คอนเสิร์ตที่เจ็บปวดที่สุดของปี กับ 8 ร็อกเกอร์

โดย...เสน่ห์จันทน์

เชื่อไหมว่า...เวลาที่คนเรา “อกหัก” มีสิ่งหนึ่งที่อยู่เป็นเพื่อนแก้เหงา ช่วยผ่อนคลายจิตใจ ในขณะเดียวกันก็ช่วยตอกย้ำความเจ็บปวดให้มันดิ่งลึกสุดๆ สิ่งนั้นก็คือ “บทเพลง” หนำซ้ำยังเป็นเพลงรักผิดหวังในท่วงทำนองร็อกหนักหน่วง กระแทกกระทั้นจิตใจให้ต่อมน้ำตาแตกพรั่งพรูออกมา และแล้ว...เราก็ผ่านมาได้ โดยมีเพลงรักเพลงร็อกนี่แหละเป็นเพื่อน...

หากใครเคยผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมา และคุณยังไม่ลืม...ท่วงทำนองแห่งความผิดหวัง เจ็บปวด ช้ำรัก และถ้าบทเพลงของพวกเขาทั้ง 8 ร็อกเกอร์ บิลลี่ โอแกน ป้าง-นครินทร์ กิ่งศักดิ์ แมวจิระศักดิ์ ปานพุ่ม โจก้อง ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล จั๊ก ชวิน และ วาย น็อต เซเว่น (Y NOT 7) เป็นหนึ่งหรือหลายๆ เพลงที่คุณเจ็บแบบไม่มีวันลืม ในวันนี้คุณจะได้พบกับพวกเขาบนเวทีเดียวกัน กับคอนเสิร์ตที่เจ็บปวดและร็อกที่สุดของปี “The Hurt Rockers Concert ร็อค รักแรก เลิกรา” ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 10 พ.ย. ที่ไบเทค บางนา

 

การเกิดขึ้นของคอนเสิร์ตธีมจิ๊กโก๋อกหัก เอ๊ย! ธีมเพลงร็อกอกหัก ก็คือ ปีเตอร์ หลุยส์ ไมอ๊อคชิ ที่คุ้นหน้าคุ้นตาจากบทบาทนักแสดง ครานี้ขอเปลี่ยนบทบาทมาเป็นโปรเจกต์ เมเนเจอร์ ให้กับ บริษัท เอฟ เอ เอฟ จัดคอนเสิร์ตใหญ่ และด้วยความคิดถึงบรรยากาศร็อกในวัยเรียน จึงคิดโปรเจกต์เจ็บๆ เอาใจขาร็อกให้ได้มาย้อนอดีต ทบทวนความทรงจำกัน

“ทุกวันนี้เรามีปัญหามากมายผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะงาน ครอบครัว การเมือง หรือแม้แต่ธรรมชาติที่แสนจะคาดการณ์ไม่ได้ ความเจ็บปวดในวันนี้ ทำให้เราหวนคิดถึงวันที่เรามีความสุขและปัญหาเล็กๆ ที่คิดว่าใหญ่มากในวัยเด็ก เรารู้สึกว่าเราคิดถึงพี่เลี้ยงสมัยเราเรียนหนังสือ เราเฮิร์ตเราอกหักทะเลาะกับเพื่อน เราก็ต้องฟังเพลงพี่ๆ เขาก็เลยมานั่งตรึกตรองดูว่าเพลงไหนบ้างที่อยู่ในใจเราตลอดเวลา จึงค่อยๆ เรียบเรียงเพลงที่ติดปากติดอยู่ในใจ จนนับเรียงไปเรียงมาได้เพลงฮิตจากศิลปินที่สุดยอดและไม่เคยลืม ที่เราคิดถึงมาก และอยากดูพี่ๆ เขาจริงๆ เราได้ธีม ร็อค รักแรก เลิกรา ก็จะเป็นเพลงต้นตำรับในสมัยนั้นเลย”

งานนี้จัดเต็ม เจ็บเต็ม กับบทเพลงร็อกกระชากใจ ที่แม้ว่าจะผ่านมาหลายสิบปี แต่เชื่อว่าทุกคนยังร้องเพลงเหล่านั้นได้แน่นอน เพราะบทเพลงเหล่านั้นมันฝังลึก

“ปล่อยให้ไหลไป ให้ลอยลงสู่ทะเล ให้หายไป ให้มันอย่าคืนย้อนมา ทิ้งไป เพราะรักนั้นทำกับเรา ให้เสียใจ ให้ลอยไปใกล ให้ไปไกลๆ ไม่มีอะไรต้องเหลือ ทิ้งแล้วทุกอย่าง”

