posttoday

ดีไซเนอร์เลือดใหม่ระดับโลก รูบิน ซิงเกอร์

29 พฤษภาคม 2556

ต้องยอมรับว่า รูบิน ซิงเกอร์ คือดีไซเนอร์เลือดใหม่ที่มาแรงที่สุดแห่งปี 2013 กับผลงานที่สร้างชื่อให้ดังไปทั่วโลก

โดย...ปณิฏา สุ.&<2288;

ต้องยอมรับว่า รูบิน ซิงเกอร์ คือดีไซเนอร์เลือดใหม่ที่มาแรงที่สุดแห่งปี 2013 กับผลงานที่สร้างชื่อให้ดังไปทั่วโลก ในการออกแบบชุดสุดสวยแสนเท่ เป็นชุดหนังประดับลูกไม้ ที่ต่อมาได้กลายเป็นเทรนด์แฟชั่นสุดฮอตใหม่ของโลก ให้ดีว่าสาวบียอนเซ่ โนวล์ส รวมทั้งทีมงานแดนเซอร์ของเธอ สวมใส่ขึ้นเวทีซูเปอร์โบวล์อันแสนศักดิ์สิทธิ์ของอเมริกันชน

“ทำไมบียอนเซ่เลือกผม ง่ายๆ เลย เพราะเธอชอบสิ่งที่ผมทำออกมาน่ะสิ (หัวเราะ) จริงๆ แล้วผมร่วมงานกับเธอมา 6 ปีแล้ว คือออกแบบเสื้อผ้าในคอนเสิร์ตของเธอมาแล้วอย่างน้อย 8 ครั้ง ก่อนที่จะมาออกแบบเสื้อผ้าให้งานซูเปอร์โบวล์อีก ก่อนหน้านี้ผมเคยออกแบบเสื้อผ้าให้เธอและแดนเซอร์ทุกคนกับหลายๆ คอนเสิร์ต อย่างคอนเสิร์ตฉลองปีใหม่ที่เพิ่งผ่านมานี่ก็ด้วย”

รูบิน เล่าอีกว่า เมื่อจะมีงานซูเปอร์โบวล์ (ปี 2013 จัดไปเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา) ขึ้นมา การที่เขาออกแบบเสื้อผ้าให้คอนเสิร์ตของบียอนเซ่มาตลอด ก็ไม่ได้มีสิทธิพิเศษอะไร แต่ต้องส่งผลงานเข้าไปแข่งกับคนอื่นมากมาย “ผมต้องเสนอร่างการออกแบบสำหรับชุดที่บียอนเซ่จะใช้ใส่ในงานนี้เข้าไป ซึ่งจากการสเกตช์และคอนเซปต์ที่นำเสนอเข้าไป ก็เป็นที่ถูกใจของบียอนเซ่และเธอก็เลือกผม

การไปนำเสนองานสำหรับซูเปอร์โบวล์นั้น เรียกว่า ทุกๆ แบรนด์ที่มีอยู่ในวงการแฟชั่น ต่างก็สนใจที่จะเป็นผู้ออกแบบชุดในงานนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น จีวอง ชี่ ดิออร์ ปุชชี บลาๆๆๆ ราวๆ 40 แบรนด์ได้มั้งครับ ที่นำเสนองานเข้ามาให้บียอนเซ่เลือก เรียกว่าการแข่งขันสูงและโหดมาก ซึ่งพอบียอนเซ่เลือกที่จะใช้ผลงานของผม ก็มีบางแห่งที่พยายามจะโจมตี พยายามจะล็อบบี้ทุกทางเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่จะขัดขวาง เพื่อที่จะให้บียอนเซ่หันไปเลือกเขาแทน แต่เธอก็เซย์โน บอกว่า เธอเลือกรูบิน”

งานซูเปอร์โบวล์ ทำให้ดีไซเนอร์หนุ่มเลือดใหม่ชาวอเมริกัน วัย 35 ปี กลายเป็นคนที่ฮอตที่สุดในวงการแฟชั่นโลกในชั่วข้ามคืน แม้ว่าเขาจะร่วมงานกับนักร้อง นางแบบ และดาราระดับโลกมาแล้วมากมาย นอกจากบียอนเซ่ก็ยังมี เอลิเชีย คียส์ เกล็นน์ โคลส ลูซี่ ลิว รวมทั้งไฮดี คลูม

รูบิน ซิงเกอร์ ดีไซเนอร์หนุ่มอเมริกันเชื้อสายรัสเซีย ในวัยเด็กเขาใช้เวลาคลุกคลีอยู่กับคุณปู่ ซึ่งเป็นนักออกแบบเครื่องแต่งกายผู้มีชื่อเสียงที่สุดของสหภาพโซเวียต โดยออกแบบเสื้อผ้าให้กับการแสดงที่โรงละครสตานิสลาฟสกี รวมทั้งเสื้อผ้าของข้าราชการระดับสูง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมไปถึงชนชั้นสูง นอกจากนี้พอมาถึงรุ่นพ่อของเขา อะลิค ซิงเกอร์ ก็ยังเป็นนักแบบเครื่องแต่งกายให้กับคณะบัลเลต์บอลชอย รูบินจึงได้ซึมซับเทคนิคการออกแบบอย่างลึกซึ้งยาวนาน เช่นเดียวกับพร้อมกับขั้นตอนการตัดเย็บที่เชี่ยวชาญและแยบยล

