สมัคร"นางสาวไทย" ปิดยอด 200 คน

นางสาวไทย ประจำปี 2556 รับสมัครวันสุดท้าย สุรชัย สมบัติเจริญ จูงลูกสาวร่วมเวที

การรับสมัครผู้เข้าประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2556 วันนี้ (26 พ.ย.) เป็นวันสุดท้าย มีทั้งนิสิตนักศึกษา และคนทำงานเข้าร่วมรับสมัครอย่างคึกคักตลอดทั้งวันสื่อมวลชนยังให้ ความสนใจ กับ น้องดิ๊งค์ กมลชนก สมบัติเจริญ ลูกสาวคนเล็กของสุรชัย สมบัติเจริญ นักร้องลูกทุ่งและนักแสดง ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาที่ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี โดย ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง รองอธิการบดี และภรรยา เอิร์น จิรวรรณ เตชะหรูวิจิตร อดีตนักร้องค่ายอาร์เอส เดินทางมาร่วมให้กำลังใจ

สุรชัย สมบัติเจริญ กล่าวว่าการสมัครครั้งนี้เป็นความต้องการของลูกสาว รวมทั้งทางมหาวิทยาลัย ให้การสนับสนุน โดยก่อนหน้านี้น้องดิ๊งค์ยังไม่เคยทำงานด้านบันเทิงมาก่อน

"ตอนแรกตกใจเหมือนกัน กลัวจะไปทำอะไรเปิ่นๆ เดินตกเวทีจะทำให้พ่ออายหรือเปล่า (หัวเราะ) แต่เขามุ่งมั่นมากลดน้ำหนักหลายกิโลเพื่อจะมาประกวด แล้วน้องดิ๊งค์เป็นเด็กกล้าพูดกล้าแสดงออก ผมก็เลยสนับสนุน ครอบครัวเราทำงานวงการนี้กันอยู่แล้ว เผื่อเขาจะต่อยอดไปเป็นนักแสดง หรืองานแฟชั่น หรือถ้าไม่ได้รางวัล อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์"

ส่วนเรื่องการสืบทอดมรดกเพลงลูกทุ่งจากคุณปู่ สุรชัย สมบัติเจริญ ราชาเพลงลูกทุ่ง สุรชัยบอกว่าน้องดิ๊งค์ ชอบร้องเพลง และเล่นแซ็กโซโฟนได้ แต่คงไม่ถึงระดับที่จะยึดเป็นอาชีพ เพราะไม่ได้เติบโตในบรรยากาศ เพลงลูกทุ่ง"ผมสนับสนุนให้ลูกทำในสิ่งที่อยากทำ ถ้าไม่เป็นเรื่องเสียหาย ลูกทำแล้วมีความสุข ทุกคนในครอบครัวก็จะมีความสุขด้วย"

ผู้สมัครอื่นๆ มีทั้งคนที่หวังโอกาสการทำงานในวงการบันเทิงและสื่อสารมวลชน ขณะที่ผู้สมัครอีกจำนวนหนึ่ง ต้องการประสบการณ์จากการเข้าร่วมกิจกรรมกับกองประกวด

อัมอั้ม อัมพิลา อุดมลาภ อายุ 24 ปี เรียนจบจากคณะคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลพระนคร ปัจจุบันเป็นเชฟที่โรงแรมในจังหวัดภูเก็ต มาประกวดเพราะมีความฝันจะเป็น พิธีกรรายการทำอาหาร

"การทำอาหารเป็นศิลปะ หนูชอบทำงานแกะสลัก จัดใบตอง และจัดดอกไม้ด้วยอยากเผยแพร่ วัฒนธรรมเหล่านี้ผ่านรายการโทรทัศน์"

พลอย วราลี ไหลสกุล นิสิตชั้นปีที่ 2 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยเป็นเชียร์ลีดเดอร์ งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ หลังจากนั้นได้รับการติดต่อให้ทำงานเดินแบบและถ่ายโฆษณา ทำให้สนใจงานบันเทิง และเห็นว่าการร่วมประกวดจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับการทำงานในอนาคต

"ภาพของนางสาวไทยดูเรียบร้อย และเหมือนจะเป็นเวทีเดียวที่ไม่มีการประกวดชุดว่ายน้ำ ที่บ้านเข้มงวด ถ้าต้องใส่ทูพีซคุณแม่คงไม่ยอมให้มาค่ะ"

ธร จรินธร วังวรรธนะ อายุ 24 ปี เจ้าหน้าที่แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เล่าว่าเคยร่วมประกวด นางงามในเวทีอื่นๆ ก่อนหน้านี้ รู้สึกสนุกเพราะได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำและได้เพื่อนใหม่โดยไม่กังวลว่า จะได้รับรางวัลหรือไม่

นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่อสมท ได้มีส่วนร่วม ในการเปิดเวทีเพื่อให้ผู้ที่มีศักยภาพได้แสดงออกถึงความรู้และความสามารถของตน นอกจากนี้ กิจกรรมที่ ผู้เข้าประกวดเข้าร่วมตลอดเวลาเกือบหนึ่งเดือนก็เน้นการสร้างแรงบันดาลใจและการเรียนรู้ให้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาบุคลากรสู่วงการสื่อสารมวลชน โดยเวทีนางสาวไทยไม่มีภาพลักษณ์ เป็นการประชันเพียงความสวยงาม แต่เป็นเวทีที่สร้างสรรค์

"ไม่ว่าจะได้รับรางวัลจากการประกวดหรือไม่ แต่กิจกรรมเพื่อสังคมที่ผู้เข้าประกวดมีโอกาสได้เข้าร่วม ก็ถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ รวมทั้งเปิดโลกทัศน์และเพิ่มประสบการณ์ให้กับทุกคน"

การประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2556 ภายใต้แนวคิด "The Wonder of Miss Thailand สวยสง่า ทันสมัย มีความสามารถ" เพื่อคัดเลือกผู้มีความเหมาะสมในการครองมกุฏนางสาวไทย คนที่ 48 บนเวทีอันทรงคุณค่า  ผู้ที่ได้รับตำแหน่งนางสาวไทยจะได้รับรางวัลมงกุฎพร้อมสายสะพายเงินรางวัลมูลค่า 1,000,000 บาท, รถยนต์ ISUZU MU-X 1 คัน และโอกาสในการเป็นศิลปิน MCOT Talent

ผู้เข้ารอบทั้ง 18 คน จะเดินทางเพื่อร่วมเก็บตัวยังจังหวัดนครราชสีมาระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม 2556 ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับ “ท้าวสุรนารี” วีรสตรีไทยผู้กอบกู้เมืองโคราชจากกบฎ โดยได้รับการสนับสนุนจากนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาซึ่งในปีนี้จะมีการตัดสินการประกวดในวันที่ 19 ธันวาคม 2556 ณ โรงละครอักษรา คิงพาวเวอร์ ซอยรางน้ำ