“ขอให้ทิ้ง ทิ้งกันอย่ามีเยื่อใย ตัดใจให้จบ อย่าอยู่ อย่าเป็นห่วงกัน ส่วนฉันคนนี้ก็คงเศร้าใจไม่นาน อย่าทำสงสารแกล้งดีให้ฉันตายใจ”

 

“ฟ้าคงสะใจ คงพอใจที่ได้เห็นเราเลิกรา เห็นคนต้องเสียน้ำตา เห็นคนช้ำใจฟ้าคงสะใจ คงพอใจที่ได้เห็นเราเลิกรา เห็นคนที่รักกันมา ต้องลาร้างไป”

บิลลี่ โอแกน เข้มตลอดสำหรับศิลปินร็อกคนนี้ และบทเพลงเฮิร์ตๆ ของเขาก็ติดอันดับทะลุทุลวงจิตใจคนอกหัก “หมื่นล้านเพลง” เป็นหนึ่งบทเพลงที่บิลลี่บอกว่ามีอยู่ในลิสต์ที่จะโชว์ “เพลงนี้มีมู้ดที่เจ็บปวดและเป็นเพลงที่คนฟังร้องตามกันได้ เสน่ห์ของเพลงร็อกผมว่ามันอยู่ตรงที่มันเสียงดังไม่หนวกหู ฟังแล้วได้อารมณ์ ภาษาร็อกก็บอกก็คุยกันสบายๆ ไม่ต้องเยอะ เยอะมันจะไม่สนุก เพลงร็อกก็เป็นเพลงพื้นๆ ไม่ต้องมีองค์ประกอบมากมาย”

“เพลงในทศวรรษที่แล้วมันก็มีเสน่ห์แตกต่างจากเพลงยุคนี้ คนที่ทำก็อยู่คนละเจนฯ (เจเนอเรชัน) ความรู้สึกทางคอร์ดก็ไม่เหมือนกัน แรงเหวี่ยงของจังหวะไม่เหมือนกัน และเพลงรุ่นเก่ามันมีรูปแบบที่ใช้ภาษาที่จดจำได้ ไม่ใช่ภาษาปัจจุบันจุงเบยที่มาแล้วเดี๋ยวก็ไป แต่ยุคเรามันเป็นร้อยกรอง ไม่ใช่ร้อยแก้ว อ่านแล้วก็เลยไป ร้อยกรองมีความเป็นกวีพจน์ มันจับใจคนฟังมากกว่า คนเลยยังจำบทเพลงของพวกเราได้ หรือคนที่จะมาดูเขาคงอยากเห็นว่าผมแก่ไปแค่ไหนแล้ว (หัวเราะ) ตอนนี้ผมไปตามวิถีของวัยตัวเอง งานเพลงก็ทำอยู่เรื่อยๆ ดูแลตัวเอง เพราะถ้าร้องดนตรีร็อก เพลงหนักๆ ต้องออกกำลัง ไม่อย่างนั้นเล่นไม่ไหว หายใจให้ทัน ต้องมีวิธีการดูแลของตัวเองไป เก่งไม่กลัว กลัวไม่ซ้อม”

“แต่มันลืมไป แต่มันเผลอไป ยั้งใจไว้ไม่ทัน ลืมไปว่าไม่รักกัน ไม่เหมือนวันที่ผ่านมา” พอสิ้นคำถามว่า เพลงไหนที่ถ่ายทอดมาจากประสบการณ์อกหักของ “โจ-จิรายุส วรรธนะสิน” เท่านั้นแหละพี่แกก็ร้องเพลง “ลืมไปไม่รักกัน” ออกมาฉับพลันด้วยน้ำเสียงเหมือนเพิ่งอกหักมาหมาดๆ

 

“ต้องเพลงนี้แหละ ตรงกับชีวิตมาก และตอนนี้ก็กลายเป็นเพลงฮิตตลอดกาล เป็นอะไรที่น่าภูมิใจและเจ็บปวดมาก”

พอให้เปิดเผยถึงรักแรก เลิกราแรก โจก็ตอบทันควันโดยไม่ต้องใช้เวลานึกย้อนอดีต “ตอนเด็กอยู่โรงเรียนชายล้วน ผมไม่รักผู้ชาย พอมาอยู่โรงเรียนศรีวิกรม์ได้เจอนักเรียนหญิงแล้วผมก็รักเลย ตอนนั้นผมรู้ปุ๊บว่าเราเป็นผู้ชาย (หัวเราะ) อกหักครั้งแรกตอนเรียนอยู่ ม.4 จะขึ้น ม.5 นึกว่ารักต้องสมหวัง เฮ้ยชีวิตมีแบบนี้ด้วยหรอ รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไร”

