posttoday

The Fast & Furious 6

13 มิถุนายน 2556

แม้จะไม่ใช่คนหนุ่มที่คลั่งไคล้ความเร็ว ไม่ได้หลงใหลรถแต่งซิ่ง (แต่ชอบสาวๆ เซ็กซี่นะ)

โดย...คิ้วเข้ม

มันระเบิดระเบ้อ เว่อร์โคตรโคตร

ประเทศ สหรัฐอเมริกา

ประเภท ต่อสู้

ความยาวหนัง 130 นาที

เรตติ้ง น.13+ เหมาะสำหรับผู้ชมที่มีอายุ 13 ปีขึ้นไป

กำกับ จัสติน ลิน

นำแสดง วิน ดีเซล พอล วอล์กเกอร์ ดเวย์น จอห์นสัน และมิเชลล์ โรดริเกซ

แม้จะไม่ใช่คนหนุ่มที่คลั่งไคล้ความเร็ว ไม่ได้หลงใหลรถแต่งซิ่ง (แต่ชอบสาวๆ เซ็กซี่นะ) แถมยังหลีกเลี่ยงความท้าทายเสี่ยงตายบนท้องถนนทุกรูปแบบ

แต่กับซีรีส์ภาพยนตร์แอ็กชันสะท้อนโลกเรื่อง The Fast & Furious แล้ว สารภาพตรงๆ ว่าดูครบทุกภาคครับ สารภาพอีกด้วยว่าภาคล่าสุดนี้ แค่ได้เห็นตัวอย่างหนัง เห็นใบปลิว โปสเตอร์ ตลอดจนเนื้อเรื่องย่อก็ทำเอาตื่นเต้นตัวสั่น รอตีตั๋วเข้าโรงแทบจะไม่ไหว

ยิ่งได้เห็นหัวโล้นๆ กล้ามบึ้กๆ หน้าเข้มๆ ของวิน ดีเซล ขวัญใจคนเดิม พร้อมพลพรรคนักซิ่งอย่างพอล วอล์กเกอร์ เดอะร็อค (ดเวย์น จอห์นสัน) มิเชลล์ โรดริเกซ ไทริส กิ๊บสัน ซุง ลูดาคริส และคนอื่นๆที่มากันครบทีม หัวใจก็เต้นโครมครามแล้ว

The Fast & Furious 6 ยังกำกับโดย จัสติน ลิน ผู้กำกับชาวไต้หวัน (ที่ฝากฝีมือไว้ในภาค 3,4,5) เปิดเรื่องด้วยการฉายภาพชีวิตอันสงบเรียบร้อย ทว่าหรูหราของดอมโดมินิก ทอเรตโต (วิน ดีเซล) ไบรอัน โอคอนเนอร์ (พอล วอล์กเกอร์) และผองเพื่อนนักซิ่ง หลังทลายอาณาจักรยาเสพติดของเจ้าพ่อมาเฟียที่ริโอ เดอ จาเนโร แล้วจากมาพร้อมเงินมหาศาลนับร้อยล้านเหรียญ ต่างคนต่างกระจัดกระจายหายเข้ากลีบเมฆ

วันหนึ่ง เจ้าหน้าที่เอฟบีไอโจทย์เก่า ลุก ฮ็อบส์ (เดอะร็อค) ก็โผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัว พร้อมเล่าถึงคดีที่เขากำลังสืบสวนอยู่ขององค์กรอาชญากรรมระดับโลก โดยผู้อยู่เบื้องหลังแก๊งมีชื่อว่าโอเวน ชอว์ นักซิ่งสุดโหดและตีนผีฝีมือพระกาฬ แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือข่าวคราวของเลตตี้ (มิเชล โรดดิเกซ) คนรักของดอมที่คิดกันว่าตายไปแล้วมีส่วนร่วมในขบวนการครั้งนี้ด้วย

หนทางเดียวที่จะหยุดยั้งโจรตัวฉกาจคนนี้ได้คือทีมซิ่งสะท้านโลกทีมนี้ทีมเดียวเท่านั้น

ด้วยข้อแลกเปลี่ยนที่ตกลงกันไว้ว่าจะลบล้างแฟ้มประวัติอาชญากรให้ทีมซิ่งทุกคน ให้กลับบ้านเกิดได้โดยสวัสดิภาพ บวกกับการช่วยเหลือเลตตี้ให้กลับคืนมาสู่ครอบครัวนักซิ่ง พวกเขาจึงวางแผนครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตด้วยการตัดสินใจลุยแหลกอีกครั้ง

