posttoday

ครอบครัวน่ารักหลากสีสันหลายแนว

15 เมษายน 2556

สถาบันครอบครัวเป็นสถาบันแรกของทุกคนในสังคม วันครอบครัวปีนี้ มีครอบครัวที่น่ารัก อบอุ่น ในหลากหลายรูปแบบมาแนะนำให้รู้จักกัน

โดย...ชมดาว

สถาบันครอบครัวเป็นสถาบันแรกของทุกคนในสังคม วันครอบครัวปีนี้ มีครอบครัวที่น่ารัก อบอุ่น ในหลากหลายรูปแบบมาแนะนำให้รู้จักกัน

ครอบครัวนักปั่น

ตรีดาว อภัยวงศ์ (โฆษกกรุงเทพมหานคร) พงษ์ สุขุม (นักธุรกิจ) ถือว่าเป็นครอบครัวรักการปั่นเข้าเส้นเลือด คุณสามีรักจักรยาน เป็นชีวิตจิตใจตั้งแต่เด็ก 9 ขวบก็เก็บเงินซื้อจักรยานพีเค ริปเปอร์ เป็นของตัวเองเมื่อ 33 ปีที่แล้ว ราคาคันละ 1.5 หมื่นบาท อดออมกันสุดตัวเลยทีเดียว แต่รู้สึกเท่ห์ที่สุดในซอยเลย ได้จักรยานคันนี้มารักมากถึงขั้นเก็บเอาไว้ในห้องนอน ผ่านมาจนเป็นหนุ่มใหญ่วัยต้น 40 จักรยานแสนรักคันนี้ก็ยังอยู่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เขายังคงปั่นจักรยานมาอย่างต่อเนื่อง และสะสมจักรยานมาตลอดเวลาเรียกว่าเป็นนักสะสมขั้นเทพ เพราะจะสะสมจักรยานจากนักปั่นระดับโลกอยู่หลายคันและแต่ละคันนั้นก็ระดับซูเปอร์แบรนด์ รักมากถึงขั้นเปิดร้านไซเคิล เดคอร์ เป็นที่พบปะของคนชอบปั่น

ฝ่ายภรรยาขี่จักรยานมาแต่เด็กกับเพื่อนเล่นแถวบ้าน แต่ไม่ถึงขั้นคลั่งไคล้ จนกระทั่งมาเจอกับสามี เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ของเล่นวัยเด็กของเธอจึงถูกกระตุ้นเตือนให้กลับมาขี่จักรยานอีกครั้ง เธอเล่าว่าระหว่างที่คบกัน กิจกรรมหลักของการออกเดตก็คือการชวนกันไปขี่จักรยานตามที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ไปตามร้านขายของเก่าเพื่อหาอุปกรณ์จักรยานก็เพลินไปอีกแบบ

“สนุกมาก รู้สึกอิสระเสรี ใช้ชีวิตติดดิน เพราะถ้าขับรถยนต์จะไม่เข้าถึงวิถีชีวิตชุมชนเท่าไหร่ มองผ่านอะไรน่าสนใจจะจอดรถยนต์ดูก็หาที่จอดรถยาก แต่พอมาปั่นจักรยานนี่ปั่นไปได้ทุกที่ตามตรอกซอกซอยที่สนใจ เห็นวิถีชุมชนอะไรน่าสนใจก็จอดลงไปดูได้เลย จักรยานคันเดียวไปได้ทั่ว เอาขึ้นรถ ลงเรือ ขึ้นรถไฟฟ้า เวลาขี่จักรยานตอนค่ำๆ ยิ่งอากาศดีๆ ให้ความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับการขับรถเปิดประทุน”

สามี บอกว่า “ผมขี่ทั้งแบบผาดโผนเสือหมอบ ขี่แบบกินลมชมวิว เวลาไปต่างจังหวัดก็เอาจักรยานขึ้นหลังรถแล้วขี่ไปทั่ว เราปั่นกันไปเรื่อยๆ สบายใจมีความสุขมากเป็นการออกกำลังกายที่ดี”

สถานที่ที่ชอบไปปั่นจักรยานบ่อยๆ คือแถวบ้านโป่ง ราชบุรี มันจะเป็นซอยเล็กๆ รถใหญ่เข้าไม่ค่อยได้ แล้วข้างทางเป็นริมคลอง ถนนที่เราขี่ก็เลียบคลองไปเรื่อยๆ ได้เห็นวิถีชาวบ้านริมคลอง หรือจะเป็นแถวพุทธมณฑลก็ชอบไป

ครอบครัวดารา

ชาช่าเนตั้นธัญญ่า รามณรงค์ หลังจากที่ธัญญ่าเข้ามาปักหลังในวงการบันเทิงอย่างเข้มแข็งมานานนับสิบปี ก็มีน้องสาว ชาช่า ตามมาในฐานะนักร้องนักแสดง ล่าสุดหลานชายสุดเลิฟเนตั้น (นาธาน) ก็เข้าวงการมาอีกคน เห็นแววดังเริ่มปรากฏ

