posttoday

“ดีเจที่ไม่ใช่แค่...ดีเจ” พวกเขาคือ “ดีเจซุปตาร์”

29 มกราคม 2556

“ดีเจเสียงใสๆ คุณนั้นเป็นใคร ดวงใจฉันถามหา” ณ ยุคสมัยที่วงการวิทยุกำลังเบ่งบาน (ราวๆ ปี 2527 ในยุคที่อัลบั้ม นันทิดา 27 กำลังดังสุดขีด)

โดย...จตุรภัทร หาญจริง ภาพ (cover, 1) ทวีชัย ธวัชปกรณ์

“ดีเจเสียงใสๆ คุณนั้นเป็นใคร ดวงใจฉันถามหา” ณ ยุคสมัยที่วงการวิทยุกำลังเบ่งบาน (ราวๆ ปี 2527 ในยุคที่อัลบั้ม นันทิดา 27 กำลังดังสุดขีด) เป็นยุคที่นักเรียน นักศึกษา ต้องฟังไนท์สปอร์ต เรดิโอ โดยมีดีเจเสียงใสๆ ต่างครองใจคนฟังตั้งแต่เช้ายันค่ำ ไม่ว่าจะเป็น วาสนา วีระชาติพลี, วิโรจน์ ควันธรรม, นฤชา เพ่งผล พอมายุคสมัยของสไมล์ เรดิโอ ดีเจยุคนี้เริ่มมีออร่าของความเป็นซุป’ตาร์ออกมาให้เห็น ไม่ว่าจะเป็น วินิจ เลิศรัตนชัย, หัทยา เกษสังข์, ธเนศ แสงโชติกุล, สาลินี ปันยารชุน, นิมิตร ลักษมีพงศ์, อรรณพ กิตติคุณ จนมาถึงยุค เอไทม์ ที่นำทัพโดย สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา, ยุทธนา บุญอ้อม, วินัย สุขแสวง (หรือดีเจเจ๊แหม่ม ณ บัดนาว), นพพร อุดมศักดิ์ และนภาพร ไตรวิทย์วารีกุล

“ยิ่งดีเจขายเสียงมากเท่าไร คนฟังยิ่งอยากเห็นตัวจริงของดีเจมากเท่านั้น”

นี่คงเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ทำให้เหล่าบรรดาดีเจจำเป็นต้องออกสื่อเพื่อให้คนฟังได้เห็นหน้าค่าตา พอออกสื่อเยอะขึ้น ก็มีงานในวงการบันเทิงมากขึ้น หลากหลายขึ้น จนมาถึงดีเจยุค 2013 ที่ภาพของความเป็น “ดีเจซุป’ตาร์” ฉายชัดเด่นสง่าอยู่บนท้องฟ้าแห่งวงการบันเทิง

และนี่คือการเปิดหน้าบันทึกของ “ดีเจซุป’ตาร์ 2013” ที่ดังสุดขีดในกรุงเทพมหานคร และดังสุดขีดใน จ.เชียงใหม่ จังหวัดที่ใครก็อยากไปชิล ช็อป ชิม ขอบอกว่าความดังอาจเทียบกันไม่ได้ แต่รับประกันว่า “ดังใครดังมัน” ในรูปแบบเฉพาะตัวอย่างแน่นอน

เริ่มต้นที่ ดีเจต้นหอม-ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ ดีเจสาวสุดฮา อารมณ์ดี มีความเป็นตัวของตัวเองสูง (บางคนบอกว่าเธอบ้า) จาก 94 EFM ที่เธอก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นดีเจระดับท็อปอยู่ ณ ขณะนี้ ด้วยความจริงใจ ไม่หมกเม็ด เธอยอมรับกับเราตามตรงว่า การผลักดันให้ดีเจเป็นดีเจซุป’ตาร์นั้น คือเป้าหมายที่ผู้ใหญ่ได้วางแผนเอาไว้แล้ว

