posttoday

ออแกไนซ์แฉ!พลอยใช้บัตรฯคนอื่นรับเงินค่าตัว

24 สิงหาคม 2555

พลอย เฌอมาลย์ งานเข้า! ออแกไนซ์ออกโรงแฉ! นางเอกสาวใช้บัตรประชาชนคนอื่นรับเงิน ยันจ่ายเงินครบตามกฎหมาย

พลอย เฌอมาลย์ งานเข้า! ออแกไนซ์ออกโรงแฉ! นางเอกสาวใช้บัตรประชาชนคนอื่นรับเงิน ยันจ่ายเงินครบตามกฎหมาย

เป็นเรื่องอีกแล้วสำหรับ “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” หลังจากมีข่าวกับหลายๆ คนมาหลายครั้งแล้ว  ล่าสุดก็ทะเลาะกับบริษัทออแกไนซ์  โดยพลอยได้ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อวันก่อนว่า ได้ถูกบริษัทออแกไนซ์โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊คต่อว่าเรื่อง “ดาราชั้นเลว” ทำเอาเจ้าตัวตอกกลับว่าคู่กรณีจ่ายค่าตัวให้ไม่ครบ จาก 150,000 บาท แต่จ่ายเช็คมาเพียง 145,000 บาท พร้อมกับเอ่ยชื่อบริษัทออแกไนซ์ที่มีเรื่องด้วยอย่างชัดเจนว่าเป็น “บริษัท แอบโซลูทฟอรยู จำกัด"

ออแกไนซ์แฉ!พลอยใช้บัตรฯคนอื่นรับเงินค่าตัว พลอย เฌอมาลย์

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ “อาร์ท กันต์ระพี วิไลภรณ์” ผู้บริหารบริษัท แอบโซลูทฟอยู จำกัด ต้องลุกออกมาชี้แจงว่า เฟซบุ๊คดังกล่าวไม่ใช่ของตน และตนไม่ใช่ผู้โพสต์ พลอยชกผิดฝาผิดตัวแล้ว  ควรจะต่อว่าเจ้าของเฟซบุ๊ค พร้อมกับบอกถึงสาเหตุที่จ่ายเงินไม่ครบ 150,000 บาท เพราะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย แฉกลับพลอยใช้บัตรประชาชนคนอื่นมารับเงินแทนก็เลยต้องหักภาษีแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่จริงๆ แล้วต้องหัก 5 เปอร์เซ็นต์ บอกถึงพลอยไม่ใช่แม่ชี ไม่ใช่นักการเมือง ไม่ใช่นายก ก็ควรจะทำตัวให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ดี

“เรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้บริษัทของอาร์ทเสียหาย เพราะมีการพูดว่าบริษัทของอาร์ทจ่ายเงินให้คุณพลอยไม่ครบตามที่ตกลงกันเอาไว้ แต่จริงๆ แล้วอาร์ทอยากจะอธิบายให้ฟังว่า ตอนที่คุยกับผู้จัดการของคุณพลอยไม่มีการตกลงกันว่าไม่ให้หักภาษี ณ ที่จ่าย เราตกกันไว้ว่าค่าตัวของพลอย 150,000 บาท พลอยจะต้องแต่งหน้าทำผมมาเราตกลงกันแค่นี้ครับ ซึ่งถ้ามีการระบุว่าไม่ให้หักภาษีผมก็จะได้โปะให้เขาไปแต่นี่เขาไม่ได้แจ้งมา"

“แล้วทีนี้มันมีการไปโพสต์ในเฟซบุ๊คว่า ผู้จัดการคุณพลอยโกงค่าตัวพลอย 30,000 บาท ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่เฟซบุ๊คของอาร์ท อาร์ทไม่ได้เป็นคนโพสต์ อาร์ทไม่ได้ทำอะไรใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นแล้วการที่ไปตีประเด็นเนี่ย เขาก็ควรที่จะไปด่าคนที่เขียนเฟซบุ๊ค แต่จริงๆ แล้วคนที่โพสต์ก็ไม่ได้มีการเอ่ยถึงชื่อเขานะครับ แต่คุณพลอยกลับลุกขึ้นมาพาดพิงอาร์ทในเรื่องของการหักภาษี หาว่าอาร์ทจ่ายค่าของคุณพลอยไม่ครบ มันทำให้อาร์ทถูกมองว่าไม่มีเครดิตตรงนี้แหละคือประเด็น ในบทสัมภาษณ์เขายังมีการพูดถึงชื่อบริษัทผมเอง และบอกให้โคสท์ไปเต็มๆ กับชื่อบริษัทแอบโซลูทฟอยู จำกัด”