ธัญญ่า บอกว่า เป็นความบังเอิญที่ทั้งน้องและหลานเขาชอบวงการบันเทิงเหมือนกัน แต่ไม่ได้ตั้งใจวางตัวว่าต้องเข้าวงการ ถ้าชอบก็ลองดูและโชคดีที่เขาก็ทำกันได้ดี พูดถึงการทำงานเขาก็ดูตั้งใจกันดี ไม่ห่วงอะไร ดีที่เขาจะได้มีประสบการณ์ รู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ รู้ค่าของเงินที่หาด้วยตัวเอง ฝึกความรับผิดชอบตั้งแต่เด็ก

“อย่างชาช่า มีความรับผิดชอบสูง และเข้าวงการมาหลายปีแล้วไม่มีอะไรห่วง ส่วนเนตั้นแม่เขาก็ใส่ใจใกล้ชิด ห่วงเรื่องการพูดจาเขาเป็นเด็กพูดจาตรงๆ แบบเด็กฝรั่งที่โตเมืองนอก กลัวบางคนจะไม่เข้าใจเขาเท่าไหร่ แต่เขาเป็นเด็กดีน่ารัก ก็สนับสนุนเขาค่ะ ถ้าเราได้เป็นผู้จัดเองก็อยากชวนพวกเขามาเล่นเหมือนกัน”

ส่วนลูกสาวน้องลียา ที่เพิ่งขึ้นปกนิตยสารเมื่อไม่นานนี้ เธอว่า แล้วแต่เขาว่าโตขึ้นจะชอบงานในวงการหรือไม่แม่ไม่เคี่ยวเข็ญ ถ้าชอบก็โอเค แต่ถ้าไม่ชอบก็ไม่ฝืน ตอนนี้ก็ยังดูไม่ออกว่าเขาจะชอบหรือเปล่า “เขาไม่ชอบให้ใครมาถ่ายรูป กว่าจะทำความคุ้นเคยได้ก็นาน แล้วแต่อารมณ์เลยจริงๆ คาดเดายาก”

ครอบครัวดาวสังคม

ครอบครัวนี้เปรี้ยวเข็ดฟันกันมาตั้งแต่คุณยาย (สปัน เธียรประสิทธิ์) ถือว่าเป็นสาวสังคมยุคแรกๆ ที่เรียนจบทางด้านดีไซน์เนอร์จากต่างประเทศ มีห้องเสื้อของตัวเองตั้งแต่ 50 กว่าปีที่แล้ว สวย รวย เปรี้ยว ที่สุดในยุคนั้น

มาถึงยุคคุณแม่ ปัญชลี ก็อยู่ในโหมดสาวนักเรียนนอก สวย รวย เก่ง เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัย เป็นสาวแต่งตัวดีมีรสนิยม แม้ไม่เปรี้ยวจี้ดแต่ก็เป็นดาวสังคมเช่นกัน

ยุคหลานสาวอย่าง แหวนๆปวริศา เพ็ญชาติ ดูจะเปรี้ยวกว่าคุณแม่ ดีกรีไล่เลี่ยกับคุณยาย เปรี้ยวเฉี่ยว งานสังคมดังต้องมีเธออยู่ เธอเล่าว่า คงได้รับอิทธิพลมาจากคุณยาย ที่เป็นดาวสังคมมาก่อน แต่ไม่ว่าจะเปรี้ยวจะแรงแค่ไหนก็ทำงานหนักแน่นจริงจัง แม้ชอบออกงานสังคมแต่ผู้หญิงบ้านนี้ก็ทำงานกันจริงจัง เมื่อก่อนออกงานบ่อย ตอนนี้น้อยลงเยอะเพราะมีงานต้องทำหลายอย่าง ทั้งงานเบื้องหน้า เบื้องหลัง งานอีเวนต์ ก็เลือกงานออกมากขึ้นไม่ออกทุกงานแล้ว

“ทุกวันนี้เวลาออกงานยังไปยืมเสื้อผ้า เครื่องประดับคุณยายอยู่เรื่อยๆ ยิ่งแนววินเทจนี่มีเยอะ เวลาแต่งตัวคุณยายยังแนะนำว่า อะไรควรใส่กับอะไร แต่งตัวให้สมกาลเทศะ ทุกวันนี้ท่านก็ยังแต่งตัวสวยอยู่เลย ท่านทันสมัยมาก”

