posttoday

จารุณี สุขสวัสดิ์ นางเอกแก่นเซี้ยว

08 ธันวาคม 2556

“36 ปี” หากเป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงอายุ ก็ล่วงเลยมาถึงวัยที่เรียกว่าผ่านร้อนผ่านหนาว มีประสบการณ์โชกโชน

โดย...เสน่ห์จันทน์

“36 ปี” หากเป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงอายุ ก็ล่วงเลยมาถึงวัยที่เรียกว่าผ่านร้อนผ่านหนาว มีประสบการณ์โชกโชน ทว่าตัวเลขนี้เป็นอายุของการทำงานในวงการบันเทิงของ “เปิ้ลจารุณี สุขสวัสดิ์” ย้ำว่าอายุการทำงานไม่ใช่อายุของเธอ แม้ว่าหน้าตาเธอจะอ่อนวัย บอกว่า อายุ 36 ก็มีคนเชื่อสิน่า...

“สวัสดีคุณครู” ภาพยนตร์ 35 มม. ที่ออกฉายในปี 2520 คือผลงานเรื่องแรกของเธอ ครั้งนั้นเธอเป็นแมวมองส่งตัวเองเข้าประกวดเลยล่ะ เมื่อได้ข่าวเปิดรับการแสดง และไม่ผิดหวังเมื่อ “พันคำและดาวน้อย สีบุญเรือง” เลือกเธอ ผลงานเรื่องแรกไม่เบาเลยทีเดียว เพราะสามารถส่งชื่อให้ “จารุณี” กลายเป็น “นักแสดงวัยรุ่นคนใหม่” ที่ใครๆ ก็กล่าวถึง แรงต่อเนื่องในปีถัดมากับเรื่อง “รักแล้วรอหน่อย” คู่กับ “สรพงศ์ ชาตรี” ผงาดขึ้นเป็น “นางเอกคนใหม่” ที่ถูกจับตามองทันที

แม้ว่าปัจจุบัน ปี 2556 วัยรุ่นในยุคนี้จะรู้จัก เปิ้ล จารุณี ในบทบาทแม่ ที่มักเห็นกันในละครโทรทัศน์ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนบทบาทไปตามกาลเวลา ทว่าวัยรุ่นในยุคกระนู้นและเด็กน้อยที่เติบโตมาพร้อมกับผลงานภาพยนตร์ของจารุณี เธอยังเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทที่หาตัวจับยากในวงการบันเทิงไทย ยังมีความทรงจำถึงเธอ ในฐานะ “นางเอกนักบู๊” “นางเอกจอมแก่น”

ในยุคก่อนวงการภาพยนตร์จัดว่าเป็นยุคทอง ใครจะโด่งจะดังต้องแจ้งเกิดจากหน้าจอเงิน ไม่ใช่จอแก้วอย่างทุกวันนี้ และจารุณีก็เป็น “นางเอกคิวทอง” คนหนึ่งในตอนนั้นเลยล่ะ ในแต่ละปีมีผลงานไม่ต่ำกว่า 5 เรื่อง อย่างปี 2523 มีถึง 11 เรื่อง อาทิ พจมาน สว่างวงศ์, ช่างเขาเถอะ, แผ่นดินแห่งความรัก, นักเลงตาทิพย์, วัยสวิง ปี 2524 14 เรื่อง ปี 2525 16 เรื่อง ฯลฯ อุต๊ะ! นี้มันเฉลี่ยเดือนละเรื่องเลยนะนั้น เอ๊ะ! เกินไปด้วยซ้ำ และคนดูก็ให้การต้อนรับหนังทุกๆ เรื่องของเธออย่างดี ไม่มีเจ๊ง ค่ายหนัง ผู้กำกับ รวมถึงไปถึงพระเอกยังอยากได้จารุณีไปร่วมงาน

จารุณี สุขสวัสดิ์ นางเอกแก่นเซี้ยว

 

ในขณะที่สีบุญเรืองฟิล์มเดินแต้มด้วยการสร้างหนังครูต่ออีกเรื่อง คือ “ครูขาหนูเหงา” กาญจนา เมทะนี เจ้าของเมทะนีฟิล์มก็อาศัยความคุ้นเคยกับดาวน้อยขอตัวจารุณีไปรับบท จอย เด็กสาว ลูกครึ่งผมสีบรอนซ์ หลานรักของอาเดียวในเรื่อง “สลักจิต” ซึ่งมี สมบัติ เมทะนี กำกับการแสดง ขณะที่ คมน์ อรรฆเดช แห่งโคลีเซี่ยมฟิล์มก็ขอตัวจารุณีไปแสดงเป็น นาจา แม้วสาวนักบู๊ ในเรื่อง “เสือภูเขา” ส่วนไฟว์สตาร์โปรดักชั่นก็มอบหมายให้ รุจน์ รณภพ กำกับจารุณีให้เป็น พจมาน พินิจนันท์ เด็กสาวเลือดทรนงจากเรื่อง “บ้านทรายทอง”

แต่ละเรื่องที่จารุณีเล่น บทบาทล้วนแตกต่างกัน ยิ่งส่งให้ฝีมือทางการแสดงของเธอเด่นชัด แจ้งเกิดในวงการแผ่นฟิล์มได้อย่างงดงาม แต่ส่วนใหญ่บทที่เธอได้รับและผู้คนจดจำได้ถึงกาลนี้มักเป็นบทสาวจอมแก่น เฟี้ยว เตะต่อยไม่เกี่ยง ลีลาถึงลูกถึงคน อาทิ ลูกสาวกำนัน นักเลงตาทิพย์ นางแมวป่า สาวจอมกวน

ชื่อของจารุณีจัดเป็นนางเอกหนังร้อยเรื่อง และล้วนโด่งดังเป็นที่รู้จัก ยังคงเป็นนางเอกตลอดกาลที่คอหนังระลึกถึง และเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2551 จารุณีได้พิมพ์มือลานดารา ณ หอภาพยนตร์ (องค์กรมหาชน) ประดับชื่อไว้เป็นหนึ่งดวงดาวของวงการภาพยนตร์ไทย

นับแต่ปี 2531 เป็นต้นมา เส้นทางการแสดงของเธอหันมาสู่จอแก้ว และด้วยฝีมือการแสดงที่จัดจ้านผลงานละครเกือบร้อยเรื่อง อาทิ นางสาวโพระดก คือหัตถาครองพิภพ บุญชูผู้น่ารัก ยอดยาหยี แม่ยายคงกระพัน ที่จารุณีฝากฝีมือไว้ก็ตรึงใจคนดู ทำให้ตลอดเวลา 36 ปี ที่เธอโลดเล่นอยู่ในวงการบันเทิงไทย ชื่อของ “เปิ้ลจารุณี สุขสวัสดิ์” ไม่เคยเลือนหายไปเลย