“อีกประเด็นหนึ่งที่หลายๆ คนโพสต์ข้อความสงสัยกันว่า ทำไมบริษัทของอาร์ทหักภาษี ณ ที่จ่ายแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ ทำไมไม่หัก 5 เปอร์เซ็นต์ ตรงนี้เป็นเพราะว่าเขาใช้บัตรประชาชนของคนอื่นซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ชื่อทวีสิน(ขอสงวนนามสกุล)ซึ่งโดยปกติแล้วเวลาจ้างนักแสดงจะต้องโดนหักภาษี ณ ที่จ่าย 5 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเป็นบุคคลอื่นที่เราจ้างบริการจะหักแค่ 3 เปอร์เซ็นต์”

“ทีนี้ในกรณีของคุณพลอยเขาส่งบัตรประชาชนผู้อื่นมาให้อาร์ท เราก็เลยจำเป็นต้องหักแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ พลอยเขาคงคาดไม่ถึงเรื่องนี้ก็เลยโพล่งออกมาเรื่องหักค่าภาษี เราจ้างพลอย 150,000 บาท เราหักภาษีไป 4,500 เราจ้างคนอื่นแค่ 1,000 บาทเราก็ต้องหักภาษีไว้เหมือนกันนะครับ”

“ซึ่งตรงนี้เราทำถูกต้องตามหลักกฎหมาย แต่ทางคุณพลอยและผู้จัดการบอกว่า ค่าตัวพลอย 150,000 นี่คือสากลนะ คำว่าสากลอาร์ทไม่เข้าใจนะครับว่าคืออะไร เพราะถ้า 150,000 บาทมันต้องหักภาษีด้วย แต่ถ้าคุณจะรับเน็ตๆ ไม่ให้หักก็ต้องแจ้งมาก่อน ผมหักมานี่ผมก็ไม่ได้เอามาใช้เองนะ ผมก็ต้องส่งคืนให้ภาษี ผมอยากจะอธิบายตรงนี้ให้ทุกคนเข้าใจ”

“แต่สิ่งที่ผมโกรธมากก็คือ เฟซบุ๊คนั้นมันไม่ใช่ของผม ผมไม่ได้เป็นคนโพสต์แต่คุณกลับมาพาดพิงบริษัทผม คนที่โพสต์นี่ไม่ใช่พนักงานในบริษัทของผมนะครับ ที่ข่าวบอกว่าพนักงานออร์แกไนซ์เซอร์ออกมาแฉไม่ใช่(แล้วเขารู้เรื่องได้ไง) ที่เขารู้เรื่องก็เพราะว่า ผมไปว่าจ้างให้เขาออกแบบชุดให้ ซึ่งตอนแรกเขารับรู้ว่าคุณพลอยไม่ยอมใส่ชุดผมก็เล่าให้เล่าให้เขาฟัง เรื่องราวทั้งหมดก็มีเท่านี้”

“เรื่องที่เขาโพสต์มานี่มันมีทั้งส่วนที่ถูกต้องและไม่ถูกต้อง ที่ไม่ถูกต้องก็คือเรื่องเงินค่าตัวพลอย 120,000 แล้วผู้จัดการมาบวกเงินค่าหน้าค่าผมอีก 30,000 บาทอันนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับงานผมเลย เราตกลงกันที่ 150,000 บาทพร้อมหน้าผมตั้งแต่ต้น”

“พอวันงานที่มีฉุกละหุกเรื่องคุณพลอยไม่ยอมใส่ชุดก็มีการคุยต่อรองกันไปต่อรองกันมา ทางคุณพลอยก็มาแบบหน้าผมก็ไม่มีให้แล้วยังจะมาแบบนี้อีก จริงๆ เราตกลงกันแล้วกับผู้จัดการของเขาว่า 150,000 หน้าผมต้องพร้อมมาเลยนะ แต่ผมกลับถูกตำหนิว่าไม่มีหน้าผมให้เขาเรื่องชุดที่มีปัญหาก็เพราะว่า เขาไปถ่ายแฟชั่นก่อนมางานผม แล้วเขาทำผมเซอร์ๆ ชุดที่ผมเตรียมไว้ให้ไม่เข้ากับผมของเขา ผมก็ไม่ว่าอะไรให้งานมันผ่านไปก่อน”

