posttoday

นางงามเวทีคุณแดง เดินสายฤาจะสู้ตัวเก็ง!

09 พฤษภาคม 2556

ถ้าเอ่ยชื่อ MUT คนที่ไม่ใช่คอนางงาม อาจสงสัยนึกว่านามสถานศึกษาไหนหรือเปล่านี่? แต่หากเอ่ยชื่อเต็มๆ ว่า “Miss Universe Thailand”

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

ถ้าเอ่ยชื่อ MUT คนที่ไม่ใช่คอนางงาม อาจสงสัยนึกว่านามสถานศึกษาไหนหรือเปล่านี่? แต่หากเอ่ยชื่อเต็มๆ ว่า “Miss Universe Thailand” ใครหลายคนคงร้องอ๋อ เพราะนี่เป็นเวทีนางงามที่ประทับตรายี่ห้อ “แดง-สุรางค์ เปรมปรีดิ์” อดีตเจ้าแม่ช่อง 7 สี (ที่ตอนนี้ เธอนิยามตัวเธอเองว่าเป็นผู้จัดอิสระ ภายใต้ชื่อบริษัท “จันทร์ 25”) ไว้เสียจนเวทีไหนๆ ก็เทียบไม่ติด

หลังจากที่ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมเก็บตัวผู้เข้าประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2013 ณ จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา (จะตัดสินกันในคืนที่ 11 พ.ค. ณ รอยัล พารากอนฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน) ผมได้เห็นถึงแววตาแห่งความมุ่งมั่นของบรรดา 44 สาวงาม ที่มายืนอยู่ตรงจุดนี้ด้วยความหวังเดียว นั่นคือการได้เป็นที่หนึ่ง ที่จะได้ครองมงกุฎเพชร และเป็นตัวแทนสาวไทยไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส นั่นเอง

แม้ว่า จะมีผู้เข้าประกวดหลายคนที่เดินทางมาเพื่อต้องการประสบการณ์ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่เดินทางมาด้วยความเป็นนางงามที่ “รักการประกวดนางงาม” ซึ่งด้วยความที่รักการประกวดนางงามนี่แหละ ที่ทำให้เธอเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นพวก “นางงามเดินสาย” วันนี้ผมเลยถือโอกาสจับเข่าคุยแบบเปิดใจกับ “นะคะ-นคนันทินี วงค์จิตต์” หมายเลข 28 และ “นุ่ม-คเณพร อินต๊ะมูล” หมายเลข 32 ถึงประเด็นพื้นที่ยืนอันน้อยนิดบนเวทีใหญ่ระดับชาติ ที่ถึงแม้จะรักการประกวดนางงามจนล้นใจ แต่เธอก็มักจะถูกสกัดดาวรุ่ง

*แค่เป็น 1 ใน 44 บนเวทีใหญ่...ก็ดีที่สุดแล้ว (ภาพที่ 5 นะคะ คนกลาง เล่นน้ำท่ามกลางเพื่อนๆ นางงาม)

“นะคะเคยผ่านเวทีใหญ่ๆ อย่างเวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2012 เวทีมิสคลาร่าพลัส 2012 และเวทีเทพีสงกรานต์วิสุทธิกษัตริย์ 2555 และนางงามหัวหิน 2555 ค่ะ”

นะคะเปิดฉากพูดคุยกับผม แม้ว่าเธอจะผ่านการประกวดมาหลายเวที จนใครหลายคนมองว่าเธอคือนางงามเดินสาย แต่เธอก็เดินสายด้วยเป้าหมายสูงสุดคือ เธอรักการประกวดนางงาม

“ถามว่านะคะจำเป็นต้องใช้เงินมากเลยเหรอ ถึงต้องมาประกวดเยอะแยะมากมายอย่างนี้ เรื่องเงินอาจเป็นส่วนหนึ่งแต่ไม่ใช่ทั้งหมด สิ่งสำคัญที่สุด คือ นะคะรักการประกวดนางงาม นะคะว่าการที่เรารักการประกวดนี่แหละ ทำให้เราประกวดตามเวทีต่างๆ ด้วยความสุขและความสนุก”

คงด้วยความสุขนี่แหละ ที่ทำให้นะคะกวาดรางวัลบนเวทีที่เธอเดินผ่านมาได้แทบจะครบทุกเวที

“นะคะคิดว่า การที่คนที่รักการประกวดนางงามอย่างนะคะจะมาประกวดบนเวทีใหญ่ๆ เป็นสิ่งที่ทำได้ เพราะทำให้เรามีความมั่นใจและความกล้ามากขึ้น เราเริ่มจากจุดเล็กๆ จนพัฒนาตนเอง เพื่อก้าวสู่เวทีใหญ่ระดับชาตินี่คือสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว”

