posttoday

มีอะไรใหม่ในซิตคอม

15 มกราคม 2556

ถ้าพูดถึง “หน้าใหม่” และ “ปรากฏการณ์ใหม่ๆ” ในแวดวงละครทีวีบ้านเรา ถือได้ว่าละครซิตคอมยุคแรกเริ่ม (ราวๆ ปี 2520)

โดย... จตุรภัทร หาญจริง

ถ้าพูดถึง “หน้าใหม่” และ “ปรากฏการณ์ใหม่ๆ” ในแวดวงละครทีวีบ้านเรา ถือได้ว่าละครซิตคอมยุคแรกเริ่ม (ราวๆ ปี 2520) ที่นำทัพโดยนักแสดงและผู้จัดละครหน้าใหม่ “ภัทราวดี มีชูธน” (หรือที่เราเรียกกันจนติดปากว่า “ครูเล็ก”) เธอคือผู้ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการละครบ้านเรา นั่นคือ “การแสดงแบบไม่บอกบท” และการมีความเชื่อว่า “ความสามารถทางการแสดงดึงดูดผู้ชมได้มากกว่าหน้าตา” ซึ่งผลงานละครซิตคอมของภัทราวดีที่มีชื่อว่า “ตุ๊กตาเสียกบาล” นั้น ได้ทำให้รูปแบบการแสดงและรูปแบบการนำเสนอละครเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งการกรุยทางให้ละครซิตคอมเรื่องอื่นๆ ที่ตามมา ได้เข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจของคนไทยมาจนถึงทุกวันนี้

จากปี 2520 จวบจนมาถึงปี 2556 เส้นทางเดินของละครซิตคอมล้วนมี “หน้าใหม่” และ “ปรากฏการณ์ใหม่ๆ” เกิดขึ้นอย่างมากมายหลากหลายรสหลากหลายอารมณ์ บ้างยังคงอยู่ บ้างก็ได้ล้มหายตายจากไป แต่ความเป็นหน้าใหม่และปรากฏการณ์ใหม่ๆ ในละครซิตคอม ก็ยังก่อเกิดขึ้นอย่างไม่มีวันหยุดพัก

และนี่คือ “หน้าใหม่” และ “ปรากฏการณ์ใหม่ๆ” ในซิตคอม 2013 ที่เราต้องจับตามอง

หน้าใหม่...ไก่...มาช่า

ยังจำได้ว่า ตอนที่ซิตคอมเรื่อง “เป็นต่อ” ต้องจบลง และถูกแทนที่ด้วยซีรีส์เรื่อง “เป็นข่าว” ใจเราก็เศร้าอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งพอเป็นข่าวต้องลาจอไปอย่างรวดเร็ว (ด้วยกระแสที่แผ่วเบาลงทุกวันๆ) ยิ่งเศร้าเข้าไปใหญ่ แต่พอคืนวันพฤหัสบดีที่ 15 พ.ย. 2555 เวลา 23.15 น. ที่ช่อง 3 กับบริษัท ซีเนริโอ นำ “ครอบครัวขำ” รายการวาไรตีผสมละครซิตคอมแบบสั้นๆ จบในตอน มาทำให้เราหัวเราะฮากระจาย ในใจเหมือนได้คำตอบว่า “คืนวันพฤหัสบดีของฉัน...มันไม่ว่างเปล่าอีกต่อไปแล้ว”

หากพิจารณาดูละครซิตคอมเรื่องนี้แล้ว ใครหลายคนอาจเกิดคำถามว่า รูปแบบรายการเหมือนจะคล้ายรายการหนึ่งทางช่อง 5 ชนิดที่เรียกได้ว่า มีละครซิตคอมแบบสั้นๆ จบในตอนเหมือนกัน มีพิธีกรประจำรายการเหมือนกัน “เป๊ะ”

“ของมันเหมือนกันได้ แต่ว่าจะจงใจให้เหมือนมั้ย มันเหมือนแกงคนละหม้อ รสชาติคนละแบบ มีเสน่ห์ต่างกัน แล้วแต่คุณผู้ชมจะเลือกชิม” ธงธง มกจ๊ก หนึ่งในนักแสดงละครซิตคอมเรื่องครอบครัวขำ กล่าว