“พองานจบอาร์ทก็ให้ผู้ช่วยเอาเช็คไปให้แล้วเขาโวยวายขึ้นมา ผู้ช่วยอาร์ทก็เลยโทรหาอาร์ทว่า คุณพลอยไม่พอใจให้พี่อาร์ทมาหลังเวทีหน่อย อาร์ทก็ไปที่หลังเวทีพลอยขอบคุณมากนะที่มางานวันนี้ เขาก็พูดมาเลยว่า พี่...พี่ไม่เข้าใจเหรอคำว่า สากล สากลก็คือการไม่หักภาษี เราก็พี่ไม่รู้จริงๆ พี่รู้แต่ว่าพี่ทำตามกฎหมายเราก็พูดกันแค่นี้ พลอยก็บอกว่า ถ้าเป็นคนอื่นพลอยบีบคอไปแล้วนะพี่ แต่ถ้าเป็นพี่เอาอย่างนี้ก็แล้วกันพลอยไม่ถือสาหาความ คือถ้าเขาจะเอาแบบนั้นเขาก็ควรจะแจ้งตั้งแต่ตอนที่คุยงานผมก็เข้าใจ แต่จริงๆ แล้วคุณไม่ใช่คนที่ถูกหักภาษีเลย คนที่ถูกหักก็คือคนที่เอาบัตรประชาชนเขามาให้ผม”

“มาถึงตอนนี้คุณมีการพูดว่า ช่วยลงด้วยนะคะบริษัทแอฟโซลูทฟอร์ยู.... ผมถึงต้องออกมาปกป้องบริษัทของผมเหมือนกัน กับสิ่งที่เขาบอกว่า เขาอยู่บนที่สว่างแล้วผมไปทำร้ายเขา ซึ่งจริงๆ ผมไม่ได้ทำร้ายอะไรเขาเลย เพราะอันนั้นมันไม่ใช่เฟซบุ๊คของ ผมไม่ได้เป็นคนโพสต์ (เป็นเฟซบุ๊คของคนที่ทำเสื้อผ้าในงานใช่หรือไม่) อันนี้ผมขอไม่บอกก็แล้วกันถ้าเข้าไปดูก็คงพอจะเดาออกได้”

“แล้วในเฟซบุคเนี่ยเขาก็ไม่ได้ระบุเลยว่าเป็นดาราคนไหน แต่เขากลับระบุชื่อบริษัทผม ซึ่งความจริงเป็นยังไงคุณพลอยรู้ดีอยู่แก่ใจ แต่การมาโจมตีบริษัทผมให้จมดิ่งแบบนี้ผมถือว่าไม่แฟร์ การจ่ายค่าจ้างผมจ่ายให้ถูกต้องตามหลักกฎหมาย จ่ายให้ทันทีหลังเลิกงาน เงิน 150,000 บาทไม่ใช่น้อยๆ ผมเองกว่าจะหาเงินได้เท่านี้ก็หายากนะครับแต่เขาเดินไม่กี่ก้าวเขาก็ได้แล้ว”

“เขาบอกว่าผมไปทำร้ายเขา ผมก็อยากจะไปถามว่า ผมไปทำร้ายเขาตรงไหนเพราะไม่ใช่เฟซบุคผม เขาบอกว่าทะเลาะกับเขาเพราะผมอยากเป็นข่าว ผมไม่อยากเป็นข่าวหรอกครับ ถ้าเป็นข่าวผมอยากเป็นข่าวดีๆ ผมไม่อยากเป็นข่าวแบบนี้หรอกบริษัทผมเสียหาย”

“ในตอนนี้ผมก็ได้ปรึกษาทนายแล้วว่าควรจะดำเนินการยังไง แต่ในเรื่องของคดีผมยังไม่สามารถบอกได้ ต้องดูก่อนว่าเขาจะให้สัมภาษณ์พาดพิงถึงผมอีกหรือไม่ ผมยินดีที่จะจบเรื่องได้ถ้าคุณพลอยออกมาขอโทษบริษัทผม มันเป็นเรื่องของประชาชนจะต้องเสียภาษี คุณพลอยจะมาบอกว่า หลักสากลของพลอยคือ 150,000 มันไม่ได้ผมทำตามกฎหมาย ผมทำถูกต้อง”

