posttoday

หนังสายลับที่ชวนให้หลับมากกว่าลุ้น

06 กันยายน 2555

หลังจากพอล กรีนกราสส์ และแมตต์ เดมอน ผู้กำกับมือฉมังและพระเอกคนเก่งจากโปรเจกต์ภาพยนตร์ชุด เจสัน บอร์น ทั้งสองภาค

โดย...อินทรชัย พาณิชกุล

หลังจากพอล กรีนกราสส์ และแมตต์ เดมอน ผู้กำกับมือฉมังและพระเอกคนเก่งจากโปรเจกต์ภาพยนตร์ชุด เจสัน บอร์น ทั้งสองภาค (The Bourne Supremacy และ Bourne Ultimatum) ประกาศโบกมือบ๊ายบายไม่ทำต่อ

เล่นเอาแฟนพันธุ์แท้อ้าปากค้างกันเป็นแถว

เหลียวมองหาใครสักคนที่ฝีมือดี (และใจถึง) พอจะมานั่งแท่นกำกับ รวมถึงนำแสดงในบท เจสัน บอร์น สายลับฝีมือฉกาจ ครบเครื่องถึงลูกถึงคนทั้งบู๊และบุ๋น

เจเรมี เรนเนอร์ นักแสดงหนุ่ม ผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงชาย จากเรื่อง The Hurt Locker คือผู้โชคดีคนนั้น ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง จนกลายเป็นแรงกดดันถาโถมเข้าใส่ เมื่อต้องมารับไม้ต่อจาก แมตต์ เดมอน ซึ่งฝากฝีมือไว้ในความทรงจำผู้ชมชนิดฝังรากหยั่งลึก

ผู้กำกับคนใหม่ไม่ใช่ใครที่ไหน โทนี กิลรอย ผู้เขียนบทภาพยนตร์ชุด เจสัน บอร์น ทั้งสามภาค วันนี้ตัดสินใจก้าวขึ้นมากำกับเอง ภายใต้แรงกดดันมหาศาลไม่แพ้กัน แต่บารมีเก่าๆ ที่มีส่วนทำให้ทั้งสามภาคประสบความสำเร็จกวาดรายได้ทั่วโลกรวมกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ น่าจะทำให้แฟนๆ หายใจโล่งอกกันไปบ้าง

หนังสายลับที่ชวนให้หลับมากกว่าลุ้น

The Bourne Legacy เดินเรื่องโดย แอรอน คอร์ส (เจเรมี เรนเนอร์) หนึ่งในสายลับจากโครงการลับที่ชื่อ เอาต์คัม ผู้ถูกพัฒนาให้เป็นเครื่องจักรสังหารในภารกิจเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย แต่เมื่อโครงการเทรดสโตน รวมถึงโครงการแบล็กไบเออร์ แม้กระทั่งชื่อของเจสัน บอร์น ฉาวโฉ่ขึ้นเป็นข่าวครึกโครม ผู้ใหญ่ในรัฐบาลจึงประกาศสั่งปิดทุกโครงการลับที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่ความจริงอันน่าสะพรึงจะถูกเปิดเผยต่อสาธารชน

สายลับทุกคนถูกไล่ล่ากำจัดทีละคนราวใบไม้ร่วง แอรอนต้องหนีหัวซุกหัวซุน จากเงื้อมมืออำนาจเต็มรูปแบบของพันเอกพิเศษ เอริก ไบเออร์ (เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน) หัวหน้าภารกิจ ผู้อยู่เบื้องหลังโครงการลับทั้งหมด เช่นเดียวกับ ดร.มาร์ธา เชียริง นักวิทยาศาสตร์หญิงของบริษัทยักษ์ใหญ่ ภายใต้โครงการเอาต์คัม ที่รอดชีวิตหวุดหวิดจากการถูกปิดปาก

ทั้งคู่ต่างดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขันนี้

ทุกคนตั้งตารอดูฉากต่อสู้สุดมันจากสายลับโคตรทรหดคนใหม่รายนี้ เพราะตลอดทั้งสามภาคที่ผ่านมา แมตต์ เดมอน ในบท เจสัน บอร์น เจ้าของมาดขรึม เยือกเย็น โชว์ความแข็งแกร่ง ปราดเปรียว ไหวพริบเป็นเลิศ กระโดดข้ามไปตามยอดตึก บิดรถมอเตอร์ไซค์ ซิ่งรถปานสายฟ้าบนถนน รวมถึงการต่อสู้ด้วยมือเปล่ากับเหล่ามือสังหาร โหด ห้วน กระชากใจ

หนังสายลับที่ชวนให้หลับมากกว่าลุ้น

แต่ดูเหมือนภาคนี้ หนุ่มเจเรมี เรนเนอร์ จะโชว์ฟอร์มน้อยไม่สมกับที่รอคอยเอาเสียเลย นอกจากฟาดกบาลศัตรูที่อ่อนชั้นกว่าอย่างง่ายดาย ไร้กระบวนท่า ฉากไฮไลต์อย่างฉากควบมอเตอร์ไซค์ล่าระทึกกลางกรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ ก็ไม่ได้ตื่นเต้นหวาดเสียวอะไรมากนัก

พูดง่ายๆ ฉากต่อสู้ที่โชว์ธาตุทรหดของสายลับขั้นเทพ เจสัน บอร์น เหนือกว่าแอรอน คอร์ส หลายขุม

ในแง่ของการเล่าเรื่องค่อนข้างเนิบช้า อืดอาด ผูกโยงเกี่ยวกับประเด็นเรื่องอำนาจทางการเมืองการทหาร โครงการลับต่างๆ ของรัฐบาล สาเหตุที่มาที่ไปที่ทำให้พระเอกนางเอกต้องมาหนีการตามล่าจากทางการ ทั้งหมดฉายภาพออกมาอย่างมึนงง ซับซ้อน เข้าใจยาก

ยังไม่เอ่ยถึงเทคนิคการถ่ายภาพ ลำดับภาพ และตัดต่อที่ไม่กระชับฉับไวเหมือนที่หนังสายลับที่ดีควรจะมี ไม่กระตุ้นอารมณ์ให้ตื่นเต้น ไม่เร้าใจชวนให้ติดตาม บางช่วงบางฉากให้ง่วงเหงาหาวนอนมากกว่า

ดูเรื่องนี้แล้วนึกถึงเมื่อครั้งเห็นนักแสดงหนุ่ม แดเนียล เคร็ก มารับบท เจมส์ บอร์น คนใหม่ ในภาค Casino Royale ซึ่งตอนนั้นถูกวิจารณ์หนาหูว่าหน้าแก่บ้าง ไม่หล่อบ้าง แต่เมื่อหนังออกมาก็ถือว่าน่าพึงพอใจ

แตกต่างจากตัวละครชื่อ แอรอน คอร์ส สายลับคนใหม่ ผู้ที่ใครๆ คาดหวังว่าจะมาจับหัวใจคนดูแทน เจสัน บอร์น แต่สุดท้ายก็ล้มไม่เป็นท่า