“แมว-จิระศักดิ์ ปานพุ่ม” ร็อกเกอร์ที่ฝากบทเพลงสะเทือนอารมณ์คนถูกทิ้งไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น มุมมืด นักโทษประหาร ปางตาย ได้พูดถึงเพลงร็อกกับความเจ็บปวดว่า “ผมชอบคอนเสิร์ตนี้นะ เพราะเพลงร็อกเกิดขึ้นจากความกดดัน ความเจ็บปวด คนคนหนึ่งได้ถ่ายทอดบทเพลงอย่างถึงพริกถึงขิง กระแทกกระทั้นได้อย่างถึงใจ สะใจ พอนานๆ ไปก็มีอ่อนหวานบ้าง แต่จริงๆ ร็อกออกมาจากข้างในจิตใจ เรามีความทรงจำอะไรที่มันเจ็บๆ เรื่องความเจ็บปวดมันอยู่กับดนตรีประเภทไหนมากที่สุด ก็คือดนตรีร็อก ป๊อปอกหักได้ไหม ก็ได้ แต่ก็เป็นอารมณ์อีกแบบหนึ่ง ร็อกมันชัดเจน ร็อกมีการใช้ภาษาที่สะใจกว่า อย่างเพลงของวาย น็อต เซเว่น เรื่องแค่นี้มันขี้หมา ภาษาป๊อปใช่ไม่ได้อยู่แล้ว”

งานนี้นอกจากเพลงตัวเองที่จะนำขึ้นร้องแล้ว ซึ่งแน่นอนว่ามีเพลง “เลิกรา” แมวยังจะร้องเพลงสากลอีกด้วย แต่ชื่อเพลงนั้นไม่ขอเปิดเผย แต่ถ้าถามถึงเพลงไหนที่ชอบฟังเวลาเฮิร์ต แมวบอกว่า “เวลาผมเฮิร์ตจะย้อนไปฟังเพลงเก่าๆ อย่างเพลงของวง สกอร์เปียน ร็อกยุคนั้นเวลาเขาถ่ายทอดดนตรี การเรียบเรียงของเขาไม่รกหู เป็นซาวด์ดิบๆ หน่อย ยิ่งการร้องของเขาเสียงมันบาดมาก

 

“คนจะแมน ทั้งๆ ที่คนจะแมน เธอยังไม่เอา ไม่ดีกว่าเขาไม่มีค่าอันใด แล้วฉันก็โคตรจะอาย คำที่พูดไป พระเอกแค่ไหนก็ไม่ช่วยเลย” เพลง แมน ของ “ป้าง-นครินทร์ กิ่งศักดิ์” เป็นหนึ่งบทเพลงที่โชว์บทเวทีไหนก็สุดมันส์สะใจขาร็อก ซึ่งบนเวที The Hurt Rockers in Concert ไม่น่าพลาด

“ครั้งนี้เน้นเพลงเฮิร์ต เพลงอะไรที่เจ็บๆ เพลงที่ผมเลือกต้องสนองตรงนี้ (ยิ้ม) เพราะคนได้ยินชื่อคอนเสิร์ตก็อยากได้สิ่งเหล่านั้น แต่ผมยังเปิดเผยไม่ได้ เพราะตอนนี้แต่ละคนอุบกันมากว่าใครจะร้องเพลงอะไร มีเปิดเผยแค่เพลงที่ต้องมาลองแจมกัน หรือแลกกันร้องเท่านั้น (หัวเราะ) การมารวมตัวกันครั้งนี้น่าจะสนุก เพราะอยู่ในรุ่นเดียวกัน คนที่มาดูก็น่าจะเป็นแฟนเพลงของเรา หน้าเวทีน่าสนุก หลังเวทีก็น่าสนุกแน่”

ส่วนการที่ศิลปินร็อกรุ่นเก่ายังครองใจแฟนเพลงได้นั้น พี่ป้างบอกว่า “เพราะลักษณะอย่างหนึ่งของเพลงร็อกจริงใจและตรงไปตรงมา และสิ่งเหล่านี้อยู่ในใจคนแล้วอยู่นาน ไม่ซับซ้อนจนเกินคนรับได้ เป็นการแสดงอารมณ์อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาน่าจะรับมันได้ง่าย น่าจะรู้สึกประทับใจมันได้ง่ายๆ และเราก็ยังคงถ่ายทอดมันออกมาได้ดี สำหรับพี่ต้องคอยออกกำลังกาย เวลาออกไปร้องให้มีพาวเวอร์ในการร้อง ถ้าเรามีสุขภาพแข็งแรงพอที่จะถ่ายทอดเพลงร็อกได้ ก็ทำให้เพลงร็อกยังมีเสน่ห์อยู่ ถ้าเกิดพี่แก่ย้วยจนไม่สามารถถ่ายทอดมันได้ก็คงไม่สนุกอีกต่อไป นักดนตรีใช้เสียงหนักๆ การออกกำลังกายช่วยได้เยอะ แม้เราจะกินดื่ม เพลงร็อกไม่ต้องการแก้วเสียงที่เนี้ยบกริ๊ง การเสียงแหบบ้างตามธรรมชาติเป็นเสน่ห์ด้วยซ้ำสำหรับเพลงร็อก อย่างที่บอกที่ออกกำลังกายจะได้ร้องไหว เพลงร็อกใช้กำลังเยอะมาก แถมผลพลอยได้ก็ทำให้ไม่แก่เกินไปนัก (หัวเราะ)”