“มันเป็นเป้าหมายที่ผู้ใหญ่วางแผนไว้อยู่แล้วค่ะ ด้วยความที่ว่าเขาไม่ได้ต้องการให้ดีเจเป็นแค่ดีเจที่ได้แต่พูดใส่ไมค์ เพราะเดี๋ยวนี้มีเว็บแคมแล้ว ทำให้คนฟังได้เห็นหน้าค่าตา เห็นว่าใครบ้า ใครหลุดโลก ใครหน้าซีดหน้าเซียวมาจัดรายการ (หัวเราะ) แต่ด้วยความที่เราต้องจัดรายการแบบเห็นหน้าและท่าทางไปด้วย เราเลยต้องเป๊ะอยู่ตลอดเวลา”

เราถามดีเจต้นหอมว่า คิดยังไงที่ทุกวันนี้ดีเจกลายเป็นดารา เป็นซุป’ตาร์ไปแล้ว เธอตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ใช่” อย่างไม่มีอ้อมค้อม

“ใช่ค่ะ ดีเจก็คือดารา ผู้ใหญ่ต้องการให้ภาพของดีเจมันชัดเจนไปในแนวทางนี้ เพื่อที่จะทำให้ประชาชนเข้าถึงดีเจได้มากขึ้นด้วย นี่คือข้อดีนะคะ ไม่ใช่ความทะเยอทะยานของคนเป็นดีเจแต่อย่างใด”

ดีเจต้นหอมชี้แจงว่า หากดีเจคนหนึ่งสามารถทำให้ตัวเองมีมูลค่าเพิ่ม ด้วยการทำอะไรได้หลากหลาย บริษัทก็จะมีมูลค่าเพิ่มไปพร้อมๆ กับตัวดีเจด้วย

สำหรับดีเจต้นหอม เธอทำมาแล้วมากมายหลายสิ่ง ทั้งเล่นหนัง เล่นละคร เป็นพิธีกร เป็นพรีเซนเตอร์โฆษณา แต่สิ่งที่เธอยังไม่ได้ทำ และอยากทำ เธอบอกว่า เธออยากประกวดนางงาม

“(หัวเราะ) จริงๆ นะ ต้นหอมอยากประกวดนางงาม อยากทำอะไรที่คุณสมบัติเราไม่เอื้ออำนวยให้ทำได้”

ด้วยความเป็นคนชอบทำอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ บวกกับความเป็นตัวของตัวเองสูง จึงทำให้ดีเจต้นหอมก้าวขึ้นมาเป็นดีเจซุป’ตาร์ในเวลาอันรวดเร็ว ยิ่งมาป๊ะกับดีเจร่างจ้ำม่ำอย่าง ดีเจบุ๊คโกะ-ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล ยิ่งทำให้ความเป็นดีเจซุป’ตาร์ของทั้งสองคนเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยดีเจบุ๊คโกะบอกกับเราว่า ไม่ว่าดีเจจะมีคำต่อท้ายว่าซุป’ตาร์ หรือเซเลบ หรืออะไรก็แล้วแต่ ดีเจต้องไม่ลืมตัว และต้องระลึกอยู่เสมอว่าตัวเองมาจากไหน

“เวลาที่มีคนมาเรียกเราแล้วมีคำต่อท้ายว่าซุป’ตาร์ บุ๊คโกะคิดว่าถ้าเราปล่อยใจให้ไหลไปกับคำคำนี้ อาจทำให้เราลืมตัว และหลงไปในชั่วขณะหนึ่ง เราต้องสำนึกว่า การที่เราเป็นดีเจได้ มาจากการสนับสนุนของคนฟัง มาจากการให้โอกาสจากคนที่จ้างงานเรา เราต้องไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เราต้องพยายามต่อยอดจากจุดที่เรายืนอยู่ และก็ระลึกอยู่เสมอว่าเรามาจากตรงไหน นี่คือสิ่งสำคัญ”

