นักร้องเสียงทองแห่งยุคซิกซ์ตีส์...แพท บูน (2)

โดย...กบยูเนียน / ภาพ ไม่มีเครดิต

กลับมาเจอกันอีกครั้งกับกบยูเนียนใน “เล่าเรื่องเก่า” วันนี้จะขอต่อเรื่องของนักร้องเสียงทองแห่งยุคซิกซ์ตีส์...แพท บูน ซึ่งเขียนค้างเอาไว้ในครั้งก่อน นักร้องเสียงทรงเสน่ห์ผู้นี้ มีชื่อเสียงอยู่ในยุคโกลเดน โอลดีส์ จะเป็นรองก็แต่เพียง เอลวิส เพรสลีย์ หากประวัติชีวิตส่วนหนึ่งของเขาไม่ค่อยมีคนรู้มากนัก แม้แต่แฟนเพลงชาวอเมริกันเองก็ตาม กบยูเนียนกล้าท้า!

สายฝนฉ่ำอยู่ที่ด้านนอกของหน้าต่าง จะให้ดีควรเปิดเพลงของแพท บูน คลอไปเบาๆ สำหรับมิตรรักแฟนเพลงจากยุคเดียวกัน (ฮา) เชื่อว่าคงยังจำกันได้ ไม่ว่าจะเป็นเพลงดังในอดีตอย่าง เบอร์นาดีน (Bernadene) รีเมมเบอร์ ยู อาร์ มาย (Remember You’re Mine) หรือ ไอ ออลโมสต์ ลอสต์ มาย มายด์ (I Almost Lost My Mind) และอีกมากมายที่เป็นเพลงอมตะนิรันดร์กาลจากยุค 60

แพท บูน มีชื่อจริงว่า ชาร์ลส์ ยูจีน แพทริค บูน (Charles Eugene Patrick Boone) เกิดเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 1934 ที่เมืองชื่อแจ็กสันวิลล์ ฟลอริดา ประเทศสหรัฐ โดยแพท บูน นั้นอ้าง (Claim) ว่า ตัวของเขาสืบเชื้อสายมาจาก แดเนียล บูน (Daniel Boone) คุณผู้อ่านรู้จักแดเนียล บูน ไหม? เขาก็คือบรรพบุรุษสุดขอบป่าของสหรัฐ ในฐานะบุคคลผู้เป็นตำนานของประเทศเกิดใหม่แห่งนี้เมื่อ 200 ปีก่อน

บรรยากาศของสหรัฐในขณะนั้น อยากให้นึกถึงหนังสือ “บ้านเล็กในป่าใหญ่” ของ ลอรา อิงกัล ไวลด์ ผู้เขียนเล่าเรื่องราวชีวิตวัยเยาว์ในสมัยที่อเมริกายังเป็นผืนป่ากว้างไกลเมื่อ 200 ปีก่อน ในสมัยนั้นอเมริกายังเต็มไปด้วยป่าและต้นไม้ใหญ่ เดินเกวียนกันเป็นเดือนหรือหลายเดือน ก็ยังไม่พ้นเขตป่า แดเนียล บูน เป็นบุคคลที่เชื่อว่ามีตัวตนอยู่จริงในสมัยนั้น เรื่องราวของเขาเล่าขานต่อๆ กันมา โดยถือเป็นความภาคภูมิใจของอเมริกันชนในยุคสร้างประเทศ

อย่างที่บอกแล้วว่า แดเนียล บูน ผู้นี้เป็นหนึ่งในตำนานของอเมริกาทีเดียว โดยเป็นคล้ายๆ กับเป็นวีรบุรุษที่เล่าสืบต่อกันมา เชื่อว่าบุคคลผู้นี้ใช้ชีวิตอยู่ในป่าห่างไกลในสมัยอเมริกายุคเริ่มต้น อาศัยอยู่คนเดียวในป่าอย่างสันโดษ รักสงบ รักธรรมชาติ และรักในมนุษย์ เรื่องราวของเขามีตั้งแต่การช่วยเหลือผู้คนมากมาย ความเด็ดเดี่ยวและกล้าหาญ การกล้ายืนยันในกรรมสิทธิ์ที่ดิน เป็นเพื่อนกับหมี เป็นเพื่อนกับอินเดียนแดง ท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์ แดเนียล บูน ใช้ชีวิตอยู่ในป่าราวกับอุดมคติ

