อน ทุกวันนี้เดือนหนึ่งก็รับงาน 20 งานได้ แต่จากนี้ไปจะพยายามปรับปรุงการรับงานแล้ว เอาตามกำลัง ไม่เอาให้เหนื่อยมาก เหมือนเราไปท่องเที่ยวพักผ่อน เห็นหน้ากันร้องรำกันแล้วต่างคนต่างกลับบ้าน ชื่นใจ มีความสุข”

ศิลปินหมอลำแห่งชาติ บานเย็น รากแก่น

 

เพราะเหตุใด บานเย็น รากแก่น ถึงยังเป็นที่ยอมรับของแฟนๆ แม้จะข้ามมากี่ยุคกี่รุ่น และยังเป็นศิลปินที่โดดเด่นในการร้องการรำที่สวยงาม “ทำงานมานานก็จริง แต่เรามีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ มีทั้งของเก่าของใหม่ เวลาแฟนๆ ได้ดูบานเย็น เขาจะรู้สึกสบายหูสบายตา เขาบอกว่า ดูบานเย็นเต็มตาดี ถ้าคนอีสานเขาจะบอกว่าซวง คือดูแล้วโล่งดูแล้วสบายตาสบายใจไปหมด บานเย็นครบเครื่องได้ทั้งร้องทั้งฟ้อน หน้าตาก็ได้ (หัวเราะ) หลายคนบอกว่าอย่าเลิกนะ

การร้องหมอลำแบบเก่าเราก็ร้อง ทำนองเก่า ลีลาเก่า อนุรักษ์ไว้หมด ไปโชว์ที่ไหนใครขอร้องได้หมด และเรามีการพัฒนาประยุกต์ทั้งการร้อง การฟ้อน การแต่งตัว ให้เข้ากับสมัยใหม่ด้วยเหมือนกัน เรียกว่า หมอลำประยุกต์ ให้คนไทยทั่วประเทศเข้าใจได้หมด จะคนรุ่นเก่ารุ่นใหม่ก็ฟังได้ ถ้าเราร้องแต่หมอลำแบบเก่า เด็กรุ่นใหม่ก็ไม่สนใจฟังไม่รู้เรื่อง เราก็ปรับเปลี่ยนตามยุคตามสมัย ให้ลูกหลานคนที่คิดจะสืบทอดวัฒนธรรมไม่ยาก เริ่มที่ให้เขาฟังแล้วมีความสุขก่อน จนเกิดความรู้สึกอยากสานต่อ”

บานเย็นไม่ได้เก็บความรู้ในศิลปะร้องลำหมอลำไว้กับตัวเพียงคนเดียว แต่ยังขึ้นชื่อเป็นครูที่ได้ถ่ายทอดไปยังลูกศิษย์ลูกหาแล้วหลายคน

“เราไม่สามารถหาลูกศิษย์ที่จะมาเหมือนเราได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกคนมีทางของตัวเอง ตอนนี้ก็เปิดสอนเป็นคอร์สๆ ที่ผ่านมาเปิดมาก็เต็มหมด ถ้าอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี ก็จะมีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานีช่วยประชาสัมพันธ์ให้ มีสอนทุกอย่างทั้งฟ้อน ร้อง การเล่นลูกคอ ลูกเอื้อน คนเสียงเบาสามารถทำได้แค่ไหน เลี่ยงไปทำให้เป็นเอกลักษณ์ของเขา ไม่ได้บังคับให้เป็นแบบบานเย็น แต่ดูว่าเสียงเขาเป็นแบบนั้น เล่นอะไรได้บ้าง เอาให้ดีที่สุดของเสียงเขา”

นอกจากคนนอก ลูกในไส้อย่าง “แคนดี้ รากแก่น” ก็เป็นตัวแทนแม่ขอเข้ามาร่วมสืบสานศิลปะการแสดงนี้ “แคนดี้เขาไปกับแม่ตลอดตั้งแต่เขายังเด็ก แม่ไม่ได้สอนเขาหรอก เขาซึมซับของเขาไปเอง เพราะเราอยู่กันแบบนี้ ใกล้ชิดกัน ดูแม่ร้องเพลงตลอด บางคำไม่เข้าใจก็ถามแม่ แต่จะให้แคนดี้มาทางหมอลำเลยเขาไม่ได้ ให้เขาเป็นหมอลำป๊อปร็อก เพราะบุคลิกเขาห้าวๆ ลีลาท่าเต้นแม่ชอบ เขาเต้นเก่ง แม่ฟ้อนรำเก่ง แต่แคนดี้เต้นเก่ง (หัวเราะ) แคนดี้จะช่วยให้เด็กรุ่นใหม่เข้าใจการร้องรำแบบอีสานได้ง่ายขึ้น ถ้าหมอลำแท้ๆ แบบแม่ เด็กยังไม่คิดเรียนก็ท้อไปก่อน แต่ด้วยดนตรีอีสานสนุกคนฟังแล้วชอบ แต่เขาไม่เข้าใจเนื้อ เราต้องมาช่วยกันทำให้เข้าใจง่ายขึ้น

เป็นการสืบสานอีกแบบหนึ่ง อันนี้เรา (แคนดี้กับแม่) คิดหากันมาหลายปีนะ ทำยังไงจะเป็นอีสานวัยรุ่นได้ เข้าถึงคนสมัยใหม่ ให้เข้าถึงคนทั่วประเทศไทย เราจะทำยังไง ตอนนี้ก็เกือบสมบูรณ์แล้ว ถ้ามีงานโชว์ก็คงไปด้วยกันบ้าง แต่แยกช่วงกันไป แคนดี้เป็นอีสานป๊อปร็อก ช่วงของแม่ก็ให้คนได้ดูแบบหมอลำเก่าเต็มๆ คนที่เคยดูหมอลำหวือหวามาดูแม่ ของจริงของแท้เป็นแบบนี้หรอ เขาก็พยายามเข้าใจ ไม่ใช่มามั่วผสมกันไป ทุกวันนี้ต้องเข้าใจว่าคนดูคนฟังเอามัน หมอลำรุ่นใหม่ๆ เขาก็ทำอะไรแรงๆ ขึ้นมา จัดจ้านขึ้น ให้ถูกใจผู้ฟัง เราห้ามเขาไม่ได้ ก็ได้แต่บอกว่าช่วยกันอนุรักษ์ อย่าทำลาย อย่าทำอะไรให้เกินขอบเขต”

ที่ผ่านมาทำงานด้วยความตั้งใจอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้มีชื่อพ่วงท้ายยาวขึ้นเป็น บานเย็น รากแก่น ศิลปินแห่งชาติ ราชินีหมอลำ เธอยิ่งหมายมั่นจะทำงานตอบแทนคุณแผ่นดิน อยากช่วยเหลือเรื่องศิลปวัฒนธรรมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้