posttoday

หมอลำร้องกรมคุ้มครองฯไกล่เกลี่ยลิขสิทธิ์

11 ตุลาคม 2556

หมอลำพื้นบ้านร้องกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ หาทางไกล่เกลี่ยแกรมมี่ที่เรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงในการแสดง

หมอลำพื้นบ้านร้องกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ หาทางไกล่เกลี่ยแกรมมี่ที่เรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงในการแสดง

พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกรณีวงหมอลำพื้นบ้านแถบภาคอีสานถูกค่ายเพลงเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ขณะนำเพลงไปใช้แสดงบนเวที โดยมีคณะกรรมการลิขสิทธิ์และกรรมการสมาคมทรัพย์สินทางปัญญาแห่งประเทศไทย ดร.ประมวล เสติ นักวิชาการศิลปวัฒนธรรมภาคอีสาน น.ส.จิตรลดา เฮงยศมาก ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายบริษัท จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ และผู้แทนกลุ่มศิลปินหมอลำ ภาคอีสานและภาคกลาง ร่วมถกปัญหาเพื่อหาทางออกกรณีการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ จากกลุ่มหมอลำพื้นบ้าน

น.ส.จิตรลดา กล่าวว่า เบื้องต้นทางแกรมมี่ ต้องการให้กลุ่มศิลปินหมอลำ ลงทะเบียนรายชื่อวงไว้เป็นข้อมูลกับทางบริษัท เพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์การจัดเก็บ หรือไม่จัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงกลุ่มใดบ้าง โดยยืนยันจะยังไม่เข้าไปเก็บค่าลิขสิทธิ์ในเร็วๆนี้ ซึ่งการลงทะเบียนเป็นข้อดีสำหรับศิลปินขนาดเล็กในเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะหากมีรายชื่อในกลุ่มข้อมูลของแกรมมี่แล้ว หากมีการจัดเก็บหรือมีแอบอ้าง ถือว่า ผิดกฎหมายและไม่เกี่ยวข้องกับแกรมมี่ แต่กลุ่มศิลปินหมอลำที่มีรายได้ตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป จะต้องทำข้อตกลงกันในเรื่องค่าลิขสิทธิ์เพลง ซึ่งจากข้อมูลของทางแกรมมี่พบว่าการแสดงหมอลำพื้นบ้านมีรายได้เฉลี่ยต่อปีกว่า 250 ล้านบาท

ด้านดร.ประมวล กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลง เพราะถ้าหากกลุ่มหมอลำพื้นบ้านต้องไปเซ็นสัญญาทำข้อตกลงกับแกรมมี่ ก็จะทำให้ต้องเซ็นสัญญากับบริษัทอื่นๆ อีกกว่า 20 บริษัท นั่นหมายความว่ากลุ่มหมอลำจะต้องเสียค่าใช้เพิ่มหลายกลุ่ม ส่วนกรณีแกรมมี่มองกลุ่มหมอลำว่ามีรายได้จากการแสดงกว่า 2 แสนบาทต่อครั้งนั้น แท้จริงแล้วทางวงดนตรีมีค่าใช้จ่ายอีกมาก ทั้งค่ารถ เครื่องดนตรี หางเครื่อง อาหาร และน้ำมัน นอกจากนี้การแสดงในแต่ละครั้งก็ต้องมีการซ้อม ซึ่งหักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือเพียง 5,000-6,000 บาทเท่านั้น

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า ทางกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยเพื่อหาข้อสรุป การเข้าเจรจาวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จไปกว่าครึ่งแล้ว และต้องขอความเห็นใจจากแกรมมี่ อยากให้ผ่อนปรนในเรื่องนี้ เพราะต่อไปก็จะมีกลุ่มอื่นๆทยอยเข้ามาจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ ขณะเดียวกันอยากให้บริษัทที่เกี่ยวข้องทั้งหมดประชาสัมพันธ์กรณีการจัดเก็บลิขสิทธิ์ให้ประชาชนทราบโดยทั่วกัน เพื่อป้องกันความสับสน โดยหวังว่าการเจรจาจะยุติด้วยดี เพราะหากกลุ่มหมอลำเลิกกิจการก็จะกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ตนจะเห็นใจศิลปินหมอลำ แต่ก็ถือเป็นสิทธิทางการค้าของแกรมมี่ ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ ที่จะได้ประโยชน์จากงานสร้างสรรค์ทางบทเพลง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คือกลุ่มหมอลำมีการนำเพลงสมัยใหม่ไปขับร้องจึงกลายเป็นปัญหา