สัมภาษณ์พิเศษ : รู้จักตัวจริง “อั้ม พัชราภา “

เขาว่า..เธอเหวี่ยง เธอแรง? เธออยู่ในช่วงขาลง จริงหรือ??

1 “อั้มเป็นคนที่ใช้ใจทำทุกอย่าง ถ้าใจบอกว่าใช่ แล้วมันไม่ผิด ก็จะทำ ทำทุกอย่างด้วยหัวใจ”

2 “เราคงทำให้ทุกคนมาชอบเราไม่ได้ เพราะเราเองก็ไม่ได้ชอบทุกคน”

ทำไมช่วงนี้ไม่เห็นอั้ม เล่นละครเลย ไม่ถ่ายโฆษณา ไม่ออกงานอีเวนท์ หรือว่า...เข้าช่วงขาลง??ถ้าคุณกำลังคิดอย่างนั้น ขอบอกเลยว่า คุณคิดผิดแล้วล่ะ!!อั้ม พัชราภา ซูเปอร์สตาร์เมืองไทยคนนี้ ยังเป็นผู้หญิงสุดฮอตและสุดฮิตตลอดกาล

อยากรู้ว่า “อั้ม พัขราภา”หายไปไหน ทำไมเงียบจัง?

“ชิวิตตอนนี้อยู่ในช่วงการพักผ่อนค่ะ เป็นช่วงที่อั้มหยุดพักหลังจากทำงานมาเยอะมาก ทำงาหนักมาหลายปี ตอนนี้ล่ะได้พักผ่อนสมใจซะที เป็นช่วงชีวิตที่อั้มเลือกเองได้หมดแล้วน่ะ เลือกที่จะพัก เลือกที่จะไม่รับงาน ได้ตื่นสาย ตื่นมาเก้าโมงครึ่ง ตื่นนอนปุ๊บไม่แปรงฟัน ตื่นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่ามีใครโทรมาหรือเปล่า จากนั้นก็เล่มเกมส์HayDayเล่นจนถึงสิบโมงเช้า แปรงฟัน ลงไปหาอะไรกิน จัดข้าวจัดของ ทำอะไรเรื่อยเปื่อย แล้วก็กลับมาเล่นเกมส์อีกรอบ ค่อยอาบน้ำไปสระผม ไดร์ผม ไปสปา นัดเพื่อนไปกินข้าวข้างนอก แต่ภารกิจหลักในแต่วันของอั้มคือ เล่นเกมส์ เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน นี่ล่ะหนึ่งวันของอั้ม ที่อั้มบอกว่าได้พักจริงๆ ซึ่งเราจะทำไม่ได้ทำอย่างนี้ตอนเราทำงาน แต่จากนี้อั้มก็จะเริ่มมีงานแล้วค่ะ เริ่มถ่ายแบบ ออกงานอีเวนท์บ้างแล้ว”

บางคนว่าอั้มเหวี่ยง บางคนว่าอั้มแรง จริงๆ อั้มเป็นคนอย่างไร?

“อั้มเป็นคนหลายอารมณ์ค่ะ คือ เป็นคนที่แข็งนอกอ่อนใน บางเรื่องก็เข้มแข็งเหลือเกิน บางเรื่องก็อ่อนแอมากมาย มันก็แล้วแต่อารมณ์ เป็นเหมือนมนุษย์ทั่วไป ที่บางทีก็มีช่วงอารมณ์ดีแล้วก็ไม่ดี แต่อั้มเป็นคนที่แสดงทุกอย่างออกมาจากใจ รู้สึกอย่างไรแสดงออกมาอย่างนั้น แม้กระทั่งตอนที่อั้มสัมภาษณ์ในสื่อต่างๆ ถ้าได้เห็นภาพเคลื่อนไหวก็จะรู้อยู่แล้วว่าอั้มรู้สึกอย่างไร อั้มไม่เคยเก็บได้ อั้มจะใช้ใจและความรู้สึกของตัวเองล้วนๆแต่ก็ไม่ถึงขนาดออกมาเต็มที่ขนาดนั้น เพราะอั้มจะเป็นคนที่พูดอะไรก็ตามจะติดตลก จิกนิดหน่อย พอให้รู้น่ะค่ะ”