 

“วาย น็อต เซเว่น” วงอัลเทอร์เนทีฟร็อกระดับเทพ หายหน้าไปนานหลายปี กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง รับรองว่ายิ่งแก่ยิ่งเก๋า เพราะแม้จะไม่ได้เห็นโชว์กันตามสื่อใหญ่ๆ แต่สมาชิกในวงต่างก็ยังทำงานดนตรีกันอยู่อย่างต่อเนื่อง และได้กลับมารวมกันเมื่อ 45 ปีที่แล้ว เดินสายร้องตามสถานที่ต่างๆ ร่วมกับวงเดอะมัส ปีเตอร์ และจั๊ก อยู่บ้าง

เหน่ง-เกษม วงศ์สรรคกร นักร้องนำ เปิดเผยถึงการกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง พร้อมเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ของแฟนวาย น็อต เซเว่น ก็คือ คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งใหญ่ครั้งแรกของพวกเขา “วงเราไม่เคยเล่นเดี่ยวเลยนะครับ ครั้งนี้แหละ ครั้งแรกของพวกเรา ซึ่งทุกคนรอจะได้เล่นมานานแล้ว น่าจะเกิดขึ้นปีหน้า เป็นปีที่ 19 ในเส้นทางดนตรีของพวกเรา ถ้าจะรอตัวเลข 20 ปี เหมือนคนอื่น ก็จะแก่ไปไหม กลัวเล่นไม่ไหว (หัวเราะ) คอนเสิร์ตครั้งนี้เหมือนการวอร์มก่อนจะเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ของเราปีหน้า เป็นการอุ่นเครื่อง รับรองว่ามันส์ ใครที่คิดถึงกัน ยังจำเพลงอกหักของพวกเราได้ มาร่วมร้องเพลงเก่าๆ กัน เรามีเพลง ชู้รัก ทิ้งรักในแม่น้ำ เรื่องขี้หมา สมัยอกหักตอนวัยรุ่นจนป่านนี้ลูกโต ก็น่าจะมาร้องเพลงกับเรา เคยใช้เพลงเราเป็นประสบการณ์ชีวิต ทุกคนไม่ได้มีรักแรก รักเดียว มีก็น้อย ต้องมีพลัดพรากจากลาเสียใจแน่นอนหลายๆ ครั้ง มาร่วมย้อนความหลังกัน”

ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล”ที่ตอนนี้ทำงานเป็นแพ็กคู่กับจั๊ก ชวินเลยถูกยกให้เป็นศิลปินร็อกหน้าใส รุ่นเล็กกว่าพี่ๆ“ศิลปินทุกคนเป็นไอดอลของผมทุกคนมีเอกลักษณ์ นี่คือระดับตำนานประเทศไทย ผมไม่ได้ว่าแก่นะแต่เป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลกับวงการเพลงบ้านเรา ตอนนี้สำหรับผมเป็นแพ็กคู่กับจั๊กเราโชว์ด้วยกันมาสักพักหนึ่งแล้ว ภาพจะไม่ร็อกแอนด์โรลล์เท่าพี่คนอื่นดังนั้นเพลงที่จะร้องต้องรอดูว่าผมเล่นต่อใคร เล่นก่อนใคร งานนี้ไม่เอาแต่ใจตัวเองแต่ต้องคำนึงถึงภาพรวม ว่าต่อเพลงยังไงให้เนียน ราบรื่นโชว์ยังไงให้คนต่อไปขึ้นรื่น เป็นหน้าที่ของศิลปินรักษาความเอนเตอร์เทนไว้ให้ได้แค่คิดตรงนี้ก็สนุกแล้ว ที่แน่ๆ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นแบบนี้มานานแล้วการที่ศิลปินร็อกมารวมตัวกันแบบนี้ แต่ละคนกระจัดกระจายไปทำนู่นนี่แต่นี่คือหนึ่งเหตุการณ์ที่ควรจะมา ห้ามพลาดคนไม่คุ้นเคยต้องมาซึบซับบรรยากาศร็อกแอนด์โรลล์ของแท้”

งานนี้หนุ่มปีเตอร์ทิ้งท้ายไว้ว่า“ถ้าผมร้องเพลงแล้วไม่มีคนกรี๊ด ผมจะถอดเสื้อร้องเพลง”