“แน่นอนล่ะ ผมเกิดมาภายใต้บรรยากาศแบบนี้ ภายในธุรกิจนี้ ทุกๆ วัน ผมรักการออกแบบ แล้วมันก็เป็นไปตามธรรมชาติที่ผมจะโตขึ้นมาเป็นนักออกแบบ”

รูบิน ได้รับการศึกษาที่สถาบันการออกแบบชื่อดัง อย่างเซ็นทรัลเซนต์มาร์ติน ประเทศอังกฤษ หลังเรียนจบเขาเข้าร่วมงานกับห้องเสื้อออสการ์ เดอ ลา เรนตา (Oscar de la Renta) เป็นเวลา 7 ปี ก่อนจะย้ายไปเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ที่บิลบลาสส์ (Bill Blass) อีก 3 ปี ก่อนตัดสินใจออกมาทำแบรนด์รูบิน ซิงเกอร์ (Rubin Singer) ของตัวเองในปี 2007

แบรนด์รูบิน ซิงเกอร์ มักนำเอารูปทรงอันยุ่งเหยิงและซับซ้อนมาเป็นแนวทางในการสร้างสรรค์ผลงาน ดูเหมือนว่า เขากำลังสื่อสารถึงการจะอยู่ในโลกอย่างไรมากกว่า รูบินเชื่อเรื่องเทคนิคและความไม่ซ้ำกันเป็นสิ่งที่น่าดึงดูด เขามักจะขวนขวายพัฒนาการตัดเย็บและโครงสร้างอื่นๆ โดยแรงบันดาลใจ หรือวิธีการสร้างสรรค์ของเขา มักจะได้แนวทางมาจากเสื้อผ้าระดับสูง

“หลายๆ คนบอกว่า สไตล์ของผมเหมือนเป็นออสการ์ฯ รุ่นเยาว์ (หัวเราะ) ซึ่งผมก็ไม่สนใจเท่าไหร่หรอก เพราะผมว่า ออสการ์ เป็นดีไซเนอร์ที่เริ่ดมาก ซึ่งเมื่อคนรู้ว่าผมเคยทำงานที่นั่น ก็อดไม่ได้หรอกที่จะเอาผมไปเปรียบเทียบกับเขา แต่ผมรู้ตัวเองดีว่า ผมแตกต่างจากเขา ตอนที่ผมออกแบบคอลเลกชั่นต่างๆ ผมก็ไม่ได้นึกถึงเขาเป็นต้นแบบ แต่การออกแบบเครื่องต่างกายที่ดูมีความเป็นผู้หญิงสูงแบบนี้ ก็อาจจะมีกลิ่นอายที่คลับคล้ายของเขาอยู่เหมือนกัน”

พอถามว่าแล้วสไตล์ที่แท้จริงของรูบินเป็นอย่างไร “สไตล์ของผมแสดงออกถึงความเป็นผู้หญิงอย่างสูง เป็นผู้หญิงที่พลังภายในตัวเองมากมาย โดยผมจะเน้นเล่นกับเส้นสาย โครงร่างที่เป็นทรวดทรงของผู้หญิงอย่างชัดเจน แล้วผมก็ยังชอบเล่นกับเนื้อผ้า เทกซ์เจอร์ และโทนสีที่แตกต่าง สร้างเป็นเงาร่างที่มีความเป็นผู้หญิงอย่างเด่นชัด”

รูบิน ซิงเกอร์ ไม่ได้สร้างแบรนด์แบบสาวเดินถนนทั่วๆ ไป แต่เป็นเครื่องแต่งกายระดับสูง ที่เน้นคุณภาพของการตัดเย็บ เนื้อผ้าที่มีระดับ สำหรับคอลเลกชั่นล่าสุด สปริง/ซัมเมอร์ ของเขานั้น ได้แรงบันดาลใจจากภาพเขียนชื่อ Ophelia ผลงานของจอห์น เอดเวิร์ด มิลเลส์ ซึ่งเป็นตัวละครในเรื่อง Hamlet ของวิลเลียมส์ เชกสเปียร์