ครอบครัวนักคิดนักเขียน

เป็นครอบครัวนักคิดนักเขียน นักเคลื่อนไหวในอดีต ทั้งคุณพ่อ เสกสรร ประเสิรฐกุล และคุณแม่ จิระนันท์ พิตรปรีชา ทำให้ลูกๆ ถูกจับตามากตอนเป็นเด็กว่าจะได้รับอิทธิพลมาจากคุณพ่อคุณแม่มากน้อยเพียงใด เธอเล่าว่าตอนลูกเล็กๆ เขาจะถูกกดดันมาก คนข้างนอกจะชอบถามเขียนหนังสือดีไหม อยากเป็นนักเขียนเหมือนพ่อแม่ไหม ฟังแล้วก็สงสารลูกไม่อยากให้เขาต้องมากดดัน ก็เลี้ยงเขาตามสบายตามธรรมชาติที่เขาชอบ ลายมือไม่สวยไม่เป็นไร เขียนเรียงความไม่เก่งก็ช่าง ไม่ชอบอ่านหนังสือก็ตามใจ ปล่อยให้เขาได้แสวงหาตัวตนที่แท้จริงตามที่เขาต้องการด้วยตัวเอง

“ลูกคนโต (แทนไท) ไม่เท่าไหร่เขาเป็นเด็กสบายๆ อารมณ์ดีใจเย็น ชอบวิทยาศาสตร์ก็ไปทางนั้นตอนนี้ได้ทุนเรียนดอกเตอร์อยู่ แต่คนเล็ก (วรรณสิงห์) นี่เป็นคนตั้งใจมากอยากทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เด็กๆ ดูเขาจะเครียดกว่าพี่ โชคดีที่พอโตขึ้นเขาชัดเจนว่าเขาชอบอะไรเขาชอบตั้งคำถามแล้วหาคำตอบมาอธิบาย ก็มีทางของเขาไป จะเป็นอะไรก็ได้ขอให้มีความสุขกับสิ่งที่ทำไม่เดือดร้อนใคร ที่ห่วงก็เรื่องสุขภาพเขาทำงานเยอะ เดินทางบ่อยพักผ่อนไม่พอ”

ด้าน วรรณสิงห์ บอกว่าเด็กๆ ก็กดดันบ้างคนมักคาดหวังว่าเราจะเขียนหนังสือดีเหมือนพ่อแม่ แต่รักการอ่านมากกว่าการเขียน ชอบคิดมากกว่าชอบเขียน ทุกวันนี้ก็มีงานเขียนออกมาบ้าง แต่ไม่ได้ถี่มาก “ชอบคิดแล้วเล่าเรื่องมากกว่า พยายามคิดให้เยอะแล้วนำเสนอในกรอบความคิดที่คนจะเข้าใจได้ง่ายๆ ชอบคิด ตั้งคำถาม แล้วก็เล่าออกมา”

ครอบครัวนักร้องนักกีฬา

เจเจตริน วรรธนะสิน เป็นนักร้องที่มีภาพของความเป็นนักกีฬาเด่นชัดไม่แพ้กัน ทุกวันนี้เขายังทำทั้งสองอย่างควบคู่กันไป และเมื่อมีลูกชายถึง 3 คน(เจ้านาย เจ้าขุน เจ้าสมุทร) ก็ดูจะตามรอยคุณพ่อมาติดๆ เพราะหนุ่มน้อยทั้ง 3 ก็ดูจะชอบทั้งดนตรี กีฬา เหมือนกัน

เจ บอกว่าไม่ได้ผลักดันอะไรเป็นพิเศษ แต่เพราะลูกเห็นพ่อเล่นดนตรีและกีฬามาตลอด เวลาเล่นกีฬาลูกไปด้วยเขาก็ซึมซับแล้วเด็กผู้ชายก็ชอบอะไรลุยๆ เขาก็สนุก ก็เลือกเล่นกีฬากันเองคนโตชอบกอล์ฟกับกลอง ส่วนคนกลางชอบกีฬามากกว่าดนตรี ชอบเล่นบอลกับบาสเกตบอล ถึงขั้นเป็นนักกีฬาของโรงเรียนไปแข่งกับโรงเรียนอื่นบ่อยๆ คนเล็กชอบวิทยาศาสตร์แต่ก็ชอบเล่นกีฬา ส่วนโตขึ้นใครอยากเป็นอะไรทำอะไรพ่อไม่บังคับ แต่จะสนับสนุนให้ลูกทำสิ่งที่เลือกอย่างมีความสุข

“ผมเป็นเด็กคุณพ่อก็ไม่ได้ผลักดันเรื่องกีฬาแต่พ่อเป็นนักแบดมินตัน หลังบ้านมีคอร์ตแบด ก็เล่นกันมาเรื่อยๆ พอโตถึงเลือกเล่นที่เราชอบจริงๆ ขณะเดียวกันเราก็ชอบดนตรี มีวันนี้ได้ก็เพราะรักดนตรีและกีฬา”

ส่วนคุณแม่ปิ่น เก็จมณี ก็เป็นนักร้องมาก่อนเธอชอบกีฬาขี่ม้า แล้วก็ยิงธนู ถือว่าเป็นครอบครัวนักดนตรีและนักกีฬาอย่างแท้จริง

เครดิตภาพ

1.ครอบครัวนักปั่น วิศิษฐ์ แถมเงิน