posttoday

เดอะสตาร์ 9 เส้นทางสู่วงการมายา

04 มีนาคม 2556

“เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว” เป็นอีกหนึ่งรายการประกวดร้องเพลงที่จัดต่อเนื่องมานานถึงปีที่ 9

โดย...นกขุนทอง ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

“เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว” เป็นอีกหนึ่งรายการประกวดร้องเพลงที่จัดต่อเนื่องมานานถึงปีที่ 9 และยังได้กระแสตอบรับจากผู้ชม ผู้เข้าแข่งขัน และเอเยนซีโฆษณา ซึ่งนับปีจำนวนผู้เข้าแข่งขันยิ่งมีมากขึ้น เช่นเดียวกับผู้สนับสนุนรายการที่มีมากขึ้นด้วย

ถึงแม้จะรู้สึกว่ารายการเดอะสตาร์พักหลังๆ ดูแผ่วๆ ลงไป แชมป์เดอะสตาร์ไม่ค่อยดังเปรี้ยงปร้าง ทว่ามองย้อนไปตั้งแต่ปีที่ 1 จนถึงปีที่ 9 เดอะสตาร์มีกระแสตอบรับที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากยอดการโหวตเอสเอ็มเอสและการต่อยอดของผลงาน แต่ที่ทำให้รู้สึกเช่นนั้น เพราะว่า “เดอะสตาร์ ปี 6” ได้สร้าง “จุดพีก” ที่ทำให้ปีถัดมาต้องเหนื่อยและยังไม่มีปีไหนทำได้ถึง

หากเทียบจากสถิติการโหวตเอสเอ็มเอสของปี 6 ที่มีมากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการโหวตเพิ่มมากขึ้นถึง 52% ส่วนปี 7 ปี 8 ก็ไม่ได้น้อยหน้า แถมยังมากกว่าทุกๆ ปีด้วยซ้ำ แต่อย่าเอามาเทียบกับปี 6 เพราะยังขาดลอยกันอยู่ เช่นกันกับปี 9 ซึ่งมีกระแสที่ดีช่วยส่งให้เดอะสตาร์ ปี 10 ยังสามารถเกิดขึ้นได้

หากยังพอจำกันได้มีหลายรายการประกวด ไม่ว่าจะร้องเพลง การแสดง เดินแบบ ฯลฯ ต้องจบตั้งแต่ครั้งที่ 1 2 ไม่ใช่เพราะเวทีไม่ได้มาตรฐาน ทว่าการต่อยอดของแชมป์ของผู้เข้าแข่งขันนั้น มีอัตราแทบจะเป็นศูนย์ นอกจากหอบเงินรางวัลที่ได้รับแล้วจบๆ กันไป

แต่สำหรับเวทีเดอะสตาร์ ทำไมถึงมีเด็กวัยรุ่นนับหมื่นคนยอมตื่นตี 3 ตี 4 มาเข้าแถวเพื่อสมัครเข้าประกวด เรื่องของการเดินตามความฝัน ทำความฝันให้เป็นจริงนั้นยกไว้อีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่เห็นแน่ๆ ผ่านสายตาคนไทยทั้งประเทศก็คือ โอกาสที่พวกเขาและเธอจะได้รับในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นนักร้อง นักแสดง พิธีกร

ต้องยอมรับว่า “บริษัท เอ็กแซ็กท์” ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มีช่องทางในการพัฒนาเด็กในสังกัด จะว่าไปแล้ว ชัยชนะของเดอะสตาร์ไม่ได้เป็นของแชมป์เพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะเพื่อนๆ อีก 7 คน ก็ได้แจ้งเกิดด้วย จะดีจะร้ายยังไงทั้งรุ่นต้องมีหนึ่งคนที่ถูกปลุกปั้นอย่างหนัก ซึ่งอาจไม่ใช่แชมป์ก็ได้ เพราะยังมีตำนานที่ว่า ที่ 1 ไม่ดัง ที่ 2 ที่ 3 หรือคนหน้าตาดีดังแรงกว่า เพราะมีตัวอย่างให้เห็นกันอยู่แทบทุกปีบนเวทีเดอะสตาร์