เอาเป็นว่าจะเหมือนหรือไม่เหมือน ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สำคัญที่ดูแล้วขำ ดูแล้วฮา ดูแล้วเพลินตาเพลินใจหรือเปล่า ตรงนี้สำคัญกว่า

แต่ที่เราต้องมาจับตามองกับ “หน้าใหม่” ในละครซิตคอมเรื่องครอบครัวขำ นั่นคือการได้พิธีกรหญิงหนึ่งเดียวของรายการ ที่ดูไปดูมา เกิดคำถามขึ้นมาว่า “She มาได้ไง” และนี่คือการเปิดใจเป็นครั้งแรกของ “ไก่ มีสุข” พิธีกรหญิงที่ย้ำกับเราตลอดการสนทนาว่า “ตัวตนที่แท้จริงของไก่ได้ถูกเปิดเผยด้วยรายการนี้แล้ว”

“อยากบอกว่า ตัวตนที่แท้จริงของไก่ไม่ใช่คนที่ซีเรียส ไก่เป็นคนตลกมาก ถ้าไม่ได้เล่าข่าว ไก่จะเป็นคนที่เลี้ยวเข้าตลกตลอด (หัวเราะ) รวมทั้งถ้าอยู่ในกลุ่มเพื่อนสนิท ไก่เป็นตัวโจ๊กในกลุ่มเลย แหย่คนนั้นทีแหย่คนนี้ที”

มีสุข เล่าให้ฟังว่า ตอนที่ทีมงานติดต่อมา ยังนึกสงสัยว่าทำไมถึงต้องเป็นเธอ พอทีมงานเฉลยให้เธอทราบ เธอถึงได้รู้ว่า ที่รายการนี้จำเพาะเจาะจงต้องเป็นเธอ นั่นเป็นเพราะทีมงานเห็นมุมหลุดของเธอในรายการผู้หญิงถึงผู้หญิงแล้วถูกใจ เลยอยากให้เป็นพี่ใหญ่ของเหล่าพิธีกร ที่สามารถตลกไปกับน้องๆ ได้ และทำให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางได้

“ตอนอัดเทปแรกๆ ไก่กังวลเหมือนกันนะ เพราะไม่รู้ว่าเรามากไปหรือน้อยไป ไก่คิดว่าถ้าเราเป็นตัวของตัวเอง คนดูจะรับได้แค่ไหน เพราะเวลาเล่าข่าว จะเป็นข่าวแนวหนักๆ แต่ทุกคนก็ให้กำลังใจว่าเป็นตัวของตัวเองเถอะ แล้วทีมงานจะช่วยดูให้ในความเหมาะสม ไก่เลยมีกำลังใจขึ้น และเป็นตัวของตัวเองอย่างที่เห็นในรายการค่ะ”

ในส่วนของรายการ มีสุขจะเป็นพิธีกรหลักร่วมกับดีเจเชาเชา มิค บรมวุฒิ และบร๊ะเจ้าโจ๊ก โซคูล ซึ่งจะช่วยกันโยนเข้าละครซิตคอมในตอนต่างๆ แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการแสดง ซึ่งเธอเผยว่า ทางทีมงานแอบเปรยว่าอยากให้เธอมาร่วมแสดงเหมือนกัน

“ทีมงานก็มีหยอดมาบ้างเหมือนกันว่าจะเชิญเราไปเล่น เขาคงเห็นไก่ไหลไปกับมุขของน้องๆ พิธีกรร่วม แต่อย่าเพิ่งเลยดีกว่ามั้ย (หัวเราะ) ไก่ประเมินตัวเองแล้วค้นพบว่าไก่ไม่ใช่นักแสดงที่ดี และก็ไม่มีความสุขเท่ากับการเป็นพิธีกรและผู้ประกาศข่าว แต่ไม่แน่นะ ถ้าเล่นแบบไม่ประจำ อาจมีสิทธิ ยังไงต้องติดตามกันต่อไปค่ะ”