สำหรับผลงานของดีเจบุ๊คโกะ มีมากมายไม่แพ้ดีเจต้นหอมเลย ทั้งสองมาพร้อมกัน ไต่ระดับไปด้วยกัน และก็กำลังจะมีผลงานซิตคอมเรื่อง เลิฟ ออน แอร์ ร่วมกัน ที่ทางต้นสังกัดของทั้งสอง (เอไทม์) เป็นผู้จัดละครเรื่องนี้เอง

“ในส่วนของการแสดง ก็เป็นโอกาสดีๆ ที่ผู้ใหญ่ในวงการมอบให้บุ๊คโกะ เราโชคดีที่ได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ ทั้งในคลื่นและนอกคลื่น คนที่เป็นแบบเรา มีหุ่นที่จ้ำม่ำ เป็นผู้ชายหวานๆ คนอาจจะมองว่าเราทำอะไรได้ไม่เต็มที่ แต่เราก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเราทำได้ และคนอื่นก็คาดไม่ถึงว่าเราทำได้ และงานก็ออกมาดี ซึ่งเป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจ”

“ถึงจะเป็นดีเจซุป’ตาร์อย่างที่ใครยกย่อง เราก็ยังเป็นเรา เป็นดีเจบุ๊คโกะคนเดิมที่พร้อมจะมอบความสุขให้กับทุกๆ คน” ดีเจบุ๊คโกะ กล่าวสรุป

ถ้าพูดถึงดีเจที่ฮอตที่สุด อยู่ยงคงกระพันมากที่สุด เก่ง ฉลาด มีความสามารถ จนเป็นซุป’ตาร์ค้างฟ้าได้มาจนทุกวันนี้ ต้องยกให้ผู้หญิงคนนี้เลย ดีเจพี่ฉอดสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ซึ่งนอกจากจะจัดรายการคลับฟรายเดย์ทุกคืนวันศุกร์ทางกรีนเวฟ 106.5 เอฟเอ็ม เธอยังเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (สายธุรกิจสื่อ) บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ อีกด้วย

“ต้องบอกก่อนว่าสมัยที่พี่เป็นดีเจ ซึ่งก็นานมาแล้วนะ (หัวเราะ) พี่ก็เป็นดีเจเพียงอย่างเดียว แต่ตอนนี้ไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว ดีเจสมัยนี้มีความสามารถพิเศษหลากหลาย โดยเฉพาะดีเจของพี่ ตอนนี้ทุกคนมาไกลมากแล้วนะ มาไกลเกินพี่แล้วล่ะ (หัวเราะ)”

ดีเจพี่ฉอดยอมรับว่า ดีเจที่สามารถก้าวไปสู่การเป็นดีเจซุป’ตาร์ได้นั้น ต้องมีเสน่ห์เฉพาะตัว นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด

“อย่าลืมว่าดีเจไม่เหมือนคนทำงานออฟฟิศทั่วไป ที่ไม่ต้องใช้เสน่ห์เฉพาะตัวก็ทำงานได้ แต่ดีเจต้องมีเสน่ห์เฉพาะตัว แม้ไม่มีพื้นฐานด้านดีเจมาก่อนก็ตาม แต่หากเรารู้ว่าเขามีอะไร ก็เอามาฝึกได้ แต่เสน่ห์มันฝึกไม่ได้ บางคนแหกคุณสมบัติขั้นพื้นฐานของการเป็นดีเจ แต่เขาสามารถประสบความสำเร็จได้ เราก็ยอมรับในการแหกของดีเจคนนั้น ซึ่งนั่นก็เป็นหนทางสู่การเป็นดีเจซุป’ตาร์ที่เราและคนฟังยอมรับได้ ออกจะชื่นชอบเสียด้วยซ้ำไป นี่ไงคือสิ่งที่ไม่ใช่ใครก็ทำได้ง่ายๆ”