ปีนี้เดอะสตาร์เดินทางมาถึงปี 9 และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 8 คน ได้ร้องเพลงเปิดตัวกันไปแล้ว ใครร้องดีร้องแย่ เพอร์ฟอร์แมนซ์ออกมาโดนใจหรือไม่อย่างไร คุณสามารถเป็นผู้เลือกได้ และในวันเสาร์ที่ 9 มี.ค.ที่จะถึงนี้ ผู้เข้าแข่งขันจะมาร้องเพลงให้ได้เลือกกันอีกรอบ และในวันอาทิตย์ที่ 10 มี.ค.นี้แล้วสินะ ที่จะมีหนึ่งคนต้องเดินออกจากเวทีไป และวันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย. จะรู้ว่าใครได้เป็นเดอะสตาร์ 9

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 8 คน ก็ได้นามสกุลใหม่ต่อท้ายชื่อแล้วว่า “เดอะสตาร์ 9”

ว่าที่เดอะสตาร์ 9

1 ดี-ดีลิเลียน อัลฟอร์ด

สาวน้อยเสียงทรงพลังลูกครึ่งไทยจีนอเมริกัน อายุ 15 ปี

เรียนอยู่ชั้น ม.3 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสุวรรณภูมิ

ทำงานกับวงดนตรีของครอบครัวตั้งแต่ 3 ขวบ ร้องได้ทั้งเพลง ไทย จีน สากล

“ดูรายการตั้งแต่เด็ก พออายุถึงจะมาเลย (หัวเราะ) ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้เป็น 1 ใน 8 หนูแค่ขอให้หนูได้สมัครเพราะคนเยอะมาก เรามาที่นี่มาทำในสิ่งที่เราชอบไม่ได้คาดหวังว่าจะเข้ารอบลึกๆ หนูคิดอย่างเดียวว่าทำเต็มสุดความสามารถของหนู ทุกคนมีโอกาสเท่ากัน เอกลักษณ์ของแต่ละคนก็แตกต่างกัน เราก็เป็นตัวของเรา ทำในสิ่งที่เรารักทำออกมาจากใจหนูเชื่อว่าคนดูจะรับรู้ได้ว่าเราทำมาจากใจและเขาจะรักจะชอบสิ่งที่เราร้องออกไป”

จุดเด่น แม้อายุน้อยที่สุด แต่เรื่องการแข่งขันเธอมีชั่วโมงบินเยอะและกวาดรางวัลมาหลายเวที อย่างเมื่อ 4 ปีที่แล้วก็ได้รับรางวัล “สุดยอดพลังเสียง” จากการรายเดอะ เทรนเนอร์ ปั้นฝันสนั่นเวที ตอนนี้คะแนนความนิยมอาจจะรั้งท้าย แต่รอให้เธอได้โชว์บนเวทีคะแนนโหวตน่าจะพลิกกลับมาเป็นของเธอได้ไม่ยาก

2 อ้น-กรกฎ ตุ่นแก้ว

อายุ 21 ปี ศึกษาอยู่ปี 2 คณะบริหารธุรกิจ สาขาสาระสนเทศ มหาวิทยาลัยพายัพ จ.เชียงใหม่

ชื่นชอบและถนัดร้องเพลงแนวป๊อปร็อก ร็อก

เคยประกวดเดอะสตาร์มาแล้ว 3 ครั้ง ในปีที่ 5 7 และ 8 แต่ไม่เคยเข้ารอบลึกได้เจอกรรมการทั้ง 3 เลย