“ก็คิดว่าคงไม่ขอโทษหรอกครับ แต่ที่ผมออกมานี่ไม่ใช่ว่าผมอยากจะดังแต่อยากจะให้เป็นอุทาหรณ์ว่า คุณเป็นดาราใหญ่ คุณเป็นซูเปอร์สตาร์ที่คนชื่นชอบ เป็นคนที่ผมเลือกมาเดินแบบฟินาเล่ ประชาชนให้โอกาสดาราคนนี้ ผมให้โอกาสดาราคนนี้เอาเงินมาให้ดาราคนนี้ นั่นหมายความว่า ผมเป็นนายจ้างเขา ณ ช่วงเวลานั้น แต่กลับกลายเป็นว่า การจัดงานอีเว้นต์เมื่อได้ดาราคนนี้มาเขากลับเหวี่ยงวีนตามสไตล์ ผมมีช่างหน้าช่างผมประจำงานไว้ให้เขาก็ไม่แต่ง เพราะเขาต้องมีช่างหน้าช่างผมประจำตัวเขาซึ่งเขาอาจจะห่วงลุคส์ของเขา”

“อย่างเรื่องชุดนี่ผมมีให้เขา ถ้าเขาไม่ยอมรับเขาก็ต้องบอกว่า พี่เดี๋ยวหนูเตรียมชุดเองแบบนี้โอเค แต่พอถึงจะวันงานกลับมีปัญหา ผมส่งรูปไปให้ดูทางโทรศัพท์เขาบอกว่าเชย ผมก็เลยบอกดีไซน์เนอร์ให้เขาหาชุดใหม่มาให้ และผมก็สำรองด้วยการไปหาชุดของที่อื่นมาไว้อีก”

“พอวันงานเขามีถ่ายแบบตอนเช้า ผมก็ให้เด็กเอาชุดทั้งหมดไปให้ดู ซึ่งเขานัดไว้ 11 โมง เด็กผมก็ไปรอเขาตั้งแต่ 10.45 ไปถึงผู้จัดการบอกให้เด็กผมรอเพราะว่าไปซื้อข้าวโพดให้พลอยอยู่ กว่าผู้จัดการจะกลับเข้ามาก็บ่ายโมงกว่า กว่าจะได้ลองก็บ่ายสองกว่าๆ เกือบบ่ายสามพลอยถึงได้ออกมาฟิตติ้ง เขาก็ฟิตติ้งไปแค่ชุดเดียว และเขาก็เลือกชุดที่ผมอยากให้ใส่”

“ก็เข้าใจนะครับว่าเป็นซูเปอร์สตาร์คุณดัง แต่ก็ต้องเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นที่ทำงานเหมือนกัน ซูเปอร์สตาร์ก็เป็นคน ผมก็เป็นคน ลูกน้องผมก็เป็น คือแบบนี้มันหมายความว่าไง คุณเกิดมาจากประชาชน ประชาชนตั้งคุณให้เป็นซูเปอร์สตาร์ได้เพราะคะแนนนิยมที่คุณทำเอาไว้ คุณก็ควรเป็นแบบอย่างที่ดี คุณเคยบอกเอาไว้ว่า พลอยไม่ใช่แม่ชี พลอยไม่ใช่นักการเมือง พลอยไม่ใช่นายกฯ พลอยไม่ต้องทำตัวดีก็ได้ แต่อย่างน้อยความมีสามัญสำนึกเนี่ยเป็นมนุษย์ที่ทำงานในวงการร่วมกัน ก็ควรจะเกรงใจในการทำงานซึ่งกันและกัน”

“เรื่องความพร้อมในการร่วมงานนะครับ คุณพลอยมาถึงราวๆ 5 โมงเย็น ผมเห็นพลอยมาก็พุ่งเข้าไปหาพลอย สวัสดีครับพลอยพี่อาร์ตเอง พลอยไปบล็อกกิ้งก่อนไหม(กำหนดจุดที่จะต้องโพสต์) เพราะงานเราจะเริ่มประมาณ 6 โมงกว่าๆ นักแสดงจะต้องมาบล็อกกิ้งก่อน พลอยบอกว่า พลอยยังไม่ได้กินข้าวเลยค่ะ พลอยทำงานมาตั้งแต่เช้าแล้ว ผมก็โอเคปล่อยพลอยไปกินข้าว”