คำถามแบบนี้จากนักข่าว ที่ทำให้อั้มจี๊ดได้

“ไม่ได้ถึงขนาดจี๊ดหรอกค่ะ แต่เรียกว่าเป็นคำถามที่ไม่ชอบดีกว่า หรือเบื่อคำถาม ประมาณว่าเปรียบเทียบ หรือแข่งขัน อั้มเป็นคนที่ไม่ชอบแข่งกับใครเลย รู้สึกว่ามันเหนื่อย มันทำให้อั้มถอย อั้มเหนื่อยกับการที่จะต้องมาเทียบคนนู้นคนนี้ เช่น คิดยังไงกับคนนี้ที่หน้าเหมือนอั้ม หรือคนนี้จะมาแทนที่อั้ม อั้มคิดว่าทุกคนมีชีวิตเป็นของตัวเอง มีมุมมองเป็นของตัวเอง มีหน้าตาเป็นของตัวเอง แล้วจะโยงเอาคนนู้นมาเกี่ยวกับคนนี้ เราก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร จะให้คิดยังไงกับน้องคนนี้ที่หน้าเหมือนเรา คนเรามันเหมือนกันได้ป่ะ?มันรู้สึกอึดอัดที่จะตอบค่ะ จะให้ตอบอย่างไร ไม่เหมือนหรอกค่ะพี่ ก็ถือว่ารังเกียจเขาหรือเปล่า คือมันเป็นคำถามที่ตอบไมได้น่ะ”

เวลามีข่าวเม้าท์หนักๆ นี่คือวิธีรับมือของเธอ

“ไม่สนใจเลยค่ะ เป็นคนที่ไม่เก็บอะไรมาคิดเท่าไหร่ อาจจะเสียใจบ้างแต่มันทำอะไรอั้มไม่ได้นาน อั้มไม่สนใจกับสิ่งภายนอก ที่ใครจะพูดอะไรก็ได้ มันแค่ความคิดของคนๆ หนึ่งหรือหลายคนก็ได้ซึ่งก็คิดไม่เหมือนกัน”

ถ้าวันนี้ ไม่ได้เป็นนางเอก ไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิง เราจะเห็นพัชราภา ไชยเชื้อคนนี้ทำอะไร?

“อั้มคงเป็นพนักงานออฟฟิศทั่วไปที่เข้าทำงานแปดโมงครึ่งเลิกห้าโมงเย็น ประมาณนั้น แต่คงไม่แค่นั้น เพราะอั้มชอบค้าขาย เป็นพนักงานที่ขายของไปด้วย อั้มอยากขายของ ขายกระเป๋า ออกแบบเอง ปักหนังเอง ปักเสื้อผ้าเอง มันเป็นความสุขใจอย่างหนึ่งค่ะ เพราะเป็นคนที่ไม่อยู่นิ่งอยู่แล้ว”

Love is the power of life

 “สำหรับอั้ม ความรักมันเปรียบได้เหมือนกับพลังชีวิตเลยล่ะ ทำให้เรามีแรงที่จะทำอะไรๆ ทำให้เราลุกขึ้นมาแล้วรู้สึกว่าวันนี้มีความสุข วันนี้อยากทำงาน ทำงานเสร็จแล้วเรามีคนรักรออยู่ แต่ถ้าวันหนึ่งที่ไม่มีความรัก โอย ชีวิตห่อเหี่ยวมาก ร่างกายยังทำงานได้ แต่ถ้ามองตาจะรู้ว่าไมไหวแล้วล่ะ เพราะอั้มเป็นคนที่ความรู้สึกออกมาจากดวงตาจริงๆ”

เวลามีความรัก “พัชราภา”คนนี้ จะ..

“เป็นคนที่อารมณ์ดีไปทุกอย่างค่ะ แล้วก็จะหวานมาก เป็นคนขี้อ้อนมาก พอๆ กับเป็นคนเจ้าอารมณ์มาก ซึ่งคุ้มนะคะ เป็นแฟนอั้มเนี่ยคุ้มมากเลย เพราะเป็นผู้หญิงหลายอารมณ์ แต่เป็นคนที่เขาจะได้ความกุ๊กกิ๊กด้วยได้ อั้มไม่สามารถที่จะให้คำปรึกษาในแนววิชาการได้ แต่ถ้ามาปรึกษาอั้มจะได้คำปรึกษาที่สบายใจและอยู่ข้างๆ เขาได้”

ประสบการณ์คือครู ดูแลความรักให้ดีที่สุด

“ในความรักแต่ละครั้ง มันก็คือประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามา อั้มเชื่อว่ามันจะดีขึ้นเรื่อยๆ ในคนปัจจุบัน อั้มก็ไม่ได้เป็นคนที่ดีอะไรมากมาย เป็นคนเจ้าอารมณ์คนหนึ่ง คือเป็นคนสองอารมณ์ พอจะดีก็ดี แต่พอจะเจ้าอารมณ์ก็มาก คนที่เป็นแฟนเลยต้องเป็นคนที่เข้าใจได้เรามาก”