“ทุกครั้งที่ตกรอบไปผมก็มีเสียใจ ถามตัวเองว่าทำไมเราถึงตกรอบ ก็พยายามพัฒนาตัวเอง ถึงจะมีท้อแต่ก็ต้องมาต่อเพราะเราชอบทางนี้ มาเมื่อก่อนผมไม่พร้อมหลายเรื่อง ร้องเพลงแบบตะโกนใช้คอ หาสไตล์ตัวเองยังไม่เจอ ตกรอบห้องแรกตลอด ผมก็เลยมาแบบเตรียมตัวดีกว่า มีปรับปรุงทุกๆ ปี ถ้าเราเตรียมตัวจะโอเคกว่า มั่นใจกว่า อย่างปีนี้เขาให้เวลา 30 วินาที ผมก็คิดโชว์ ก็เล่นกีตาร์ พี่เขาก็ให้เลานจ์ด้วย ร้องด้วย เต้นด้วย ซึ่งผมเต้นไม่เป็นเลย ก็เต้นไปตามฟิลลิง ซึ่งผมว่าความเป็นตัวเองของผมนี่แหละที่ทำให้เข้ารอบมาได้”

จุดเด่น เป็นตัวเก็งที่ชาวเดอะสตาร์เล็งเป้าถูกว่า ติด 1 ใน 8 แถมเจ๊ม้ายังให้อีก แต่ถ้าเสียงร้องไม่ดีจริงคงมาไม่ถึงรอบนี้

3 บูรณ์-ธันยบูรณ์ วงศ์วาสิน

ลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น อายุ 20 ปี กำลังศึกษาอยู่ปี 3 มหิดลอินเตอร์ คณะทัวริซึม แอนด์ ฮอสปิทอลิตี้ แมนเนจเมนต์

“ผมต้องดร็อปเรียนเพื่อมาทำตามความฝัน ผมคุยกับคุณแม่แล้ว ซึ่งหลายคนที่เรียนจบมาก็ไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าอยากเป็นอะไร แต่ผมรู้ว่าตอนนี้ผมต้องการอะไร ไม่ใช่ผมไม่ห่วงเรื่องเรียน แต่ได้โอกาสแล้วผมขอทำมันก่อน ยังไงก็ต้องกลับไปเรียนให้จบแน่นอน ที่ผ่านมาผมเสียใจที่ตกรอบ มาถึงตอนนี้แค่รู้สึกเสียดาย เพราะปีก่อนๆ เรามาแบบไม่พร้อมจริงๆ ปีนี้ผมก็ไปเรียนร้อง เรียนเต้น แอ็กติง คุณแม่ก็ช่วยหาคลิปพี่ๆ เดอะสตาร์มาให้ดูแทบจะทุกคนว่าเขาร้องยังไง เอนเตอร์เทนคนยังไง จนวันนี้เมื่อผมได้มีโอกาสเข้ามาแล้ว ผมขอทำมันให้เต็มที่ที่สุดก่อนครับ”

จุดเด่น มาประกวดตั้งแต่ปี 7 และปี 8 ในที่สุดปีนี้ก็สมหวัง แฟนพันธุ์แท้เดอะสตาร์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นของเขาอย่างเด่นชัด แต่จะเพียงพอสำหรับเข้าถึงรอบลึกๆ ได้หรือไม่นั้น แฟนคลับของหนุ่มบูรณ์อาจต้องลุ้นกันเหนื่อย

4 คริส คริสโตเฟอร์

ฝรั่งหัวใจไทยอีสาน อายุ 18 ปี ลูกครึ่งนิวซีแลนด์อังกฤษ

จบการศึกษาจาก Robina State High School ประเทศออสเตรเลีย

คริสอ่านไทยเขียนไทยได้ ร้องเพลงและพูดไทยได้ชัดกว่าคนไทยบางคนเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะภาษาอีสานเรียกว่า เว้าได้คล่องปร๋อเชียวล่ะ

“ผมชอบร้องเพลงตั้งแต่ 9 ขวบ เพลงลูกทุ่งก็ร้องได้ ผมอยากเข้าวงการบันเทิงมานานแล้ว พอกลับมาจากออสเตรเลียก็มาสมัครเลย ผมไปอยู่ที่นั่น 2 ปี ดีใจมากที่ได้เพราะผมไม่มีสัญชาติไทยไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะเลือกให้มาถึงตรงนี้ จะได้เป็นแชมป์ไหมผมไม่คิดตรงนั้นแล้ว ผมทำเต็มที่ไปได้ไกลแค่ไหนก็อยู่ที่คนโหวต”

