posttoday

‘ปรากฏการณ์หลัง พรบ.สุดซอย’ ข่าวบันเทิงเปลี่ยนไป (หรือไม่?!!)

19 พฤศจิกายน 2556

การผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย ไม่ได้ทำให้เกิดปรากฏการณ์แค่ในหน้าข่าวการเมืองเพียงเท่านั้น

โดย...ปอย

การผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย ไม่ได้ทำให้เกิดปรากฏการณ์แค่ในหน้าข่าวการเมืองเพียงเท่านั้น เมื่อดารานักแสดงหลายคนเข้าร่วมชุมนุมต่อต้านไม่เอา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แบบเกาะติดตามสถานการณ์การชุมนุมกันคึกคักที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คน (ชอบ) อ่านข่าวบันเทิงก็เลยพลอยฟ้าพลอยฝนในกลางเดือน พ.ย. ได้อานิสงส์อ่านข่าวในหน้าบันเทิง “เล็กๆ น้อยๆ” เกี่ยวกับดาราขึ้นเวทีไฮด์ปาร์ก เบียดๆ แทรกๆ ข่าวเตียงหัก ใครรักใคร ใครเลิกใคร ดาราคนดังคนนั้นมีกิ๊ก คนนี้ตบตีแย่งแฟนชาวบ้าน เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ มักเป็นข่าวประเภทรักๆ ใคร่ๆ คงครองพื้นที่หลักในหน้าบันเทิง

เมื่อปรากฏการณ์ข่าวดาราขึ้นเวทีม็อบ หลายคนตั้งคำถามข่าวบันเทิงจะมีมากกว่านี้อีกไหม!!? จะมีการผลิตบทสัมภาษณ์ “นางเอกฉลาด พระเอกมีกึ๋น” มาให้ได้อ่านกันหรือไม่? หรือเนื้อหาก็คงวนเวียนเฉกเช่นละครรีเมก! (นั่นแหละ!!!) การผลิตข่าววงบันเทิงคงซ้ำๆ เดิมๆ เป็นวัฏจักรไม่มีวันจบสิ้นนั่นแหละ??? มีคำตอบหลายๆ มุมมองจากผู้เกี่ยวข้องกับวงการบันเทิง

‘มอนิเตอร์’ สื่อบันเทิงกับคำถามซ้ำๆ ซากๆ

สร้างความฮือฮาค้านดาราสร้างเรื่องฉาว กลบกระแสชุมนุมการเมือง ธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการสถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ (สวส.) โพสต์ภาพบนเฟซบุ๊ก และเขียนบทความคัดค้าน พร้อมระบุว่า การที่นักแสดงสร้างข่าว แถลงข่าวเผยคลิปหลุด ฯลฯ เพื่อกลบกระแสข่าวชุมนุมทางการเมือง ขอประณามนักแสดงและคนในวงการบันเทิงที่ออกมากลบเกลื่อนวาระทางสังคมครั้งนี้?!!!

“ผมขอคัดค้านสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวสารไร้สาระ เพื่อกลบเกลื่อน บิดเบือน เอนเอียงในสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองต่อการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม!” ธาม นักวิชาการสถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ ระบุไว้ในบทความของเขาซึ่งเกี่ยวเนื่องกับพระเอก บอย ปกรณ์ ออกมาแถลงข่าวทั้งน้ำตาในช่วงเริ่มม็อบราชดำเนินพอดิบพอดี

“ผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญนะครับ แต่นี่คือการจัดตั้งเพื่อช่วงชิงพื้นที่ข่าวการเมืองที่กำลังร้อน และผมหมายถึงเรากำลังอยู่ในโลกสารสนเทศ ที่วันนี้กลายเป็นอุตสาหกรรมสื่อเต็มรูปแบบไปแล้ว คนอ่าน คนดูจึงไม่ใช่ผู้กำหนด Content อีกต่อไป และโลกปัจจุบันนี้ก็มีกระบวนการอยู่เบื้องหลังที่ทำให้คนเสพข่าวกลายเป็นอยู่ในโลกการทำให้ยินยอม หรือผมใช้คำว่า Consent กรณีข่าว บอย ปกรณ์ คนดูข่าวก็กลายเป็น Passive Audience รับสารอย่างเอื่อยๆ เฉื่อยๆ ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ทั้งนี้เพราะสื่อที่เคยเป็น Gate Keeper แต่ในระบบอุตสาหกรรมสื่อที่มีการแข่งขันสูงและเป็นผู้กำหนดข่าวสารในรูปแบบที่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่า ‘เรื่องนี้ฉันต้องรับรู้ ฉันไม่รู้ไม่ได้แล้ว!!!’ ซึ่งโลกข่าวสารได้มีการเกิดของ News Media ผู้รับข่าวสารก็ยิ่งต้องกระตือรือร้น Active Audience เราต้องไม่ให้ใครมาสนตะพายได้” ธาม กล่าว ฟังๆ แล้วจะแรงไปไหม? เรื่องข่าวน้องบอย ปกรณ์ กับม็อบ (อาจจะ) เป็นเรื่องบังเอิญได้หรือไม่?!!

“มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอนครับ (ธาม ตอบทันใด มั่นใจ) ข้อแรกเลยนะครับ ผมขอตัดสินจากรูปแบบกระบวนการแถลงข่าว มีการจัดตั้ง เตรียมการเซ็ตฉากขึ้นมา ข้อ 2 การออกมาแถลงข่าวครั้งนี้ คนแถลงต้องรู้แน่นอนครับว่าต้อง Talk of the Town แล้วผมมองด้วยนะครับว่าดาราไม่แตกต่างกับนักการเมือง การขอโทษของคุณสุ่มเสี่ยงมีผลมากต่อคะแนนนิยม ข่าวลือก็ปล่อยไปสิครับ ผมยังเห็นว่าเขาไม่มีความจำเป็นต่อการแถลงข่าวเลย

หรือยกตัวอย่างอีก 1 ข่าว เจนี่+เอ๋ ทำไมต้องเป็นเวลานี้ด้วยครับ ผมอยากให้คนดู คนอ่าน ช่วยๆ กันคิดในเรื่องนี้ด้วย มูลค่าข่าวฉาวในวงการบันเทิง ไม่ใช่อยู่ที่ตัวเนื้อข่าว แต่อยู่ที่นักปั่นข่าว ‘Spin News’ คือเราต้องยอมรับกันแล้วว่า วันนี้กระบวนการผลิตข่าวโดยเฉพาะวงการบันเทิง คนผลิตข่าวจะรู้ว่าข่าวไหนควรปล่อยไปเมื่อไรดีที่สุด ข่าวฉาว คาว ข่าวลือ มีการกำหนดให้เป็นทอล์กได้ผลลัพธ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ วิธีการนำเสนอของสื่อไม่ใช่เพียงแค่การกำหนดคอนเทนต์อีกต่อไปแล้วครับ แต่หวังผลในการช่วงชิงพื้นที่ข่าวอย่างแน่นอน”

และด้วยหน้าที่ “มอนิเตอร์” สื่อบันเทิงคำถามซ้ำๆ ซากๆ ธาม นักวิชาการสุดโต่งก็บอกว่า ก็เข้าใจได้ว่าคนอ่านข่าวดารา 99 เปอร์เซ็นต์ คือโนบอดี้ เรื่องคาว ฉาว ชิงรักหักสวาทของซัมบอดี้ จึงตอบสนองความรู้สึกคนกลุ่มใหญ่นี้ได้ว่า คนมีชื่อเสียงระดับนี้ (เขาก็ยัง) ผิดพลาดได้

“มันคือความรู้สึก คนดังก็ไม่แตกต่างอะไรกับคนเดินดินอย่างเรา ไม่ปฏิเสธว่าเรื่องรักๆ ใคร่ๆ พวกนี้ในออฟฟิศใครก็มี (หัวเราะ) ข่าวพวกนี้มันจึงเป็นการตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของคนทั่วๆ ไป แล้วยังตอบสนองความพึงพอใจในดาราที่คลั่งไคล้ได้อีกต่างหาก ซึ่งผมคิดว่าข่าวบันเทิงก็จะไม่เปลี่ยนไปหรอก เพียงแต่ผมอยากให้ทุกคนรู้เท่าทันว่า ข่าวเป็นสินค้าด้วยนะครับ การเลือกอ่านข่าว เลือกดูข่าว ถ้ารู้เท่าทันได้ก็ดี” ธาม สรุป