“โอฟีเลียเป็นสาวสวยที่หลงรักแฮมเล็ต แต่ว่าแฮมเล็ตไปฆ่าพ่อของเธอ ทำให้เธอเสียสติและฆ่าตัวตาย ในภาพเขียนนั้นเป็นภาพที่เธออยู่ในน้ำและกำลังจมลง ผมประทับใจภาพเขียนนี้มาก เพราะว่ามันดูเศร้า แต่ก็ดูสวยมากในเวลาเดียวกัน ผมรู้สึกว่าเป็นภาพที่โรแมนติกมากๆ ภาพหนึ่ง จึงนำมาเป็นแรงบันดาลใจของคอลเลกชั่น

จะเห็นว่า เสื้อผ้าคอลเลกชั่นนี้สีสันสดใสมาก (ผลงานที่นำมาโชว์ในปาร์ตี้ฉลองครบรอบ 1 ปี ลอฟฟีเซียล ที่ดับเบิลยู รีทรีต เกาะสมุย) ซึ่งในภาพเขียนนี้ก็เหมือนกัน ทุกๆ อย่างในภาพสดใสหมดเลย ยกเว้นหน้าตาของโอฟีเลียที่ดูซีดเซียว เพราะกำลังจะจมน้ำตาย”

ถ้าพูดถึงผลงานที่ภูมิใจที่สุดตลอดระยะเวลาที่เป็นดีไซเนอร์มาเกือบ 18 ปี รูบิน บอกว่า เป็นคอลเลกชั่นพิเศษที่นำมาโชว์ในงานฉลองครบรอบ 1 ปี ของลอฟฟีเซียล ไทยแลนด์ คอลเลกชั่น Valkyrie’s Domination AutumnWinter 2013/14 ที่ออกมาเป็นสีดำทั้งหมดนี่เอง

“วัลคีรี ตามตำนานของนอร์สโบราณ คือ เทพธิดาหญิงที่อยู่บนสวรรค์ ทำหน้าที่และมีอำนาจที่สามารถชี้เป็นชี้ตาย ผู้ชายที่กำลังรบอยู่ในสนามรบในสงครามเมืองมนุษย์” นับเป็นสไตล์อันเป็นแนวทางของรูบินโดยแท้ นั่นคือ ผู้หญิงที่ทรงอำนาจ มีความเป็นผู้นำ และเปี่ยมด้วยเสน่ห์ดึงดูดทางเพศ เป็นผู้หญิงที่มีทั้งสวยสง่าในหลายมิติ มีความละเมียดละไมในชีวิต ขณะเดียวกันก็มากด้วยเสน่ห์แฝงเล่ห์ร้าย

“เธอเป็นเหมือนนักรบมาดมั่นไร้ความกลัวเกรง สามารถปกป้องรักษาสิ่งที่เป็นของตัวเอง และกล้าที่จะพิชิตในสิ่งที่ไม่ใช่ของๆ เธอ ผมเลือกคอลเลกชั่นนี้เป็นความภูมิใจที่สุด เพราะยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ในการทำงานทุกครั้งของผมจะมีการพัฒนา ทั้งเรื่องไอเดียและเทคโนโลยีการตัดเย็บที่ผมคิดค้นอยู่ทุกวัน เมื่อเกิดคอลเลกชั่นใหม่ขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็จะถือเป็นความภูมิใจใหม่ๆ ด้วยครับ”

ในการทำงาน รูบิน ยึดเสมอว่า ต้องพัฒนาและคงเอกลักษณ์ของตัวเองเอาไว้ การที่เขาได้ออกเดินทางไกลๆ เขาได้มากกว่าประสบการณ์ การเรียนรู้รวมไปถึงการก้าวไปข้างหน้า “ผมชอบเดินทางเก็บประสบการณ์ในแต่ละคอลเลกชั่น เพื่อทำให้คอลเลกชั่นต่อไปมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ผมไม่ลืมที่จะนำเอาความผิดพลาด ความอับอายมาเป็นบทเรียน เพราะบางครั้งความผิดพลาดก็นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่สวยงาม”

สำหรับผลงานในอนาคต รูบิน บอกว่า แนวทางการออกแบบจะเน้นรูปแบบที่แปลกใหม่ “คนที่รู้จักเสื้อผ้าของรูบิน ซิงเกอร์ เป็นเพราะเขารู้จักเรียนรู้สิ่งใหม่และสนใจรายละเอียดกับคอลเลกชั่นก่อนหน้า จนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่หายไปไหน คุณค่าของการตัดเย็บ ความชัดเจนในสไตล์ของตัวเอง เมื่อดีไซเนอร์ของแบรนด์แกร่งขึ้น ผมเริ่มให้ความสนใจเรื่องการประยุกต์ความงามและความสนใจส่วนตัวเข้าไป ขณะที่การออกแบบเพื่ออนาคตจะต้องโดดเด่น สดใส สะท้อนถึงแนวทางที่ชัดเจน”

โดยต่อจากนี้ มีแผนที่จะขยายไลน์ไปทำเสื้อผู้ชายให้มากขึ้น ซึ่งตอนนี้ได้เริ่มที่ตลาดญี่ปุ่นไปบ้างแล้ว