posttoday

เวิร์คพอยท์ทีวีทุ่ม200ล.ออก30รายการใหม่

28 มกราคม 2556

เวิร์คพอยท์ติดใจทีวีดาวเทียม เตรียม 30 รายการใหม่ หลังผลตอบรับดีขึ้นอันดับ 1 รายการแซทเทิลไลท์

เวิร์คพอยท์ติดใจทีวีดาวเทียม เตรียม 30 รายการใหม่ หลังผลตอบรับดีขึ้นอันดับ 1 รายการแซทเทิลไลท์

นายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทจะใช้งบ 200 ล้านบาท เปิดตัวรายการใหม่จำนวน 30 รายการ ในช่องเวิร์คพอยท์ทีวี เน้นรายการวาไรตีเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีละครเกาหลีใหม่ออกอากาศในช่วงไพรม์ไทม์ เพื่อแข่งขันกับช่วงไพรม์ไทม์ของฟรีทีวี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นละครไทย เนื่องจากบริษัทต้องการทำช่องเวิร์คพอยท์ทีวีให้เป็นเหมือนกับฟรีทีวี

ทั้งนี้ หลังจากนำรายการใหม่มาออกอากาศจำนวน 30 รายการ จะส่งผลให้สัดส่วนการออกอากาศรายการเก่าเหลือ 2 รอบ หรือ 12 คูณ 2 คือ รายการใหม่ 12 รายการ และรายการเก่าออกอากาศวน 2 ครั้ง จากเดิมสัดส่วนรายการเก่าจะอยู่ที่ 8 คูณ 3 คือ รายการใหม่ 8 รายการ และรายการเก่าออกอากาศวน 3 ครั้ง โดยหลังจากนำรายการใหม่มาออกอากาศ คาดว่าสิ้นปีจะมีรายได้จากช่องเวิร์คพอยท์ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท

“หลังจากลงทุนไป 130 ล้านบาท ทำช่องเวิร์คพอยท์ทีวีในปีที่ผ่านมา ผลตอบรับดีมาก เพราะเรามีเรตติ้งขึ้นเป็นอันดับ 1 ของช่องแซทเทิลไลท์ นอกจากนี้ยังมีกำไรถึง 30 ล้านบาท เราจึงเห็นโอกาสของการเข้ามาทำธุรกิจในช่องเวิร์คพอยท์ทีวี” นายปัญญา กล่าว

สำหรับอัตราค่าโฆษณาของช่องเวิร์คพอยท์ทีวีนั้น บริษัทได้ปรับราคาขึ้นมาเฉลี่ยอยู่ที่ 1 หมื่นบาทต่อนาที จากเดิมค่าโฆษณาจะอยู่ที่ 6,000 บาทต่อนาที ส่วนค่าโฆษณาในช่องฟรีทีวี ซึ่งมีรายการอยู่ประมาณ 14 รายการกระจายอยู่ในช่องต่างๆ ยกเว้นช่อง 7 และปีนี้มีแผนจะเพิ่มเป็น 17 รายการ ไม่นับรวมรายการไทยแลนด์ ก็อต ทาเลนต์ และเดอะ วอยซ์ โดยบริษัทได้ปรับค่าโฆษณาขึ้นมาอีก 8% ซึ่งถือเป็นการปรับราคาขึ้นตามปกติเมื่อได้รับความนิยม

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะหันมาให้ความสำคัญกับธุรกิจทีวีดาวเทียม ซึ่งล่าสุดก็ได้จับมือกับบริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง ตั้งบริษัท ฟรีไซซ์ บรอดแคสติ้ง เพื่อทำช่องทีวีดาวเทียมจำนวน 3 ช่อง ในปีนี้เริ่มต้นที่ 1 ช่อง บริษัทก็ยังคงให้ความสำคัญกับรายการในช่องฟรีทีวี เนื่องจากยังเป็นช่องทางที่ทำรายได้หลัก คิดเป็นอัตราส่วน 80-90% ขณะที่ช่องทีวีดาวเทียมทำรายได้ที่ 10-20% เท่านั้น ซึ่งในส่วนของรายได้ในสิ้นปีนี้คาดว่าจะเติบโตที่ 30%

สำหรับทีวีดิจิตอลที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น บริษัทค่อนข้างมีความพร้อม เพราะถือเป็นโอกาสทางธุรกิจ อะไรที่เป็นประโยชน์และบริษัททำได้ก็จะดำเนินการทันที แต่ตอนนี้อยากรอจังหวะและความชัดเจนของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ก่อน ว่าจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการเมื่อใด