กายกรรมกลางเวหา ซุป’ตาร์สวยอินเทรนด์

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

หากเราๆ ท่านๆ สังเกตดูให้ดี ยุคสมัยนี้ ดารา นักร้อง นักแสดงไทยที่เป็นผู้หญิง หันมาเล่นกีฬากันมากขึ้น และนับวันยิ่งจะสรรหาสารพัดกีฬาแปลกๆ หรือสมบุกสมบันกันมาเล่นมากขึ้นทุกที ยิ่งผาดโผน ยิ่งท้าทาย ยิ่งหนักหน่วง ยิ่งได้ใจ

หรือพวกเธอเหล่านี้เป็นพวกชื่นชอบความรุนแรง?

เอาเป็นว่า อย่าตั้งคำถามเล่นๆ โดยไม่คิดไขว่คว้าค้นหาคำตอบเลยดีกว่าครับ วันนี้ผมมีสองสาวที่เหมือนจะไม่ค่อยได้โคจรมาเจอกันในสายบันเทิง แต่เธอสองคนนี้กลับมาโคจรเจอกันในสายของกีฬา ที่เธอสองคนเรียกมันว่า Aerial Acrobat ซึ่งมีความหมายว่า กายกรรมบนอากาศ นั่นเอง งั้นเราไปจับเข่าพูดคุยกับ “แคทแคทรียา อิงลิช” และ “จ๋ายศสินี ณ นคร” กันเลยดีกว่า ของมันกำลังฮอตและคูลอย่างนี้ ไม่เมาท์ไม่ได้แล้ว

“จุดเริ่มต้นคือ นุ๊ก สุทธิดา มาเรียนกายกรรมบนอากาศกับครูเล้ง ที่โรงเรียนของเขา ซึ่งตั้งอยู่ในต้นซุง อะเวนิว ทาวน์อินทาวน์ สักพักแคทก็ตามมาเรียน หลังจากนั้น จ๋าก็ตามมา ธัญญ่าก็ตามมา มีพี่ติ๊นา เพิ่งมาเรียนได้สองครั้ง นางติดใจมาก รู้สึกว่าจะมีอาโย ทัศวรรณ กับอาตุ๊ก ดวงตา ที่บอกว่าจะมาเรียนกับเราด้วย”

 

แคทรียา เผยว่า การที่สาวๆ ในวงการบันเทิงตบเท้าเข้ามาฝึกกายกรรมบนอากาศกับเจ้าของรางวัลไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 2 อย่าง เล้ง ราชนิกร นั่นเป็นเพราะว่า ณ ตอนนี้ เขาโดดเด่นที่สุดในสายกีฬานี้ และคงไม่มีใครสอนให้ดีที่สุดเท่าเขาอีกแล้วในเมืองไทย

“สำหรับจ๋า จ๋าเล่นกีฬามาโดยตลอด แต่ไม่ได้เล่นเอาเป็นอาชีพ แต่เล่นเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง เพราะอาชีพที่จ๋าทำอย่างการเป็นผู้จัดละคร บอกตามตรงว่าป่วยไม่ได้ ตายไม่ได้ พอมาเจอกีฬานี้ คนชอบความท้าทายอย่างจ๋ารู้สึกสนใจขึ้นมาทันที วันแรกที่เดินมาเรียนกับครูเล้ง เดินมาแบบสวยๆ เลย คิดว่าตัวเองทำได้แน่นอน แต่พอมาได้เรียนปุ๊บ ที่มั่นใจมาก พังหมดเลย (หัวเราะ) แต่มันก็แค่ช่วงแรกๆ นะ พอเราได้เรียน ได้ฝึกมากขึ้น มันไม่ได้ยากอย่างที่คิด อย่างกายกรรมบนอากาศ ที่ใช้ผืนผ้าเป็นอุปกรณ์ช่วย วันแรกๆ อาจจะยังปีนผ้าไม่ได้ แต่อย่าเพิ่งท้อ อย่ากลัวตกผ้า ร่างกายแข็งแรงเมื่อไหร่ เราจะยืนอยู่บนผ้าได้เมื่อนั้น”