ซับถ้ามีเนื้อที่โปรยค่ะ “เจนี่+เอ๋ ทำไมต้องเป็นเวลานี้ด้วยครับ ผมอยากให้คนดู คนอ่าน ช่วยๆ กันคิดในเรื่องนี้ด้วย มูลค่าข่าวฉาวในวงการบันเทิง ไม่ใช่อยู่ที่ตัวเนื้อข่าว แต่อยู่ที่นักปั่นข่าว ‘Spin News’ คือเราต้องยอมรับกันแล้วว่า วันนี้กระบวนการผลิตข่าวโดยเฉพาะวงการบันเทิง จะรู้ว่าข่าวไหนควรปล่อยไปเมื่อไรดีที่สุด ข่าวฉาว คาว ข่าวลือ มีการกำหนดให้เป็นทอล์กได้แน่นอน”

‘ปรากฏการณ์หลัง พรบ.สุดซอย’ ข่าวบันเทิงเปลี่ยนไป (หรือไม่?!!)

 

มองปรากฏการณ์ดาราไทย?!!

ไม่ใช่เรื่องตื่นเต้นที่คนมีชื่อเสียงในระดับดาราฮอลลีวู้ด เมื่อเร็วๆ นี้ ซูซาน ซาแรนดอน ซาราห์ เจสซิกา พาร์คเกอร์ ออกมาให้การสนับสนุนตัวแทนพรรคเดโมแครต “เด แบลซิโอ” คว้าเก้าอี้นายกเทศมนตรีของมหานครนิวยอร์ก หรือดาราดังนักรณรงค์ ริชาร์ด เกียร์ เรียกร้องให้ผู้นำสหรัฐอเมริกาเคลื่อนไหวมากขึ้น เพื่อสนับสนุนสิทธิชนชาติทิเบต แต่เมื่อหันมามองดาราไทยที่ขอแสดงจุดยืนขึ้นไฮด์ปาร์กบนเวทีม็อบการเมือง กลับไม่ใช่ความปกติ ธรรมดา!!!

ผู้กำกับภาพยนตร์ฝีมือคุณภาพ “มะเดี่ยว” ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ให้ความเห็นว่า การแสดงจุดยืนทางการเมือง “ควรทำ!!!” และท่าทีที่ชัดเจนแบบนี้ก็น่าจะได้แสดงออกกันมาตั้งนานแล้ว นี่คือสิทธิเสรีภาพที่ทุกคนทำได้ ส่วนใครจะใช้มากน้อยขนาดไหน ก็ขอยกให้เป็นเรื่องส่วนบุคคล

“เรื่องสมควร ไม่สมควร ผมไม่ได้มองในประเด็นนี้เลยครับ เรื่องการเมืองไม่ใช่การสงวนท่าที แต่ควรเป็นเรื่องสงวนในความละอ่อน (บอกพลางหัวเราะ) การเมืองเป็นเรื่องที่ต้องสนใจศึกษา คุณต้องมีความรู้ การขึ้นไฮด์ปาร์กต้องมีการเตรียมตัวข้อมูลให้ดีๆ นะครับ ผมคงตอบไม่ได้ว่าดาราคนไหนมีกึ๋น ไม่มีกึ๋น เมื่อไปขึ้นเวทีราชดำเนิน เพราะผมไม่ได้ติดตามข่าวนี้ ผมไม่อินไปกับการประท้วงครับ และการที่คุณเป็นดาราคือบุคคลสาธารณะ ไม่ใช่ตาสีตาสา ก็ยิ่งต้องกล้าหาญพึงรับผิดชอบผลซึ่งจะตามมาอีกด้วย และที่สำคัญต้องไม่ลืมว่าคุณคือคนให้ความสุขแก่ประชาชน” ชูเกียรติ บอก

ซึ่งก็ต้องถือว่าการขึ้นเวทีม็อบของดาราไทยคราวนี้ คือปรากฏการณ์ใหม่ แต่การนำเสนอข่าวยังเป็นเรื่องซ้ำๆ เดิมๆ และถึงแม้ออกตัวไม่สนใจข่าวดาราไปม็อบ แต่ ชูเกียรติ บอกว่าก็ได้รับรู้ข่าวสารทั้งทางนิวส์มีเดีย ไอจี เฟซบุ๊ก หรือสื่อหลัก ทั้งข่าวทีวี หนังสือพิมพ์ ก็มีให้อ่านผ่านๆ สายตามากมายหลายข่าว