ของขวัญให้คนรัก เธอทำเองจากหัวใจ

“เป็นคนชอบประดิษฐ์มาตั้งแต่เด็ก ซึ่งมันค่อนข้างจะขัดกับตัวอั้มตอนนี้หน่อยนะ แต่ชอบห่อดอกไม้ด้วยตัวเอง ตอนเด็กๆก็ไปซื้อการ์ตูนมาแปะทำการ์ด เขียนข้อความนู่นนี่ และอย่างล่าสุด ของขวัญให้คนนี้ คนที่เราคุยด้วยล่าสุด ที่จะซื้อของขวัญให้เขาก็มีทุกอย่างแล้ว ต้องทำอะไรที่มันเป็นของเขาจริงๆ ก็เลยทำเพลง แล้วก็ทำมิวสิควีดีโอที่เป็นเพลงของเขา มีพี่ฟองเบียร์แต่งเพลงให้ เริ่มจากเล่าเรื่องของเราสองให้ฟัง เจอกันได้อย่างไร แล้วตอนหลังพัฒนามาว่าเราคุยอะไรกันบ้าง พอพี่ฟองเบียร์แต่งเพลงให้แล้ว ก็มาทำMVเราก็เล่นเองเลย ชวนเพื่อนๆ มีพี่เมย์ พี่ตองมาเล่นด้วย มีคนนอกวงการมาเล่นเต็มไปหมดเลย สนุกดี เพราะเป็นสิ่งที่เราตั้งใจทำ ทำให้รู้เลยว่างานเบื้องหลังนี่มันยากมาก และจะเหนื่อยขนาดนี้ เพราะเราต้องทำทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ตั้งแต่วางแผนคิดชื่อเพลง เสื้อผ้าต้องเตรียมให้เข้ากับอารมณ์นี้นะ เล่นเองด้วย เป็นเพลงที่ไม่เคยออนแอร์ แต่มันปลี้มมากค่ะ เพราะเพลงนี้ ไม่ว่าเมื่อไรก็เป็นเพลงของเขาเสมอไป”

โปรย “อั้มเป็นคนที่ใช้ใจนำทาง เพราะฉะนั้นถ้าหัวใจมีปัญหา มันเหมือนกับหมดพลังไปเลย และกว่าจะฟื้นตัวได้..มันยากมาก ความรักเป็นเรื่องเดียวที่ดูดพลังจากอั้มได้มากที่สุด เพราะความรักจากคนรอบข้างคือสิ่งสำคัญ ถือว่าที่อั้มประสบความสำเร็จได้ก็เพราะความรักจากพวกเขา ”

Love me Love my dog!

มุมเล็กๆ กับความรักใหญ่ๆ ของเจ้าสี่ขาที่หลายคนอาจจะไม่รู้ นอกจากเจ้าตัวเด่นไตเติ้ลและสตางค์ ลูกสาวและลูกชายสุดที่รักสองตัวนี้แล้ว อั้มยังมีหมาไทยตัวเล็กตัวน้อย รวมอยู่ทีบ้านแล้ว 8 ตัว เธอยังมีกิจกรรมเด็ดกับคุณแม่ ที่เป็นเหมือนแม่ยกเลี้ยงน้องหมาจรจัดอีก40-50 ตัว!!“ที่บ้านอั้มจะมีทั้งน้องหมาที่เลี้ยงอยู่แล้ว และหมาไทยที่เก็บมาจากข้างถนน แต่คุณแม่อั้มกับเพื่อนๆ จะเช่าที่ว่างอันหนึ่งแล้วก็ทำคอกให้หมาอยู่เลย 40-50ตัวได้ค่ะ ภารกิจหลักแต่ละวันของที่บ้านคือเรื่องหมา ตื่นมาเตรียมข้าวหมาเป็นหม้อๆ พอห้าโมงเย็นก็เริ่มตระเวณให้ข้าวแล้ว กว่าแม่จะกินข้าวเองก็ปาเข้าไปสามทุ่ม ซึ่งอั้มก็จะไปช่วยบ้าง แต่หลักๆ คือ สนับสนุนปัจจัยค่ะ ค่าใช้จ่ายเยอะมาก อั้มรู้สึกเลยว่า มันไม่มีอะไรเลือกเกิดได้เลยนะ เขาน่าสงสารมาก ขนาดหมายังต่างกัน ดูหมาที่บ้านอั้มสิ กินดีนอนสบาย ยังกัดกันเลย”

ขอบคุณบทความจาก : นิตยสาร CLEO ฉบับเดือนตุลาคม หน้าปก อั้ม พัชราภา