หากมองด้วยหน้าที่การงานเป็นพื้นฐาน แคทรียาอาจจะได้เปรียบตรงที่เธอมีความสามารถด้านการเต้นบัลเลต์ หรือยิมนาสติกมาก่อน ซึ่งเธอไม่เถียงว่าคนที่เต้นบัลเลต์ หรือยิมนาสติกได้ เมื่อมาเรียนกายกรรมบนอากาศ จะได้เปรียบกว่าคนอื่น แต่คนที่ไม่มีพื้นฐานใดๆ ก็มาเรียนได้ โดยเฉพาะกายกรรมบนผืนผ้า ใครๆ ก็มาเรียนได้ “พอเรียนไปเรื่อยๆ ร่างกายจะปรับตัวไปเอง เพียงแต่ว่าอุปกรณ์บางชนิด อย่างห่วงถ้ามีพื้นฐานมาก่อน ร่างกายอ่อน หรือหลังอ่อน จะช่วยได้เยอะกว่าคนที่ไม่มีพื้นฐานก็เท่านั้นเอง”

 

ยศสินี กล่าวเพิ่มเติมว่า การมาเรียนกายกรรมบนอากาศ ไม่ว่าจะเรียนกับอุปกรณ์ใดก็ตาม มันไม่ได้เรียนเพื่อจะได้โชว์ท่าสวยกลางเวหา แต่ปรัชญาของมันคือเพื่อความแข็งแรงของร่างกายและจิตใจ รวมทั้งได้ฝึกสมาธิ นี่คือเรื่องที่สำคัญมากที่สุด “การยืนให้ได้บนอุปกรณ์สำคัญกว่าท่าสวย นี่คือเรื่องจริง”

“เพียงแต่เมื่อตัดสินใจมาเรียนแล้ว เราต้องต่อสู้กับความเจ็บปวดให้ได้ ยิ่งมาเรียนกับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ผ้า เราจะต้องพบเจอกับความแข็งของอุปกรณ์ แต่ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนั้น มันจะทำให้เราแข็งแรงมากขึ้นเรื่อยๆ” และความแข็งแรงที่แคทรียาได้รับ เธอเผยว่า มันทำให้เธอพบเจออะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ทำให้ชีวิตมีความหมายมากขึ้นทุกครั้งที่ได้มาเรียน

“สำหรับจ๋า เรียนทุกวัน เจ็บและร้าวระบมทุกวัน แต่ก็ยังมาเรียน จนบางทีจ๋าก็ถามตัวเองว่าตัวเองเป็นคนชอบความเจ็บปวดหรือเปล่า (หัวเราะ) เอาเข้าจริงๆ การมาเรียนกายกรรมบนอากาศ ไม่ว่าจะเป็นกายกรรมบนผ้า ห่วง หรือเสาชิงช้าอย่างที่จ๋าเรียน มันทำให้เรารู้สึกเหมือนได้อยู่อีกโลกหนึ่ง ก่อนหน้าที่จะมาเรียน จ๋าเครียดกับงานมาก แต่พอได้มาเรียน มันเหมือนมีพลังอะไรบางอย่างที่ทำให้เราอารมณ์ดี ไม่เหวี่ยงลูกน้อง มันคือโลกใบใหม่ที่ให้พลังงานแก่เราได้จริงๆ ทำให้เรารู้สึกอยากเล่นต่อ ไม่อยากกลับบ้านเลย (หัวเราะ)”

เคยมีคนถามแคทรียาว่า เวลาเธอปีนป่ายผ้า หรือเล่นไปกับห่วง เธอเคยมองลงข้างล่างบ้างไหม คำตอบคือ ไม่เลย ทุกครั้งที่เธออยู่บนนั้น เธอต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับทุกโมเมนต์ที่เธอเคลื่อนไหวไป “เราต้องคอนเซนเทรตกับสิ่งที่เราทำ มองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเพียงระดับสายตา เวลาที่เราเยื้องย่างไปท่าต่างๆ เราต้องอยู่กับมือที่จับ ขาที่พาด อยู่ตรงนั้น โดยไม่คิดถึงเรื่องอื่น ไม่วอกแวกต่อสิ่งใด”

“เชื่อจ๋าเถอะว่า พอได้มาเรียนแล้ว จะรู้สึกเหมือนมีสิ่งเสพติดเข้าสู่ร่างกาย มันจะติด เพราะหนึ่ง เราได้ร่างกายใหม่ สอง เราได้สมรรถภาพของชีวิตใหม่ เมื่อเทียบกับวันที่ได้มาเรียนกับก่อนหน้านี้ มันคนละแบบเลย การมาเรียนกายกรรมบนอากาศ มันให้พลังชีวิตใหม่แก่เราอย่างเต็มที่จริงๆ”