จุดเด่น กระแสจากโลกออนไลน์โดยเว็บจีเมมเบอร์ (ซึ่งรวบรวมติดตามความเคลื่อนไหวของแฟนคลับเดอะสตาร์) ตอนนี้นำโด่งมาเป็นที่ 1 (โดยมีเชอรีน เป็นอันดับ 2) ทว่านาทีนี้เวทีเดอะสตาร์คงยังไม่กล้าพอให้คนต่างชาติเป็นเดอะสตาร์ (คนแรก) ของเมืองไทย

5 แบมบี้-สิรินโสพิศ ปัจฉิมสวัสดิ์

อายุ 20 ปี กำลังศึกษาอยู่ปี 1 คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

“หนูมีพี่บี้เป็นไอดอล เห็นพัฒนาการของพี่เขาอยากพัฒนาให้ได้อย่างพี่เขา ซึ่งอยู่ในบ้าน (เดอะสตาร์) มา 1 เดือนแล้ว ก็ได้ฝึกเรื่องการร้อง รู้วิธีการร้องที่ถูกต้อง ไม่ตะเบ็งเสียง มีซ้อมร้องเต้น เรียนแอ็กติง ออกกำลังกายทุกวัน รู้สึกเราพร้อมมากขึ้น แต่ตอนนี้ก็หนักใจเรื่องร้องเพลง น่าจะต้องฝึกหนักกว่าเพื่อนๆ เป็นเรื่องที่กังวลกลัวทำออกมาได้ดีไม่ได้เท่าที่ควร ก็เลยต้องซ้อมเยอะๆ พยายามให้กำลังใจตัวเอง กว่าเราจะถึงจุดนี้เราต้องสู้แค่ไหน ความกังวลจะหายไปเอง เพราะถ้ากังวลจะลนๆ ทำอะไรออกมาได้ไม่ดี”

จุดเด่น ลูกสาวอดีตนางสาวไทยปี 2527 “สาวิณี ปะการะนัง” โปรไฟล์ดี ร้องได้ เต้นได้ หน้าตาทรวดทรงสะสวย เรียกว่ามีองค์ครบสำหรับการเข้าสู่วงการบันเทิง แต่ถ้าเสียงร้องไม่เจ๋งจริง ยากที่จะเป็นเดอะสตาร์หญิง เพราะเดอะสตาร์หญิงคนแรก (แก้มวิชญาณี เปียกลิ่น) ทำมาตรฐานไว้สูงเหลือเกิ๊น

6 เชอรีน-ณัฐจารี หรเวชกุล

อายุ 18 ปี กำลังศึกษาอยู่ ม.6 โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล

“หนูเล่นละครเวทีมาแล้วก็จริง (ปริศนาเดอะมิสิคัล) แต่หนูรู้ตัวว่าไม่ได้เล่นดีจนเป็นท็อปๆ ได้แน่ หนูก็เลยมารายการนี้คิดว่าเขาน่าจะเทรนด์หนูให้หนูพัฒนาการได้แน่ๆ แล้วหนูมีไอดอลเป็นพี่กัน พี่บี้ ซึ่งพี่ๆ เขาได้เล่นละครเวทีหนูอยากทำได้อย่างพี่เขา และเวทีนี้ก็น่าจะพลิกชีวิตจากน้องสาวนิชคุณ มาเป็นเชอรีน เดอะสตาร์ 9 อยากให้คนมองดูตัวหนู ถ้าเป็นน้องนิชคุณแล้วไม่มีความสามารถอะไรเลยก็เข้ามาไม่ได้ หู้ว่าหนูทำโชว์ได้ไหม ถ้าหนูทำได้ก็ช่วยเชียร์หนูด้วยค่ะ”

จุดเด่น น้องสาวนิชคุณ ซุป’ตาร์จากวง 2 พีเอ็ม แห่งเกาหลี เชอรีนเป็นหญิงสาวที่สดใสร่าเริง คิดบวก ดูมีออราโดดเด้งกว่าใคร แต่การเป็นน้องสาวนิชคุณก็เป็นดาบสองคม ทั้งได้รับความเอ็นดูจากแฟนคลับพี่ชายและกลุ่มคนที่ต่อต้าน แต่อย่างไรสาวน้อยก็พร้อมพิสูจน์ฝีมือ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นแชมป์เดอะสตาร์ แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่า เส้นทางในวงการบันเทิงของเธอโรยด้วยกลีบกุหลาบ มีอนาคตไกลแน่นอน และวันนั้นเธอคงจะสามารถลบคำสบประมาทของหลายคนได้