ได้ยินคำวิจารณ์มาเยอะ ผสมกับได้เห็นชัดคาตามาทุกภาคว่าซีรีส์หนังรถซิ่งเรื่องนี้ชักจะเน้นฉากบู๊วินาศสันตะโร พูดตรงๆ ว่าเวอร์ขึ้นทุกที จากหนังที่นำเสนอเรื่องราวของแก๊งรถซิ่งเล็กๆ ในแวดวงใต้ดินของเมืองลอสแอนเจลิส อเมริกา เริ่มขยับขยายวงกว้างออกไปมีเอี่ยวกับมาเฟียไมอามี วงการรถซิ่งที่ญี่ปุ่น เลยเถิดไปถึงอาณาจักรยาเสพติดของเจ้าพ่อมาเฟียที่บราซิล โอววว เรียกว่าเป็นภารกิจซิ่งข้ามโลกไปซะแล้ว

ฉากโชว์รถเท่ๆ เครื่องแรงๆ เพลงฮิปฮอปดังกระหึ่ม ท่ามกลางกองเชียร์สาวๆ สุดเซ็กซี่ วัดใจกันด้วยความเร็วบนท้องถนนอันเรียบง่ายคลาสสิก แปรเปลี่ยนมาเป็นทุ่มทุนสร้างฉากบู๊สะใจ ทั้งซัดกันด้วยหมัด ล่อกันด้วยปืน ฉากซิ่งรถไล่ล่าอันโลดโผนน่าหวาดเสียว แลดูวุ่นวายยุ่งเหยิง ภายใต้โปรดักชันสุดอลังการและทีมสตันต์แมนขั้นเทพ

ภาคนี้มีฉากหลักอยู่ที่กลางกรุงลอนดอน เชื่อว่าผู้ชมคาดหวังสุดๆ ที่จะได้เห็นฉากไล่ล่าด้วยรถซิ่งอันดุเดือดเลือดพล่าน ความคิดสร้างสรรค์ และเทคนิคการนำเสนอของทีมสตันต์นักซิ่ง การลำดับภาพ ตัดต่อ ที่ชวนให้ตื่นเต้น แต่ท้ายที่สุดก็ยังทำได้ไม่ยอดเยี่ยมเท่าภาคที่แล้ว ... เฉยๆ ไม่ค่อยระทึกเท่าไหร่

ในส่วนอารมณ์ของหนังยังครบรสเต็มอิ่ม แม้จะเทน้ำหนักไปที่ความสนุกสนาน มันเร้าใจชนิด “หลังไม่ติดเบาะ” แต่ยังแทรกด้วยเรื่องดรามา โรแมนติกหวานซึ้งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของดอมและเลตตี้ มิตรภาพที่นับวันยิ่งแนบแน่นฝังลึกของเพื่อนร่วมทีมนักซิ่งทุกคน ขอแนะนำว่าให้หาภาคเก่าๆ มาดูให้ครบทุกภาคจะสมบูรณ์แบบมาก

นักซิ่งทั้งหลายที่คาดหวังจะได้ชมรถเท่ๆ แรงๆ แต่งสวยๆ อาจผิดหวัง เพราะในฉากไล่ล่าบนถนนแทนที่จะมีแต่รถยนต์ แต่ดันมีรถถัง มีเครื่องบินเข้ามาทำให้เสียอารมณ์ ส่วนคอบู๊ เรื่องนี้รับประกันความมัน ความเวอร์แบบสิบกะโหลก

มันเวอร์สะใจคนดูแบบนี้ ภาค 7 มีตามมาแน่ คอนเฟิร์ม

ป.ล.อ๊ะๆ ลืมบอก ฉากจบจะมีทีเด็ดเปิดเผยตัวละครสำคัญภาคต่อไปด้วย เห็นหน้าเขาคนนี้แล้วฟันธงได้เลยว่า “ห้ามพลาด” @

ล้อมกรอบ

เรื่องไม่ลับของหนังตระกูล The Fast and the Furious

@ The Fast and the Furious ภาคแรก ทุนสร้างแค่ 38 ล้านเหรียญ มีฐานะเป็นหนังฟอร์มเล็ก ไม่มีดาราระดับหัวแถวแสดงนำ แต่รายได้รวมทั่วโลกกว่า 350 ล้านเหรียญ

@ ความสำเร็จถล่มทลายที่สุดเกิดขึ้นในภาค 5 คือ Fast Five ทุนสร้าง 125 ล้านเหรียญ มากกว่าภาคแรก 3 เท่า แต่ทำรายได้ทั่วโลกถึงกว่า 600 ล้านเหรียญ

@ ตั้งแต่ The Fast and the Furious (2001) ถึง Fast Five (2011) หนัง 5 ภาคชุดนี้ทำรายได้จากการฉายทั่วโลกรวมกันกว่า 1,500 ล้านเหรียญ

@ Fast Five ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนังที่ดีที่สุดของชุดนี้ ซึ่งจุดเด่นที่นักวิจารณ์ชื่นชอบที่สุดคือฉากขับรถไล่ล่าอันน่าตื่นเต้น เรื่องราวน่าติดตาม และฉากซัดกันตัวต่อตัวของเดอะร็อก กับ วิน ดีเซล