หากจะขออะไรได้เพียงสิ่งเดียว นะคะขอเพียงแค่ “โอกาสในการมีพื้นที่ยืน” บนเวทีใหญ่ การเป็น 1 ใน 44 คนสุดท้าย ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี แม้เธอจะไปไม่ถึงดวงดาวตามที่ตั้งหวังไว้

“นะคะต้องขอบคุณที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสนะคะได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้ จะได้หรือไม่ได้ตำแหน่ง นะคะก็คิดว่านะคะทำดีที่สุดแล้ว”

*ประกวดนางงามเหมือนการจับฉลาก ถ้าโชคดี ก็ได้ที่ 1 (ภาพที่ 6)

“นุ่มเคยประกวดเวทีนางสาวเชียงใหม่ 2556 เวทีธิดาพญาแล 2556 เวทีเทพียี่เป็งเชียงใหม่ 2555 เวทีนางงามบุปผชาติเชียงใหม่ 2555 เวทีมิส ทุเรียน เวิลด์ 2012 และก็เคยผ่านเวทีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส มาแล้วด้วยค่ะ ตอนปี 2010 ซึ่งหลังจากเตรียมความพร้อมมาอย่างดี นุ่มก็กลับมาประกวดที่เวทีนี้อีกครั้ง”

นุ่มอาจเป็นนางงามที่ไม่ได้สวยที่สุดในสายตาของผม แต่สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจในตัวนุ่ม นั่นคือรอยยิ้มจริงใจที่ส่งผ่านมาทางสายตา ยิ่งเธอกล้าหาญบอกเล่าว่าเธอผ่านการประกวดมาจากเวทีใดบ้าง ยิ่งทำให้เห็นว่าเธอไม่ได้แอ๊บ

“นุ่มคิดว่า นุ่มรักการประกวด เพราะการประกวดให้อะไรกับนุ่มเยอะแยะมากมาย นุ่มไม่แคร์ว่านุ่มผ่านเวทีเล็กๆ มาหลายเวที เพราะเวทีเล็กๆ ให้ประสบการณ์และความมั่นใจแก่นุ่ม เพื่อที่นุ่มจะได้พร้อมที่จะก้าวสู่เวทีใหญ่ระดับชาติ”

สิ่งที่นุ่มฝากบอกผ่านผมไปถึงคนที่มองผู้หญิงที่รักการประกวดนางงามอย่างเธอว่า เธอมาประกวดเพื่อปรับบุคลิกภาพ และฝึกฝนให้เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีคุณค่า แม้ว่าการประกวดบนเวทีใหญ่ เธออาจจะไปไม่ได้ถึงตำแหน่งสูงสุด

“นุ่มรู้ว่ามันยาก เพราะว่าการประกวดนางงามก็เหมือนการจับฉลาก ถ้าเราโชคดี เราก็ได้ที่ 1 แต่อย่างไร เราก็ต้องมีความมั่นใจ ความพร้อม การฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อการก้าวมาเป็นที่ 1 ใน 44 สาวงามของเวทีนี้”

ไม่ว่าทั้งนะคะและนุ่ม จะได้ตำแหน่งสูงสุดบนเวทีนี้หรือเปล่า แต่ “แจ๊ส-ประณม ถาวรเวช” หนึ่งในทีมงานของมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ที่คลุกคลีอยู่กับเวทีนางงามเวทีนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 (ปีที่ชุติมา นัยนา ได้เป็นนางสาวไทย) ก็ยืนยันว่า ที่นี่คือเวทีแห่งโอกาสของสาวงามเสมอ และเวทีนี้ก็กำลังค้นหาผู้หญิงที่สวยแบบมีความเก๋ไก๋น่ารักผสมผสาน

“ถ้ามองนางงามสมัยก่อน ต้องสวยคม สวยจริงๆ แบบมองแล้วรู้เลยว่านี่คือนางงาม แต่เดี๋ยวนี้ต้องสวยแบบมีความเก๋ไก๋น่ารักผสมผสาน ให้นางงามดูกลมกล่อม”

ซึ่งคงต้องจับตาดูว่า นะคะและนุ่ม จะได้รับโอกาสนั้นจากกรรมการหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ทุกเวทีล้วนมีตัวเก็งและตัวเกร็ง ซึ่งแม้นะคะและนุ่มจะไม่ใช่ตัวเก็งบนเวทีนี้ ผมก็ยังจะเอาใจช่วยให้เธอได้ก้าวไปสู่มงกุฎเพชรบนเวทีใหญ่ระดับชาติที่เธอทั้งคู่ได้มุ่งหวังไว้