7  ดิว-นัทธพงศ์ พรมสิงห์

อายุ 20 ปี นักศึกษาปี 2 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

“รูปถอดเสื้อที่อยู่ในอินเทอร์เน็ตเป็นรูปที่ผมโพสต์ลงอินสตาแกรมกับเฟซบุ๊ก (ก่อนเข้าบ้าน) ผมก็ได้แจ้งทางผู้ใหญ่แล้วว่าเคยโพสต์อะไรไปบ้าง รูปเป็นแบบไหน ที่แรงกว่าถอดเสื้อไม่มีแล้วครับ ถอดข้างล่างไม่มีครับ เพราะส่วนใหญ่เป็นรูปที่ผมถ่ายในห้องนอนผมชอบนอนถอดเสื้อ ผู้ใหญ่ก็เตือนทำอะไรให้ระวังต่อไปนี้ผมต้องใส่เสื้อนอนแล้วครับ (หัวเราะ) หรือถ้าไม่มีงานก็ไม่ถอด ที่ชอบถ่ายรูปหุ่นตัวเองเพราะผมชอบบอดี้ของผมครับ ผมมีไอดอลของผมคือ เจคอบ (เทย์เลอร์ แดเนียล เลาต์เนอร์) เขาหุ่นดีมาก อยากมีหุ่นแบบเขาบ้าง ก็เลยออกกำลังกาย ดูแลตัวเองนิดหนึ่ง”

จุดเด่น ถ้าปีก่อนมีฮั่นปีนี้ก็มีดิวที่มาเรียกคะแนนจากสาวน้อยสาวใหญ่เก้งกวางด้วยกล้ามอกเป็นมัดๆ หุ่นล่ำ ที่ฟิตกล้ามมาแบบเป๊ะเว่อร์ เสียงร้องก็ดีเข้าตากรรมการ รอบลึกๆ ไม่น่าห่วง แฟนคลับอย่าแรงตกเงินหมดเลิกโหวตเสียก่อนล่ะ

8 ตั้ม-วราวุธ โพธิ์ยิ้ม

หนุ่มจาก จ.ราชบุรี อายุ 19 ปี ศึกษาอยู่ปี 1 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ชอบร้องเพลงเล่นกีตาร์ ชอบหาประสบการณ์ด้วยการแข่งขัน แถมยังหาเงินได้ด้วยจากการร้องเพลง

“ตอนพูดผมจะสำเนียงเหน่อๆ ครับ (หัวเราะ) แต่ตอนร้องไม่มีเหน่อไม่มีเพี้ยนครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ผมไม่เคยเรียนร้องเพลง แต่ฝึกด้วยตัวเอง เพราะชอบร้องเพลง มีความฝันอยากเป็นนักร้อง มีการแข่งขันที่ไหนถ้ามีโอกาสผมก็ไปหมด แต่จบจากเวทีนี้คงไม่ไปไหนแล้วครับ ที่สุดของการแข่งขันแล้วครับ เวทีนี้ไม่กดดันครับ ทำเต็มที่ของเรา เพราะคนดูน่าจะมองที่ความสามารถ เดอะสตาร์ที่ได้มาทุกๆ ปีเขาเจ๋งจริงๆ ผมอาจจะดูโปรไฟล์ไม่เด่น แต่ผมเอาความตั้งใจผมสู้”

จุดเด่น เห็นรูปร่างหน้าตาอาจจะดูเป็นผู้ชายธรรมดาๆ แต่พอหนุ่มตั้มได้ร้องเพลง ต้องขอบอกว่ามันเป็นฟิลลิงที่สะกดคนฟังให้คล้อยไปตามอารมณ์เพลง และหันมาอยากโหวตตัดสินกันที่เสียงจริงๆ