ธุรกิจ ‘อันเดอร์แวร์’ เป็นมากกว่าแฟชั่น

โดย...วราภรณ์

จับตาธุรกิจ “ชุดชั้นใน” ให้ดี เพราะชุดชั้นในจะไม่เป็นเพียงแค่ชุดชั้นในอีกต่อไป เนื่องจากในเรื่องแฟชั่นไม่ใช่สะท้อนออกมาในรูปเสื้อผ้าที่ใส่ภายนอกเพียงอย่างเดียว ยังมีลู่ทางใหม่ๆ คือธุรกิจชุดชั้นในก็น่าลงทุนอีกตลาดหนึ่ง ดูจากเหล่าคนดังหันมาจับธุรกิจชุดชั้นใน อย่าง อมาตย์ นิมิตภาคย์ ช่างภาพมือหนึ่งของเมืองไทยหันมาทำธุรกิจ “AMAT Underware” ภายใน 3 ปีแรก ก็ติดอันดับ 1 ใน 5 ชุดชั้นในที่ขายดี

ด้านนักแสดงสาวอย่าง คริส หอวัง ยังได้รับการทาบทามให้มาออกแบบชุดชั้นใน “คริส คอลเลกชัน บาย ซาบีน่า” เป็นครั้งที่ 2 แล้ว เธอเชื่อว่าผู้หญิงเราหากได้สวมใส่ชุดชั้นในที่เรามั่นใจแล้ว ความมั่นใจจากภายในจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นมีบุคลิกที่โดดเด่นขึ้นมาได้ แม้ภายนอกจะสวมเพียงแค่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ ก็ตาม

AMAT ชุดชั้นในชายติดอันดับ 1 ใน 5

ช่างภาพมือหนึ่งของเมืองไทย อมาตย์สร้างแบรนด์ “AMAT Underware” เมื่อปี ค.ศ. 2009 ก็สามารถทำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักตั้งแต่ปีแรก เพราะค่าที่เป็นคนมีชื่อเสียง อมาตย์เล่าว่าแนวคิดการทำธุรกิจชุดชั้นในของเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ลูกเกดเมทินี กิ่งโพยม ที่เคยชิมลางทำชุดชั้นในผู้หญิงมาก่อนหน้านี้

“ผมถามลูกเกดว่าถ้าจะทำธุรกิจจะทำอะไรดี ลูกเกดแนะนำว่า ทำชุดชั้นในสิ ผมคิดว่าก็ดี เพราะชุดชั้นในทำง่ายกว่าเสื้อผ้าอย่างอื่น เพราะเราไม่ใช่ดีไซเนอร์ เราเป็นศิลปินทำงานศิลปะ แต่ส่วนตัวชอบซื้อกางเกงว่ายน้ำ เวลาไปเมืองนอกก็ขนซื้อชุดชั้นในตลอดเวลา ดังนั้นเราจึงมีประสบการณ์ในการรวบรวมสิ่งที่ชอบมาเป็นตัวตนของเราคือ อันเดอร์แวร์ ผมก็เริ่มบริษัทเล็กๆ เพราะไม่มีนายทุน เราทำเองทั้งหมด”

ทำธุรกิจได้เพียงปีเดียวก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก สิ่งที่ทำให้ชุดชั้นในแบรนด์อมาตย์ติดตลาดเร็ว อมาตย์บอกว่า เพราะเขายังอยู่ในวงการและยังมีเพาเวอร์อยู่ อีกทั้งคุณภาพถูกใจผู้บริโภค เพราะเขารวบรวมดีไซน์ในสิ่งที่ชอบมาไว้ในตัวเดียว

“เวลาที่เราซื้อชุดชั้นในแต่ละแบบเราไม่ได้ชอบทุกอย่างหมด 100% เช่น การดีไซน์ เนื้อผ้า หรือไม่ก็ไซส์ไม่พอดีกับคนไทย พอเรามาทำแบรนด์เรานำสิ่งที่เราชอบ เช่น ไซส์เอ็มของยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น ก็ไม่เท่ากัน ฉะนั้นสินค้าของผมอิงไซส์คนไทยและเอเชียเป็นหลัก” ด้วยเป็นบริษัทเล็กๆ อมาตย์ทำหน้าที่ทั้งผู้บริหาร ออกแบบ และเลือกเนื้อผ้าเองทั้งหมด ที่ฟีดแบ็กดีอาจเป็นเพราะเขาพยายามดีไซน์แบบให้วาไรตี ทั้งสไตล์และสีสัน เพื่อทดสอบว่าตลาดอันเดอร์แวร์คนชอบอะไร

