บันเทิงไทย ไปทั่วโลก!!!

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร

หากพูดถึงรายการที่กลายเป็นรายการยอดฮิตอยู่ตามช่องต่างๆ แน่นอนว่า มีทั้งรายการที่พี่ไทยคิดเอง ทำเอง และมีรายการที่พี่ไทยไปซื้อลิขสิทธิ์ของเขามา แล้วอาจเติมพริก กะปิ น้ำปลาอย่างละนิดอย่างละหน่อยเพื่อให้ถูกจริตคนไทย เช่น รายการเดอะ วอยซ์ ไทยแลนด์ (รายการประกวดจากสหรัฐที่มีต้นแบบจากเนเธอร์แลนด์) รายการทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย (ลิขสิทธิ์และรูปแบบของรายการ La Academia จากประเทศเม็กซิโก ฯลฯ

คำถามมีอยู่ว่า แล้วจะมีรายการของพี่ไทยรายการไหนบ้าง ที่คิดเอง ทำเอง แล้วยังสามารถส่งออกไปยังหลากหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งคำถามนี้ก็ต้องเลิกถามกันได้แล้ว เพราะตอนนี้เรามีรายการที่พี่ไทยคิดเอง ทำเอง และหลายประเทศก็ซื้อลิขสิทธิ์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อยากรู้ว่ามีรายการไหนบ้าง บรรทัดต่อไปหลังจากนี้มีคำตอบ!

 

Hot Hot Hot ‘เดอะ แบนด์ ไทยแลนด์’

หากจะให้พูดถึงรายการ “เดอะ แบนด์ ไทยแลนด์” คงต้องบอกว่า นี่คือรายการประกวดวงดนตรีที่ผลิตโดยฝีมือคนไทยล้วนๆ นั่นคือ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนต์ นำทีมโดยบอสใหญ่อย่าง “ปัญญา นิรันดร์กุล”

ว่ากันว่า รายการเดอะ แบนด์ ไทยแลนด์ เปิดโอกาสให้ทุกคนโดยไม่จำกัดเพศและวัย ขอเพียงผู้สมัครมีสมาชิกภายในวงตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ซึ่งทุกวงต้องงัดเอาความเจ๋งทางดนตรีออกมาโชว์ให้ 4 โปรดิวเซอร์ได้เห็นให้ได้มากที่สุด โดยโปรดิวเซอร์ทั้ง 4 คน ไม่ว่าจะเป็น แมวจิระศักดิ์ ปานพุ่ม บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ เจี๊ยบวรรธนา วีรยวรรธน และหนึ่งจักรวาร เสาธงยุติธรรม จะให้เวลาแต่ละวงในการโชว์ความสามารถทางดนตรีเพียงวงละ 90 วินาที หากวงไหนไม่เข้าตาโปรดิวเซอร์ทั้ง 4 กำแพงที่ถือเป็นอุปสรรคชิ้นสำคัญของรายการก็จะถูกปิดลง นั่นหมายความว่าโอกาสบนเวทีเดอะ แบนด์ ไทยแลนด์ ก็จะหมดลงทันที

หลังออกอากาศเพียง 2 สัปดาห์ รายการนี้ก็ได้สร้างกระแสจนโด่งดังไกลข้ามทวีป เมื่อมีหลายประเทศติดต่อขอซื้อรายการนี้เข้ามามากมาย อาทิ อเมริกา ฝรั่งเศส สเปน อาร์เจนตินา โปแลนด์ เปรู และยังมีอีกหลายประเทศให้ความสนใจเตรียมต่อคิวซื้อ ทำเอาบอสใหญ่แห่งเวิร์คพอยท์ฯ ถึงกับเป็นปลื้ม ที่รายการประสบผลสำเร็จมากมายขนาดนี้

 

“ถ้าถามผมว่าดีใจมากไหม ดีใจมากครับ ที่รายการเดอะ แบนด์ ไทยแลนด์ ประสบผลสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว นอกจากจะได้กระแสตอบรับจากผู้ชมคนไทยแล้ว หลังจากนำรายการไปขายที่งาน MIPCOM ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่ารายการเดอะแบนด์ โดดเด่นเป็นที่สนใจสำหรับหลายๆ ประเทศมาก

ด้วยรูปแบบรายการที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน และไม่เคยมีใครทำมาก่อน นั่นคือการเน้นผู้ประกวดที่เป็นวงดนตรีจริงๆ โดยไม่จำกัดเพศและวัย อีกทั้งเรายังมีกำแพงเป็นจุดเด่นของรายการ ซึ่งวงดนตรีของคุณจะผ่านหรือไม่ผ่านเข้ารอบ กำแพงจะเป็นตัวบอก อีกทั้งเรามีฉาก แสง สี เสียง ที่เราทุ่มทุนสร้างออกมาอย่างอลังการ โดยเฉพาะเก้าอี้สไลด์ที่ 4 โปรดิวเซอร์นั่งนั้น เราออกแบบเป็นพิเศษ สามารถสไลด์ขึ้นลงด้วยปุ่มคอนโทรล รวมถึงความสนุกสนานของรายการที่ทำให้ทุกคนได้ลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบรายการ

ทั้งหมดนี้ถือเป็นเสน่ห์ของรายการที่ทำให้ต่างประเทศยอมรับว่า รายการเราเป็นรายการฟอร์แมตมาตรฐานระดับโลก ซึ่งผมดีใจจริงๆ ที่ประเทศไทยสามารถทำรายการฟอร์แมตนี้ขึ้นมาได้ ทำให้ต่างประเทศยอมรับในฝีมือคนไทยและซื้อไปผลิต”

ปัญญาเสริมว่า เดอะ แบนด์ ไทยแลนด์ เป็นรายการที่คนดูจะได้เห็นกระบวนการการประกวดวงดนตรี ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ คนทางบ้านจะได้รู้ขั้นตอนวิธีการตัดสินของโปรดิวเซอร์อย่างชัดเจน และได้เห็นพัฒนาการของแต่ละวงตั้งแต่เริ่มต้นอีกด้วย

 

“แต่ละวงที่เข้ามาประกวด เราไม่จำกัดสไตล์ ไม่จำกัดจำนวนคน ไม่จำกัดรูปแบบ มันเป็นอะไรที่ท้าทายมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความจริงใจในการเล่นดนตรี เคยเห็นคนที่เล่นดนตรีแล้วมีความสุขมากๆ มั้ย แล้วความสุขนั้นส่งมาถึงคนดู ความรู้สึกแบบนั้นนั่นแหละ คือ ความสุขที่ออกมาจากจิตวิญญาณความเป็นดนตรีอย่างแท้จริง”

นอกจากรูปแบบรายการ ความเข้มข้นของการแข่งขัน ก็ถือเป็นหัวใจสำคัญมากมายทีเดียว “ผมคิดว่ารายการของเราเป็นรายการแข่งขันที่สนุกและเข้มข้นมาก ทุกวงดนตรีต้องสร้างความพึงพอใจให้ได้มากที่สุด ภายในเวลาจำกัด เพื่อทำให้วงของตัวเองก้าวไปจนถึงที่สุด ผมจึงเชื่อมั่นว่า รายการเดอะ แบนด์ ไทยแลนด์ จะเป็นรายการใหม่ที่สร้างมาตรฐานของนักดนตรีไทยและนักดนตรีระดับโลก ที่จะสร้างความตื่นเต้นและสร้างความรู้ทางดนตรีให้กับผู้ชมทั่วโลกได้อย่างแน่นอนครับ”

เอาเป็นว่า ใครอยากติดตามชมรายการฝีมือคนไทย ที่กำลังจะโด่งดังไปไกลทั่วโลก ติดตามชมได้ทุกวันเสาร์ เวลา 15.0016.00 น. ทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี

Cool Cool Cool ‘มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล’

ถามว่า คุณรู้จักผู้ชายมากความสามารถอย่าง “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ในแง่มุมไหน พิธีกรรายการ นักเดินทางท่องเที่ยว หรือผู้จัดประกวดเวทีนางงาม ใครหลายคนคงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ทั้งหมดที่ว่ามานั่นแหละ แต่หากจะให้ถามว่า ณ ตอนนี้ สิ่งที่โดดเด่นที่สุดที่เขากำลังทำคืออะไร คงตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า ประธานและผู้ก่อตั้ง รวมทั้งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เวทีการประกวด “มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล” ภายใต้คอนเซปต์ “สต็อป เดอะ วอร์” ที่มี 90 ประเทศตอบรับ โดยจัดส่งตัวแทนสาวงามเข้ามาร่วมประกวด

 

“เวทีการประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่แต่เพียงผมเท่านั้น เพราะเวทีนี้เป็นการการันตีศักยภาพของประเทศไทยในการจัดการประกวดระดับนานาชาติ ที่ผ่านมามีเพียงเราได้ลิขสิทธิ์มาประกวดในประเทศ แล้วส่งนางงามผู้ชนะไปประกวดต่างประเทศเท่านั้น แต่ต่อจากนี้ไปประเทศไทยจะมีเวทีนางงามระดับโลกของตัวเอง ทั่วโลกต้องส่งนางงามมาประกวดที่บ้านเรา โดยครั้งนี้ประชาชนคนไทยทุกคนได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2013 ด้วยกัน

มันเป็นความภาคภูมิใจที่ประเทศของเราได้เผยแพร่ไปสู่สายตาคนทั่วโลก ซึ่งทางผมรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการจัดการประกวดอย่างเป็นทางการ โดยนางงามร่วม 90 ประเทศ ได้เดินทางมาประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา และได้ร่วมทำกิจกรรมเก็บตัวที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งรอบตัดสินจะมีขึ้นในวันที่ 19 พ.ย. ณ บิวตี้ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ถ่ายทอดทางช่อง 7 ตั้งแต่เวลา 22.30 น.เป็นต้นไปครับ”