ในปี 1787 จอร์จ วอชิงตัน ประกาศใช้รัฐธรรมนูญของสหรัฐ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับไมเกรชัน หรือผู้อพยพรุ่นแรกๆ จากยุโรปที่ลงหลักปักฐานในดินแดนใหม่ ซึ่งนับย้อนขึ้นไปก็เพียง 34 เจเนอเรชัน หรือ 34 ชั่วคนเท่านั้น แพท บูน ก็อาจจะแกะรอยบรรพบุรุษ หรือสืบต้นสาย (Descendant) ของเขาได้ไม่ยาก เนื่องจากยังไม่ไกลกันนัก

แพท บูน ภาคภูมิใจกับเรื่องนี้ และนี่อาจเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้กิริยามารยาท บุคลิกลักษณะ และโดยเฉพาะจิตใจของเขากล่อมเกลาไปในทางดีงาม ส่องสะท้อนได้ถึงจิตใจที่ดีงามอย่างแท้จริง นักวิจารณ์เพลงเคยวิจารณ์เขาว่า หากถอดชุดนักร้องออก เขาสามารถไปสวมครุยของพระได้เลย

กล่าวกันว่า ศิลปินคนดังผู้นี้ใช้ชีวิตอยู่ในกรอบของศีลธรรม เป็นแฟมิลีแมนตัวอย่าง ไม่เคยมีข่าวเสียเรื่องนี้ รวมทั้งเรื่องอื่นด้วย เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีนิสัยดี นุ่มนวล เรียบร้อย เข้าข่ายสุภาพบุรุษชวนฝัน ที่กระชากหัวใจสาวๆ มาแล้วทั่วอเมริกาและทั่วโลก

I’ll Be Home จากปี 1956 และ Love Letter In The Sands Of Time จากปี 1957 ซึ่งขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ตทั้งคู่ แพท บูน ประสบความสำเร็จสูงสุดในช่วงปี 19551962 แม้ว่าส่วนหนึ่งจะเป็นเพลงของศิลปินผิวสีที่นำมาร้องใหม่ เช่น Ain’t That A Shame, Fats Domino และ Long Tall Sally ของ Little Richard หรือ I Almost Lost My Mind ของ Ivory Joe Hunter นั่นเอง

ในปี 1956 แพท บูน หันมาสนใจร้องเพลงบัลลาดในแนวของ บิง ครอสบี (Bing Crosby) อย่างเช่นเพลง Love Letter In The Sands Of Time, Friendly Persusion หรือเพลงดังอย่าง Bernadene ก็ทยอยตัดเป็นซิงเกิลออกมาในช่วงนี้ โดยในปี 1957 แพท บูน ยังจัดรายการโทรทัศน์ ชื่อ The Pat BooneChevy Showroom ออกอากาศตั้งแต่ปี 19571960

สำหรับการแสดงภาพยนตร์ แพท บูน แสดงภาพยนตร์ทั้งหมด 15 เรื่อง อาชีพนักร้องนักแสดงของเขาค่อยๆ แผ่วลงในช่วงกลางทศวรรษ 60 พร้อมๆ กับการมาถึงของวงดนตรีจากอังกฤษ The Beatles จากนั้นในปี 1970 ซึ่งเป็นช่วงท้ายของชีวิตการร้องเพลง แพท บูน ออกทัวร์กับภรรยา Shirley พร้อมด้วยลูกสาวทั้ง 4 คน ประกอบด้วย Cherry, Linda Lee, Deborah Ann และลูกสาวคนสุดท้อง Laura Gene

คุณผู้อ่านที่เป็นนักฟังเพลงน่าจะรู้จักลูกสาวคนที่ 3 ของแพท บูน Deborah Ann เธอก็คือ Debby Boone หญิงสาวผู้ก้าวขึ้นมาเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงและโด่งดังชนิดที่คุณพ่อก็ปลื้มมาก (You Light Up My Life) เรื่องราวของศิลปินคนโปรด คงจบลงแต่เพียงเท่านี้ กบยูเนียนขอตัวไปเปิดแผ่นเก่าๆ ของแพท บูน ฟังให้หายคิดถึง ใครอยากรู้เรื่องราวของศิลปินยุคซิกซ์ตีส์เซเวนตีส์คนใด ขอกันเข้ามาได้ที่ [email protected]