 

เมื่อให้ทั้งแคทรียาและยศสินีแสดงความคิดเห็นถึงการที่ผู้หญิงหันมาเล่นกีฬามากขึ้น โดยเฉพาะกายกรรมบนอากาศที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นทุกวัน เธอทั้งสองมองว่านี่คือเทรนด์ใหม่ที่ดีมากๆ และอยากให้เป็นเทรนด์ที่คนหันมาให้ความสนใจกันอย่างนี้มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

“กีฬามีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับเราพร้อมกับการเล่นกีฬามั้ย อยากสวย อยากสุขภาพดี นั่งเฉยๆ ไม่สวย ไม่ผอมหรอกค่ะ อยากสวยและมีสุขภาพดีต้องทำเลย ทำตอนนี้ด้วย เราต้องให้เวลาตรงนี้กับตัวเอง เราต้องอย่าให้ร่างกายมาเป็นคุกของเรา เราต้องกล้าเดินออกจากคุกนั้น เพื่อค้นพบโลกใบใหม่ เหมือนที่พี่ธัญญ่ามาเล่นตามจ๋า พอนางได้เล่น นางประกาศแล้วว่าจะเอาดีทางกายกรรมนี้ (หัวเราะ)”

สำหรับแคทรียา เธอเคยมีเพื่อนที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นถึง 20 กิโลกรัม ทำให้เธอต้องบอกเพื่อนของเธอว่า ถ้าจะลดความอ้วนให้ได้ผลดี ต้องควบคุมอาหารและออกกำลังกาย “จะว่ายน้ำ โยคะ ต่อยมวย หรือแอโรบิกก็ได้ทั้งนั้น แล้วต้องหักห้ามเรื่องอาหารการกินด้วย อย่าตามใจปาก ร่างกายเรา ไม่มีใครทำให้เราได้ เราต้องมีวินัยในการออกกำลังกาย ถามว่าแคทเคยมีขี้เกียจมั้ย มีอยู่แล้ว แต่ถ้าเราเริ่มวิ่ง 2 นาทีแรก มันจะเริ่มสนุก และความขี้เกียจจะหายไป เชื่อแคทเถอะว่า หากเราเอาชนะความขี้เกียจได้ พอเล่นปุ๊บ มันจะติดปั๊บ ที่สำคัญที่สุด เราอย่าไปมองร่างกายคนอื่น เพราะร่างกายคนเราไม่เหมือนกัน แต่ทุกร่างกายสามารถสวย เฟิร์ม และฟิตตามร่างกายของตัวเองที่มีมาตั้งแต่เกิดได้ ความสวยของร่างกายไม่ได้อยู่ที่ความผอม แต่ร่างกายที่สวยงามคือร่างกายที่ฟิตและเฟิร์มมากกว่า”

สำหรับใครที่สนใจการแสดงกายกรรมร่วมสมัย ต้องไม่พลาด ลางลิง The Aerialist (The First Contemporary Acrobat Show in Thailand) ที่จะเปิดทำการแสดงในวันที่ 1617 พ.ย. รอบเวลา 19.00 น. ณ โรงละครอักษรา งานนี้ เจ้าของโปรเจกต์อย่าง “เล้งราชนิกร แก้วดี” เผยว่า เขาได้แรงบันดาลใจมาจากตัวละครในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ “ผมตั้งใจทำให้เป็นการแสดงกายกรรมร่วมสมัย ที่จะตีแผ่เรื่องราวของหนุมาน ทหารเอกจากตำนานรามเกียรติ์ผ่านการแสดงกายกรรม แสดงนำโดยผมเอง แล้วก็มีลูกศิษย์ของผม อย่าง แคทรียา อิงลิช ธัญญ่าธัญญาเรศ เองตระกูล นุ๊กสุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา จ๋ายศสินี ณ นคร และคนที่มีความสามารถอีกมากมายหลายท่าน ที่มาร่วมรังสรรค์เรื่องราวความรัก พร้อมนำศิลปะ Aerial Acrobat เข้ามาเพิ่มความสนุกสนานให้แก่ผู้ชม ซึ่งการแสดงชุดนี้ได้ผู้กำกับมือฉมังจาก Cirque du Soleil มาร่วมกำเนิดละครกายกรรม Contemporary Acrobat แรกในประเทศไทยในครั้งนี้ครับ”