“กลับมาอีกทีก็คืองานจะเริ่มแล้ว ถามว่าผมบล็อกกิ้งพลอยได้ไหม ผมบล็อกกิ้งไม่ได้ก็ได้แต่บอกว่ามันมี 5 จุดนะบนเวที ก็โอเคครับงานก็ผ่านราบรื่นไปด้วยดีพลอยเขามืออาชีพอันนี้ก็ต้องยกย่องเขา เขาไม่มาบล็อกกิ้งแต่ก็เดินได้ตามจุดอาจจะมีผิดพลาดบ้างเล็กๆ น้อยก็เป็นธรรมดาของการทำอีเว้นต์”

“เรื่องชุดก็เหมือนกันเขาบอกว่า มันไม่เข้ากับทรงผมของเขาที่เซอร์ๆ ซึ่งเป็นทรงผมที่เขาทำมาจากงานถ่ายแบบเขาจะขอเปลี่ยนชุด ผมก็โอเคต้องเปลี่ยนธีมงานให้เขา ผมก็เอาชุดที่เขาจะใส่ให้ซึ่งชุดนั้นเขายังไม่ได้ลอง แล้วก็เอาชุดอื่นๆ ให้ด้วยเผื่อมันไม่พอดี ก็จัดห้องให้เขาที่ชั้น 14 และผมก็ให้ช่างหน้าช่างผมไปสแตนบายรอ เขาก็บอกว่าเขาไม่เอา แล้วผมก็ให้ผู้ช่วยผมไปนั่งเฝ้าเขาอยู่เพื่อรออำนวยความสะดวก เพราะเขาเป็นดาวของงานี้ผมก็ต้องให้เกียรติเขาเต็มที่”

“ทีนี้ผมเขายุ่งนิดหน่อยช่างผมของผมก็นำเสนอให้ว่า ช่วยดูให้ไหม เขาก็บอกว่า พี่เป็นช่างผมเหรอไดร์ผมเป็นไหม ช่างผมก็บอกไปว่า พี่เป็นช่างผมค่ะคุณน้อง พอหลังเลิกงานเขาก็มาเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง ส่วนเรื่องเสื้อผ้าปรากฏว่าชุดที่พลอยเลือกพลอยใส่ไม่ได้สุดท้ายก็ต้องกลับมาใส่ชุดที่ผมเลือกให้อยู่ดี ซึ่งผมก็เข้าใจเขานะครับ เพราะงานวันนั้นมันเป็นงานประกวดหาพรีเซ็นเตอร์ก็จะมีแต่เด็กๆ เขาก็อาจจะมีความกังวลกลัวดับ ก็เลยอยากจะทำผมสบายๆ ดูเด็กๆ หน่อย”

“เราเป็นคนในวงการเดียวกันนะครับแต่สื่อกระแสทุกอย่างมันเหมือนกับว่า ผมเป็นคนผิด เป็นคนแย่ บริษัทผมเป็นคนไม่ดี มันเสียหายมาก เขาพูดได้ยังไง ผมไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียง ผมไม่ใช่คนดัง ผมต้องทำยังไงพี่ ผมก็ต้องออกมาเรียกร้องสิทธิ์ของผมเหมือนกันว่า จริงๆ แล้วคุณควรจะฟังก่อนนะว่าเรื่องราวเป็นยังไง”

“ปัญหาเรื่องนี้มันเกิดจากเฟซบุคเขาก็ควรจะไปดูเฟซบุคว่า ผู้จัดการดาราชั้นเลวนี่มันเฟซบุคของผมหรือเปล่า เขาต้องรู้จักผมนะครับ เพราะในเฟซบุคนั่นมันไม่ใช่หน้าผมมันผิดฝาผิดตัว และคนที่เขียนเขาก็ไม่ได้เอ่ยชื่อหรือต่อว่าคุณพลอยโดยตรงปกติมันก็มีการเขียนอย่างนี้มากมายอยู่แล้ว นาง ก.นาง ข. นาง ง. พอนักข่าวไปเห็นไปถามเขาก็ตอบปุ๊บมันก็เลยเป็นเรื่อง ผมก็แนะนำให้คุณพลอยไปพูดกับทางนั้นดีกว่าเพราะมันไม่ใช่เฟซบุคผม”