มาที่ละครซิตคอมเรื่อง “ออฟฟิศพิชิตใจ” ที่ออกอากาศทุกคืนวันอังคาร เวลา 22.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวีกันบ้าง เรื่องนี้ประเดิมเจิมฤกษ์วันอังคารที่ 1 ม.ค. 2556 พอดี๊พอดี

เมื่อไล่เรียงสายตามองนักแสดงนำของเรื่อง คงต้องสะดุดชื่อนักแสดงหญิงอย่าง “มาช่า วัฒนพานิช” จนเกิดคำถามขึ้นในใจว่า “อย่างมาช่าเนี่ยนะ จะเล่นซิตคอมได้” เอาเป็นว่า เปิดโอกาสให้นักแสดงละครซิตคอมหน้าใหม่อย่างมาช่า มาชี้แจงแถลงไขเองเลยดีกว่า

“ในออฟฟิศพิชิตใจ ช่าเล่นเป็นวิภา เป็นภรรยาของพี่ก้อง สหรัถ ค่ะ (หัวเราะ) เป็นสาวมั่นในเรื่องงาน และเป็นคนที่ใส่ใจเรื่องความรัก เปิดบริษัทด้วยกันกับสามี แต่จะคอยหงุดหงิดที่สามีบ้างานจนลืมดูแลใส่ใจในความรัก ลืมวันเกิด ไม่สนใจเรา จนเราทนไม่ได้ เลยทำให้สามีรู้ว่าความรักมันมีคุณค่าที่ต้องเอาใจใส่กันบ้าง แต่ไม่ได้เครียดนะคะ เป็นแนวตลกๆ โวยวายๆ”

มาช่า บอกว่า นี่เป็นแนวทางการแสดงที่ท้าทายความสามารถของเธอไม่ใช่น้อย แต่ที่เธอรับเล่นละครซิตคอมเรื่องนี้ นั่นเป็นเพราะแก่นสาระสำคัญของเรื่องมันจี๊ดโดนใจ จนต้องรับปากเล่นแบบไม่ลังเลใจ

“ช่าชอบแก่นสาระสำคัญของละครซิตคอมเรื่องนี้มาก ตรงที่ตัวละครสองตัว คือ ช่ากับพี่ก้องต่างคนต่างต้องการพิสูจน์ว่า ระหว่างความรักกับเงินอันไหนสำคัญกว่ากัน ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่คนในยุคสมัยนี้กำลังถกเถียงกันเพื่อค้นหาคำตอบ”

เมื่อเหล้าเก่าอย่างมาช่า ต้องมาอยู่ในขวดใหม่อย่างละครซิตคอม ย่อมต้องทำการบ้านหนักเป็นธรรมดา มาช่า เผยว่า ตัวเองก็ไม่มีข้อยกเว้น

“ช่าทำการบ้านเยอะมาก เพราะเป็นซิตคอมเรื่องแรกของช่า ยิ่งเล่นคู่กับพี่ก้อง ต้องคอยจับจังหวะว่าเขาส่งมายังไง เราจะรับยังไง เพราะโดยส่วนตัวช่าไม่ใช่คนที่มีจังหวะแบบซิตคอมเลย โดยเฉพาะกับพี่รง (จาตุรงค์ มกจ๊ก) ยิ่งต้องสู้มุขกับพี่เขาให้ได้ หลุดขำนี่มีบ่อยเลยค่ะ เล่นๆ อยู่กลั้นขำไม่อยู่ ก็หัวเราะออกมาเลย (หัวเราะ)”

เอาเป็นว่า ในฐานะคนดูเราคงต้องจับตาดูผลงานของทั้งมาช่า และไก่ มีสุข กันแบบยาวๆ รวมทั้งเอาใจช่วยเธอทั้งสองให้ได้เดินบนเส้นทางซิตคอมอย่างตลอดรอดฝั่ง