หากใครมีโอกาสได้เดินทางไป จ.เชียงใหม่ (โดยเฉพาะฤดูหนาว) นอกจากจะไปชิล ช็อป ชิม ให้เพลินใจแล้ว หากหมุนคลื่นไปฟัง คลิก เรดิโอ เอฟเอ็ม 102.5 ณ เชียงใหม่ เจ้า จะค้นพบว่า นี่คือคลื่นวิทยุที่โดดเด้งที่สุด เพราะนอกจากจะเป็น คลื่นเพลงสุดคลิก ฮิตสุดที่เชียงใหม่ ที่บริหารงานโดยบริษัท เฮโล โปรดักส์ชั่น (ที่หนึ่งในผู้บริหารคือซุป’ตาร์สุดหล่อ อนันดา แมทธิว เอเวอริงแฮม) ที่นี่ยังเต็มไปด้วยดีเจซุป’ตาร์ ที่นอกจากจะเปรี้ยว ซ่า ก๋ากั่น ยังออกงานเป็นว่าเล่น แถมน้อยคนนักใน จ.เชียงใหม่ จะไม่รู้จักดีเจซุป’ตาร์จากคลื่นนี้

ดีเจแก้วก๊อ ณ เชียงใหม่ และ ดีเจอันโตะ-ณัฐฐาวีรวุฒิ กาวิชัย คือสองดีเจในหลายๆ ดีเจซุป’ตาร์สุดแซ่บประจำคลื่น นางหนึ่งหัวสีชมพู อีกนางหนึ่งหัวสีเขียว อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ที่ใครเห็นเป็นต้องจดจำได้ วันนี้เราเลยไม่พลาดที่จะจับสองนางมาเปิดอกคุยกันถึงความเป็นดีเจซุป’ตาร์ ณ เชียงใหม่ของเธอทั้งคู่

“สวัสดีค่ะ ดีเจแก้วก๊อ ณ เชียงใหม่ หลานสาวเจ้ากอแก้ว ประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ ค่ะ ส่วนพี่หัวเขียว เอ๊ย พี่สาวสุดสวยที่นั่งอยู่ข้างๆ คือดีเจอันโตะ ช่างแต่งหน้าที่ฮอตที่สุดในเชียงใหม่ เราสองคนจัดรายการร่วมกันทุกวันอาทิตย์ 2 ทุ่มถึง 4 ทุ่มค่ะ”

ดีเจแก้วก๊อบอกเล่าถึงที่มาที่ไปแบบน้ำจิ้มๆ ก่อนที่ดีเจอันโตะจะแย่งซีนพูดถึงความเป็นดีเจซุป’ตาร์ของเธอที่น้อยคนนักในเชียงใหม่จะไม่รู้จักเธอ

“อันโตะเป็นช่างแต่งหน้าที่รู้จักคนไปทั่วแหละ (หัวเราะ) พอมีโอกาสมาทำงานดีเจ ที่คุณอนันดากับพี่เจี๊ยบ (หุ้นส่วนของอนันดา) บอกว่าชอบความมีคาแรกเตอร์และมีความสนุกสนานของเรา เราเลยได้ทำ ยิ่งพอมาทำ ยิ่งมีคนรู้จักมากขึ้น รู้จักทั้งเป็นดีเจ และรู้จักว่าเป็นช่างแต่งหน้าที่สวยที่สุด (หัวเราะ) งานไหนที่ไม่เคยทำมาก่อน ก็ได้ทำด้วยนะ อย่างงานพิธีกรอะไรแบบนี้ ยิ่งเดี๋ยวนี้มีงานอีเวนต์เยอะ ก็ได้รับเชิญไปงานบ่อยๆ”

ไม่ต่างจากดีเจแก้วก๊อ ที่นอกจากจะได้รับคำชวนให้มาทำงานเป็นดีเจที่คลิกเรดิโอ เธอยังได้ทำในส่วนครีเอทีฟประจำคลื่น และยังได้ทำงานอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะงานพิธีกร

“งานดีเจกับงานพิธีกรเป็นของคู่กันที่เราสามารถขายความเป็นตัวเราได้ แก้วก๊อชอบอู้คำเมือง (พูดภาษาเหนือ) เวลาจัดรายการ จนเป็นภาพจำของคนฟัง แก้วก๊อว่าความเป็นดีเจซุป’ตาร์เชียงใหม่ เราขายความเป็นเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามี แต่คนกรุงเทพฯ ไม่มี และนี่คือเสน่ห์ ที่กลุ่มคนฟังจากกรุงเทพฯ ก็หันมาฟังเราจัดรายการผ่านทางเฟซบุ๊ก และแอพพลิเคชันด้วย”

หากผู้บริหารของคลิกเรดิโอ มีอนันดาแล้ว เจี๊ยบ-นภัสริญญ์ พรหมพิลา ก็คือหนึ่งในผู้บริหาร ที่เล็งเห็นถึงความเป็นซุป’ตาร์ของดีเจแต่ละคนมาตั้งแต่แรกเริ่ม

“ขอเท้าความว่า เจี๊ยบกับอนันดาเป็นหุ้นส่วนกัน ตั้งแต่ปี 2547 เราทำเกี่ยวกับโปรดักชันหนัง พอเราย้ายมาอยู่ที่เชียงใหม่ ก็เลยอยากหาอะไรทำร่วมกันอีก พอดีเจี๊ยบสนิทกับทางคุณแตน เจ้าของคลิกฯ ที่กรุงเทพฯ เลยได้มีการพูดคุยกันว่าน่าจะทำคลื่นวิทยุที่เชียงใหม่ ก็เลยได้ทำ ตอนแรกก็ทำกันแบบสนุกๆ แต่พอทำแล้วกระแสตอบรับดี ก็เลยทำต่อมาเรื่อยๆ โดยเราได้ดีเจที่มีชื่อเสียงในเชียงใหม่ทั้งหมดมาร่วมงานกับเรา”

นภัสริญญ์ กล่าวว่า ดีเจที่นี่ไม่เคยเป็นดีเจกันมาก่อน แต่ทุกคนมีอะไรๆ ที่น่าสนใจ เรื่องที่ต้องแก้ไขก็ต้องปรับปรุงกันไป พอเข้าที่ ทุกอย่างก็ลงตัว และกลายเป็นกระแสตอบรับที่ดี ดีเจแต่ละคนมีกลุ่มแฟนคลับที่ติดตามผลงานด้วยนะ”

แม้ว่านภัสริญญ์จะถ่อมตัวว่า ดีเจ‌คลื่นคลิกฯ ไม่ได้ถึงขั้นเป็นดีเจซุป’ตาร์‌ขนาดนั้น แต่ก็เป็นคนที่น่าจับตามองที่‌สุด ณ ขณะนี้

“ยอมรับเลยว่าคนเชียงใหม่ ลำปาง และ‌ลำพูน ต่างรู้จักดีเจของเราหมด คงเพราะแต่ละ‌คนมีของเด็ดและมีคาแรกเตอร์ที่โดดเด่น คนเลย‌ให้ความสนใจและติดตามผลงาน ซึ่งในฐานะผู้บริหาร นี่คือความภาคภูมิใจ ที่เราทำให้ดีเจของ‌เรากลายเป็นคนที่น่าจับตามองมากที่สุด ณ ‌ขณะนี้”

ไม่ว่าดีเจยุคสมัยนี้จะกลายเป็นดีเจซุป’ตาร์‌หรือไม่ หรือจะอยู่แห่งหนตำบลใด หากเขาคือดี‌เจที่มีความสามารถ และมีความมุ่งมั่นตั้งใจใน‌การทำงาน ก็เพียงพอแล้วมิใช่หรือที่เราจะนิยาม‌พวกเขาว่า “ดีเจ...ที่ไม่ใช่แค่ดีเจ แต่เป็นดีเจที่มี‌อะไรๆ ในตัว และเจ๋งจริง”