ที่ผ่านมา “พลอย” เคยมีข่าวทะเลาะกับหลายๆ คน ตรงนี้ “อาร์ต” บอกว่าทราบดี แต่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง รู้สึกผิดหวังเพราะเคยมองพลอยเป็นไอดอล

“ผมก็ทราบมาว่าเขามีชื่อเสียงทางด้านนี้อยู่แล้ว ผมก็ไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้ เพราะผมก็เคยร่วมงานถ่ายแบบกับน้องเขามาเมื่อปีสองปีนี่แหละ เขาก็เป็นคนนารักดี ตอนหลังเขามาเล่นเป็นแม่หญิงเรไรผมก็ยิ่งชอบเขาเข้าไปใหญ่ กลับบ้านนี่ผมต้องรีบเปิดดูละครเขานะ ชอบอ่ะ ไอดอลอ่ะ แต่พอเจอแบบนี้ก็ผิดหวัง”

“เหตุการณ์ครั้งนี้กระทบกับผมมาก ก็ไม่รู้จะกระทบไปถึงงานประจำผมหรือเปล่า ลูกค้าก็โทรมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ครอบครัวก็ถาม ผมก็ไม่รู้ว่าต่อไปลูกค้าจะจ้างผมไหม ดาราเขาจะร่วมงานกับผมไหม พิธีกรเขาจะมางานให้ผมไหม เพราะมีข่าวว่ามีปัญหาเรื่องเงิน ทำให้ผมต้องออกมาอธิบายและให้ข่าว โดยวันนี้ผมจะจัดแถลงข่าวตอน 2 ทุ่มที่ร้านเซต้าอาร์ซีเอ ก็อาจจะดึกซักหน่อยเพราะผมมีงานก่อนหน้านี้”

“จริงๆ วันนี้ก็มีงานของคุณพลอยนะครับ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะให้สัมภาษณ์อะไร ผมก็เตรียมตัวรับกับสถานการณ์เต็มที่ ผมปรึกษากับทนายเรียบร้อยแล้ว ถ้ามีปัญหาก็คงจะใช้กฎหมายตัดสินเพราะผมคิดว่าคุณพลอยคงจะไม่จบกับผมง่ายๆ ที่ผ่านมาผมไม่เคยไปว่าเขาหรือไปให้ข่าว แต่เขาออกมาให้สัมภาษณ์รายการทีวี หนังสือพิมพ์ สื่อออนไลน์ ทั่วไปหมดเลยเอ่ยชื่อบริษัทผม”

“มันก็เป็นไปได้ครับว่าเขาอาจจะเข้าใจผิดก็เลยมาว่าผม แต่คุณพลอยก็ควรจะดูด้วยนะครับว่าเป็นเฟซบุคของใครและก็ไปว่าให้ถูกประเด็น ถ้าอยากจะว่าผม มาว่าผมเลยผมพร้อม เขาไม่โทรมาถามผมซักคำว่าผมโพสต์หรือเปล่า และถ้าจะว่าคนที่เขียนเฟซบุคก็ไปหาเขาเลย แต่อย่าพาดพิงถึงบริษัทผม ส่วนที่เขาบอกว่าจะไม่ร่วมงานด้วยแล้ว ผมก็ไม่คิดว่าจะร่วมงานกับเขาอยู่แล้ว ที่เขาบอกว่า ผมเป็นเด็กให้ไปเล่นกับเด็กข้างบ้านดีกว่า แต่ผมว่าเขาทำแบบนี้เขาเด็กมากกว่า ผมก็อยู่ในที่ของผมไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียง ผมอยู่ในที่มืดๆ เขาอยู่ในที่สว่าง แต่เขากลับใช้ที่สว่างของเขาเนี่ยมาทำร้ายผม เขาชกผิดหน้าผิดตัวครับและมันบังเอิญมาเฉี่ยวผม และมันก็โดนดั้งจมูกผม ผมก็เลยต้องมาหาหมดก็คือพี่ๆ นักข่าวนี่แหละครับ”