“เริ่มแรกเราทำทุกสี ทุกแบบ ซีซันแรกเราทำเยอะมาก มีทั้งชุดว่ายน้ำและชุดชั้นในที่ต้องออกแบบใหม่ทุกๆ เดือน เพราะลูกค้าซื้อของใหม่ทุกเดือน ไม่เหมือนชุดว่ายน้ำ นานๆ ซื้อที คอลเลกชันเดือนหนึ่งๆ ต้องมี 4 แบบออกมาใหม่ สีใหม่ บางแบบที่เรามีตั้งแต่ต้น เราก็ยังทำซ้ำเพราะลูกค้ายังต้องการ บางแบบลูกค้าซ้ำอยู่แบบนั้น สำหรับแฟชั่นหวือหวาเราออกเดือนละ 2 แบบ พอออกสินค้ามาจนจับทางได้ว่าเนื้อผ้าหรือสีเราต้องอัพเดตในทุกๆ ซีซัน และทำออกมาป้อนตลาด ตอนนี้เราเพิ่มไลน์ชุดนอน กางเกงนอนแบบแยกชิ้นด้วย ผมคิดว่าทำธุรกิจในขณะที่เรายังมีเพาเวอร์อยู่ เป็นเรื่องง่ายที่จะสร้างแบรนด์ ง่ายต่อการโปรโมต การโชว์คอลเลกชันใหม่ๆ อีกทั้งสามารถออกคอลเลกชันได้อย่างสม่ำเสมอ มีคอนเนกชันกับแมกกาซีนต่างๆ ทั้งหมดนี้เอื้อเกื้อหนุนกันหมดๆ

จริงๆ ผมทำชุดชั้นในในแบบที่ผมชอบ โชคดีที่ผู้บริโภคชอบเหมือนเรา เรายังมีน้องๆ ดารา เซเลบริตีที่ชอบสินค้าของเรา ซื้อของเราไปใช้แล้วบอกต่อ และมาบอกเราด้วย ถือเป็นการโปรโมตไปในตัวในแง่การค้า เพราะเซเลบดาราเลือกแล้ว จึงได้ซื้อใช้ ถ้าชอบเขาก็กลับมาซื้ออีกเรื่อยๆ อีกทั้งอันเดอร์แวร์ไทยราคาถูกกว่าอินเตอร์แบรนด์ของเมืองนอก แต่ผลิตจากเนื้อผ้าและโรงงานเดียวกัน แต่แบรนด์ไทยขายได้ถูกกว่า

ผมคิดว่าแบรนด์โตและรู้จักเร็ว เมื่อเทียบสัดส่วนกับแบรนด์อื่นๆ ในท้องตลาด ซึ่งแบรนด์ชุดชั้นในมีแล้วประมาณ 10 แบรนด์ในห้างสรรพสินค้า แต่ของเราขายดีเป็นอันดับที่ 5 ซึ่งแบรนด์อื่น กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ต้องใช้เวลาสร้างมากกว่า 3 ปี เรามาปีแรกก็อยู่อันดับ 5 เลย นอกเหนือกว่านั้นคือคุณภาพสินค้าต้องได้ พิถีพิถัน เน้นดีไซน์ให้เหมาะกับอากาศเมืองไทย ใส่แล้วไม่ควรอึดอัด ถ่ายเทอากาศได้ดี เพราะผลิตจากผ้าฝ้ายและฝ้าไลคราที่ยืดหยุ่น”

‘ชุดชั้นในเป็นมากกว่าแฟชั่น’ คริส หอวัง

ด้วยบุคลิกการแต่งกายที่เก๋ ดูโดดเด่น คริสจึงได้รับการทาบทามจากซาบีน่า แบรนด์ชุดชั้นในไทยแท้อายุกว่า 40 ปี ให้มาโชว์ฝีมือออกแบบในคอลเลกชันที่ 2 “คริส คอลเลกชัน บาย ซาบีน่า” ภายใต้แนวคิด “Guilty” ที่ถ่ายทอดแรงบันดาลใจของคริสได้มากที่สุด ด้วยความหลงใหลในความแวววาวของอัญมณี จนทำให้คริสยอมทำความผิดชิงเพชรเม็ดงามมาประดับบนเรือนร่างของตนเอง จนเกิดเป็นชุดชั้นในโทนสีดำสุดคลาสสิกที่หรูหรา ประดับด้วยคริสตัลแวววาว ที่ยังคงแฝงไว้ด้วยความเท่จากเส้นสาย การตัดต่อที่เป็นลวดลายกราฟฟิก คัตติงที่เน้นทรวดทรง รวมถึงการผสมผสานสีสันต่างๆ ทั้งสีนู้ด สีชมพู สีน้ำเงิน และสีส้ม กับสีดำสุดคลาสสิก เพื่อสร้างลุคที่แตกต่าง สะท้อนตัวตนความมั่นใจของผู้หญิงยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