ณวัฒน์ เผยว่า จุดเริ่มต้นของการจัดทำเวทีประกวดนี้ขึ้นมา ก็เพราะว่าเขาผิดหวังในการเป็นผู้จัดการประกวดเวทีในไทย เพื่อเฟ้นหาสาวไทยไปประกวดในเวทีระดับโลก ที่ลงทุนและทำทุกสิ่งอย่าง แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความว่างเปล่า

“พูดกันตรงๆ คือ เราทำทุกสิ่งอย่าง แต่ผลของการกระทำมืดมนมาก เหมือนเราอยู่ในความมืดที่หาทางออกไม่เจอ ทำให้เราไม่รู้ว่าอะไรคือคำตอบที่ชัดเจนกันแน่ สุดท้ายเรามาทำอะไรที่เป็นของเราดีกว่า เราทำเอง เรากำหนดเองได้”

 

หากถามว่าข้อดีของการเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นเจ้าของเวทีการประกวดนี้ สิ่งที่ได้มาคืออะไร ณวัฒน์ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า ผลกำไร แต่สิ่งที่ได้มากกว่านั้น คือ การทำให้คนทั่วโลกได้มองเห็นปัญหาที่มาจากสงคราม เพื่อหาทางหยุด หาทางเยียวยา และหาทางให้โลกใบนี้เกิดสงครามให้ได้น้อยที่สุด จนกระทั่งไม่มีเลย

“เมื่อเราเป็นเจ้าของ เราสามารถทำให้กว่า 90 ประเทศทั่วโลกซื้อลิขสิทธิ์ของเรา เพื่อเฟ้นหาตัวแทนสาวงามมาร่วมประกวด อีกทั้งยังได้พีอาร์แนวคิดหลักของเรา นั่นคือการหยุดยั้งสงครามที่ยังคงไม่หมดสิ้นไปจากโลกใบนี้ นอกจากนี้ เรายังสามารถจัดประกวดในประเทศต่างๆ ที่มีสถานีโทรทัศน์ที่ได้มาตรฐานให้เราได้ใช้งาน ยิงสัญญาณได้ทั่วโลก และยิงมายังไทย มีอีเวนต์ ฮอลล์ที่ใหญ่พอให้เราได้ใช้งานมากกว่า 10 วัน มีที่พัก มีอาหาร มีอะไรต่างๆ ให้กับสาวงาม และข้อสำคัญที่สุด มีแบ็คกราวด์สงครามและความสูญเสีย ซึ่งประเทศที่น่าสนใจและกำลังคุยๆ อยู่ คือ ประเทศกัมพูชา ซึ่งก็ส่งสาวงามเข้ามาร่วมประกวดเป็นเวทีแรกของโลก”

การเป็นผู้ก่อตั้ง การลงทุนคงไม่ใช่ 10 ล้าน 20 ล้านบาทเป็นแน่แท้ “หากเอาตัวเลขมากด มันเกิน 50 ล้านบาทแน่นอนครับ อาจมีสปอนเซอร์มาช่วยบ้าง แต่เราก็ต้องหาเงินมาทำเอง อย่างการประชาสัมพันธ์ เราก็ทุ่มงบไปเยอะ เราอยากให้เวทีนี้โดดเด่นบนเวทีโลก เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เราต้องการให้เวทีนี้ไปยืนอยู่แถวหน้าของโลก เราจึงทำกิจกรรมที่ดีสุด สถานที่ที่ไป สถานที่ที่พัก คือที่ที่ดีที่สุด และคอนเซปต์ของเวทีเราคือทันสมัย โฉบเฉี่ยว และสุดโต่งได้เสมอ

เรามั่นใจในโปรดักชั่นของเรา อย่างเวที เราก็ทำเป็นตัวจี ทำให้เป็นเอกลักษณ์ของเรา พิธีกรก็เป็น อั๊ตอัษฎา พานิชกุล และซอนย่า คูลลิ่ง ซึ่งเขาเข้าใจในวัฒนธรรมไทย และมีความเป็นอินเตอร์ รวมทั้งเป็นมืออาชีพในด้านพิธีกรเวทีนางงาม อย่างโชว์บนเวที เราก็ได้วงไทเทเนียม มาร้องเพลง โดยมีวีทีอาร์ควบคู่กับการร้อง ควบคู่กับชุดราตรีที่นางงามใส่เดิน ซึ่งคนทั่วโลกจะได้เห็นวัดเห็นวัง เห็นสถานที่ท่องเที่ยวในวีทีอาร์นี้ด้วย ในส่วนของกรรมการ เป็นคนต่างชาติครับ มีคนไทย 2 คน แต่ขอไม่เปิดเผยตอนนี้ละกัน (หัวเราะ)”