ปรากฏการณ์ใหม่...แบบซิตคอมมิวสิเคิล

ถ้าเปิดช่อง 3 เวลา 23.15 น. ทุกคืนวันอาทิตย์ เราจะพบกับ ครัวซอง...ทำนองรัก ละครซิตคอมรูปแบบใหม่ ที่ผสมผสานเพลงเข้าไป เพื่อให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่แบบซิตคอมมิวสิเคิล ซึ่ง ชมพู ฟรุตตี้ นักร้อง นักแสดง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ บอกกับเราว่า “นี่คือปรากฏการณ์การยิงปืนนัดเดียว แต่ได้นกหลายตัว”

“กับซิตคอมมิวสิเคิลเรื่องนี้ ผมได้คุยกับพี่หน่อง อรุโณชา ตั้งแต่ปลายปี 2554 พอได้ฟังไอเดียของพี่หน่องที่ต้องการให้เพลงกับซิตคอมมาอยู่ด้วยกัน กอปรกับนโยบายของทางช่อง 3 ที่อยากทำครอบครัวเพลงแล้ว ยิ่งทำให้ผมตกปากรับคำร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานโดยทันทีไม่ต้องรีรอ”

ชมพู เล่าต่อว่า ละครซิตคอมมิวสิเคิลนั้น เมื่อได้นำเพลงใส่เข้าไปในละคร มันสามารถบอกอารมณ์ของตัวละครได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้คนดูอินไปกับอารมณ์ของตัวละครได้มากขึ้นกว่าเดิม

“นี่คือเสน่ห์ครับ มันเป็นการผสมผสานกันทั้งละคร ทั้งเพลง ให้เกิดมิติและความหลากหลาย รวมทั้งเป็นปรากฏการณ์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจทีเดียว”

นอกจากเป็นนักแสดงในละครซิตคอมเรื่องนี้แล้ว ชมพูยังช่วยดูว่าเพลงนี้ควรอยู่ในอารมณ์ไหน และดูว่าแต่ละช่วงจังหวะของดนตรี ตรงไหนควรหนัก ตรงไหนควรใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้น

“ในฐานะที่ปรึกษาด้านดนตรีของละครเรื่องนี้ บอกได้คำเดียวว่า นี่คือวิธีการทำงานแบบยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว มันเจ๋งตรงที่ในซิตคอมมิวสิเคิลเรื่องนี้ เราได้ทั้งเพลง ได้ทั้งนักร้อง ได้ทั้งศิลปินหน้าใหม่ ได้ทั้งวิธีการคิดใหม่ทำใหม่ ตอนนี้โมเดลเดิมในวงการเพลงมันล่มสลายไปแล้ว มันต้องมีโมเดลใหม่ มันต้องมีวิธีการใหม่ๆ มาทำให้วงการเพลงก้าวเดินไปได้ต่อ”

ชมพู เฉลยว่า โมเดลใหม่ที่ว่านี้ คือ การทำให้เพลงในซิตคอมเรื่องนี้ ขายตัวมันเองได้ภายในระยะเวลาอันสั้น รวมทั้งสามารถทำให้นักแสดงในละครกลายเป็นศิลปินหน้าใหม่ในวงการเพลงได้จริงๆ อีกทั้งยังสามารถสร้างเรื่องราวในละครให้มีการออดิชันค้นหาศิลปินหน้าใหม่ เพื่อที่ศิลปินหน้าใหม่ในละครจะสามารถกลายเป็นศิลปินตัวจริงที่มีผลงานเพลงจริงๆ ออกมาในท้ายที่สุด”

ไม่ว่าหน้าใหม่หรือปรากฏการณ์ใหม่ๆ จะเกิดขึ้นในละครซิตคอมบ้านเราอีกมากมายเพียงใด หากนำมาซึ่งความสุขและความบันเทิงของคนดูไม่ได้ สิ่งอื่นใดคงไม่ใช่คำตอบ เพราะความหมายอันแท้จริงของละครซิตคอม คือ การเลือกที่จะมองชีวิตมนุษย์ในแง่ขบขัน ล้อเลียน เอามาทำเป็นเรื่องตลกให้คนดูหัวเราะ โดยผูกเรื่องและสร้างสถานการณ์ให้เกิดอารมณ์ขันสนุกสนานนั่นเอง