“เวทีม็อบเป็นเวทีให้คุณแสดงออกได้อย่างเต็มที่ แต่ผมก็ไม่เห็นข่าวลงว่าอะไรนอกจากดาราดังคู่รัก แตงโมโตโน่ ห่วงใยซึ่งกันและกัน เมื่อไม่มีเนื้อหาอะไรมากไปกว่านี้ แน่นอนว่าข่าวก็ต้องไปอยู่บนหน้าบันเทิง งงนะ ไปแสดงออกทางการเมืองแต่ก็ลงหน้าบันเทิง ซึ่งก็ทำให้การไปของดาราหลายๆ สิบคนมีผลแค่เชิญชวนคนมาม็อบ แต่ไม่มีผลทางการเคลื่อนไหวทางการเมืองนะครับ

เช่นเดียวกับข่าวบันเทิงนะครับ ซึ่งก็วนเวียนอยู่แต่คำถาม ตอนนี้ใครมาจีบ คำตอบก็เดิมๆ ไม่มีค่ะ ไม่ได้ดูใครอยากทำงาน อะไรแบบนี้” ชูเกียรติ กล่าวไว้อย่างน่าคิด

‘ดาราอยากตอบ คนอ่านอยากรู้’

ทักษอร เตชะณรงค์ “ตอบได้ทุกๆ คำถาม”

นางเอกแถวหน้าของวงการบันเทิง “มาดามแอฟ ณ โบนันซ่า” บอกพร้อมรอยยิ้มสวยๆ หวานๆ เอกลักษณ์นางเอกคนดังว่า กับคำถามที่พี่ๆ น้องๆ นักข่าวบันเทิงถามแล้วตอบยากที่สุด??? ไม่มีปัญหาเลยค่ะ ตอบได้หมดทุกๆ คำถาม เพราะเชื่อมั่นในตัวเองว่าไม่มีเรื่องอะไรให้มีคำถามลำบากใจที่ต้องตอบ

“แต่ก็มีคำถามที่แอฟตอบไม่ได้ตั้งแต่เด็กๆ เข้าวงการใหม่ๆ จนวันนี้ก็ยังตอบไม่ได้นะคะ คือ มีอะไรติ๊งต๊องๆ มีเรื่องหน้าแตกๆ ไหม? บุคลิกแอฟนิ่งๆ เฉยๆ คงเจอเรื่องพวกนี้ยาก ไม่มีเรื่องติ๊งต๊องอะไรจะเล่าสู่กันฟังนะคะ คำถามนี้ตอนแอฟเข้าวงการใหม่ก็เจอบ่อยมาก แต่ตอนนี้ไม่เจอ ไม่มีใครถามแล้ว คิดว่าเป็นไปตามวัยค่ะ (หัวเราะ) อีกคำถามมีแฟนหรือยัง? คือคำถามตอนโสด พอแต่งงานก็เจอคำถามเมื่อไรจะมีลูก? จะเจอเป็นแพตเทิร์นค่ะ ซึ่งความจริงแล้วนอกจากคำถามพวกนี้ แอฟตอบได้ทุกๆ คำถามนะคะ” แอฟ บอกยิ้มๆ หวานๆ

รังสิต ศิรนานนท์ “อยากตอบมากครับ ...แต่ไม่มีใครถาม???”

“คำถามที่ผมไม่อยากตอบเลย คือ ทำไมพระเอกคนนี้เขามีงาน แล้วทำไมผมเงียบๆ ผมตอบยากมากครับ (หัวเราะ) เพราะผมจะโฟกัสที่ตัวเองเท่านั้น ผมมีคำถามที่อยากตอบพี่ๆ นักข่าวนะครับ คือ เรื่องกีฬา ผมเคยเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลทีมชาติ ตอนเรียนก็เล่นให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แชมป์มหาวิทยาลัยด้วยนะครับ แต่ไม่มีใครถามเลย แล้วตอนนี้ผมก็เป็นนักกีฬาเขต 10 กรุงเทพมหานคร คว้าแชมป์ด้วย แต่ไม่มีใครถามเลย” อ้วน รังสิต บอกน้ำเสียงอ่อยๆ ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย?!!