คริส บอกว่า ชุดชั้นในก็คือแฟชั่น ผลงานการออกแบบชุดชั้นในคอลเลกชันที่ 2 ของคริส โดยเป็นคอลเลกชันที่สะท้อนคาแรกเตอร์ของคริสได้มากที่สุด เป็นการผสมผสานระหว่างการดีไซน์ที่แปลกใหม่ เทคนิคการตัดเย็บที่ประณีตบรรจง รวมถึงการคัดสรรวัสดุระดับพรีเมียม รวมถึงการเพิ่มไอเท็มพิเศษอย่าง บอดี้สูท คอร์เซ็ต และตัวเสื้อที่สามารถสวมใส่เป็นทั้งชุดชั้นในและชุดชั้นนอกได้ ซึ่งจะช่วยให้สาวๆ สนุกกับการมิกซ์แอนด์แมตช์เสื้อผ้าในชีวิตประจำวันได้หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถตอบโจทย์ทั้งด้านฟังก์ชันและแฟชั่นได้อย่างลงตัว

“การออกแบบชุดชั้นใน แม้คริสจะวาดรูปไม่ได้ แต่คริสสามารถหาแหล่งอ้างอิงในสิ่งที่คริสอยากออกแบบ แล้วถ่ายทอดให้ทีมดีไซเนอร์ฟังได้ ซึ่งทีมงานให้คริสเลือกเองทุกอย่าง เช่น เพชรที่ประดับบนบรา แม้กระทั่งตาขอ ทำให้คริสได้เรียนรู้ถึงเทคนิคกว่าจะเป็นชุดชั้นในทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายและทำให้คริสรู้สึกสนุกมากกว่า สิ่งที่เราคิดเราออกแบบต้องขายได้และสวมใส่สบาย

ชุดชั้นในที่คริสออกแบบจะเป็นแฟชั่นหน่อย แต่ต้องสวมใส่ได้จริง เช่น คริสอยากได้ชุดชั้นในที่ซีทรูทั้งตัว แต่ในความเป็นจริงมันโป๊ ไม่มีใครใส่หรอก คนก็ไม่ซื้อ ชุดชั้นในจึงต้องใส่ได้จริง ซึ่งหลักแบบนี้ใช้ได้กับการออกแบบทุกอย่าง คือต้องใช้ได้จริงๆ อย่างกระเป๋าต่อให้สวยแค่ไหนก็ต้องใช้ได้จริง ไม่ใช่ถือเป็นพร็อพได้อย่างเดียว”

เริ่มแรกที่มาทำงานดีไซน์ คริสยอมรับว่ารู้สึกตื่นเต้นมาก หากออกแบบแล้วขายไม่ได้จะทำอย่างไร แต่ก็ได้ทีมงานแนะนำ และให้สิทธิในการตัดสินใจกับคริสทั้งหมด โดยใช้เวลาเตรียมงานนานถึง 6 เดือน กว่าคอลเลกชันจะแล้วเสร็จ

“ชุดชั้นในที่คริสออกแบบไม่มีวางในท้องตลาด มันเป็นแฟชั่นมากขึ้น ผู้หญิงซื้อชุดชั้นในก็เหมือนซื้อเสื้อผ้า เราก็อยากใส่อะไรที่สวยๆ เราก็จะรู้สึกดีตั้งแต่ข้างใน เราจะรู้สึกว่าเราแตกต่างจากคนอื่น หากซาบีน่าชวนทำคอลเลกชันที่ 3 ก็คงไม่รู้สึกกดดัน เพราะเราพยายามเปลี่ยนแนวไปเรื่อยๆ แฟนๆ แบรนด์ก็จะได้สนุกและตื่นเต้นไปด้วย จริงๆ ผู้หญิงไม่ได้ซื้อชุดชั้นในบ่อย จะซื้อต่อเมื่อแบบน่ารักและอยากได้”

เมื่อคนดังมาออกแบบชุดชั้นในช่วยเพิ่มยอดขายได้หรือไม่ คริสตอบ อาจระดับหนึ่ง แต่ยอดขายย่อมมาจากสองส่วน คือดีไซน์ที่สวยและหน้าตาของแบรนด์ คริสอาจช่วยในแง่ให้คนสนใจเพิ่มเร็วมากขึ้น