posttoday

สวย ‘เร่งด่วน’ เทรนด์ฮิตความงามดารา!

13 มีนาคม 2555

วงการบันเทิงมักมีค่านิยมดารานักแสดงต้องสวย ต้องหล่อแบบครบเครื่อง

โดย...วราภรณ์ &<2288;

วงการบันเทิงมักมีค่านิยมดารานักแสดงต้องสวย ต้องหล่อแบบครบเครื่อง เพราะต้องขายรูปร่างหน้าตา จึงจำเป็นต้องพึ่งนวัตกรรมความงามสารพัด

มาอัพเดตเทรนด์ดารา เขานิยมสวยหล่อด้วยวิธีไหนกันบ้าง...

ต้องใบหน้าเล็กเรียว

“ตอนนี้คนฮิตฉีดปรับรูปหน้าให้เรียวสวย ถ้าหน้าเรียวสวยก็จะดูผอม เรียกว่าทำไลน์โบนที่คางด้วยการลดปริมาณไขมันบริเวณใต้คางลง หน้าก็จะเรียว มีเส้นที่คมชัด สวยงาม นิยมทำทั้งหญิงและชาย” คุณหมอนัท-นพ.ณัฐพล พิณนิมิตร ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าและริ้วรอย รวมทั้งโรคผิวหนัง แห่งเมดิวิซาจ คลินิก ทองหล่อ 16 บอกถึงกระแสฮิตของดารา

การปรับหน้าให้เรียวเล็กเป็นรูปวีเชฟด้วยการฉีดโบทอกซ์ให้หน้าเรียว และฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มร่องลึกบริเวณใต้ตา---สารเหล่านี้พัฒนามาเรื่อยๆ จนปัจจุบันเชื่อกันว่าเห็นผลทันทีที่ฉีด บวกกับฝีมือของเหล่าคุณหมอที่จะดูว่ารูปหน้านั้นฉีดตรงไหนจึงจะมีความสวยงามเหมาะกับคนคนนั้น อีกทั้งเมื่อฉีดไปแล้วจะอยู่ได้นาน 6 เดือน ด้วยเห็นผลเร็วนี่เอง คนจึงนิยมเพราะไลฟ์สไตล์ของคนเปลี่ยน รีบเร่งมากขึ้น อีกทั้งใจร้อน อยากเห็นผลเร็วๆ จึงทำให้คนยุคนี้ไม่นิยมทำศัลยกรรม ซึ่งต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน 6 เดือน -1 ปี หน้าจึงจะเข้ารูป ซึ่งถ้าไม่สวยถูกใจต้องแก้ไขกันยกใหญ่ แต่ข้อดีคือสวยได้ถาวร แต่สำหรับการฉีดโบทอกซ์กับฟิลเลอร์ถ้าสวยไม่ถูกใจก็สามารถแก้ไขได้ทันที ทันใจ คนจึงติด เรียกว่าสวยแบบเร่งด่วน ฉีดปุ๊บแล้วเห็นผลเลย

สวย ‘เร่งด่วน’ เทรนด์ฮิตความงามดารา!

เรือนร่างต้องผอมเพรียวเท่านั้น

โดยเฉพาะดารานิยมเข้าคอร์สลดน้ำหนักกันเยอะ ถ้ารับประทานอาหารที่คุณหมอเตรียมให้วันละ 5 มื้อต่อวัน ซึ่งมีสารอาหารครบถ้วน ใน 1 อาทิตย์ก็จะสามารถลดน้ำหนักได้ประมาณ 2-3 กิโลกรัม โดยไม่จำเป็นต้องออกกำลังกาย รวมทั้งนิยมมาบำรุงผิวหน้าให้นุ่มชุ่มชื้น ลูกค้าประจำระดับนักแสดงของคุณหมอ ได้แก่ นาเดีย นิมิตรวานิช แป้ง-อรจิรา แหลมวิไล วุ้นเส้น-วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ฯลฯ

“อย่างดาราที่จะไปถ่ายชุดว่ายน้ำ เขาต้องใช้เวลาในการดูแลตัวเองอย่างน้อย 1-3 เดือน ส่วนใหญ่นิยมมาทำเลเซอร์กำจัดขนบิกินีไลน์ ทำเลเซอร์ลดเซลลูไลต์ ถ้าไม่ดูแลเวลาเข้ากล้องหรือกระทบกับแสงแฟลชก็จะยิ่งเห็นชัด ทำเลเซอร์กำจัดเซลลูไลท์นิยมทำทั้งขา แขน น่อง สะโพกทำหมด ที่ดาราต้องแคร์เรื่องความสวยความงาม เพราะเขาขายหน้าตาและรูปร่าง หากไม่ดูแลตัวเองดี ๆ ก็จะไม่มีใครจ้างทำงาน ซึ่งหมายถึงชื่อเสียงและรายได้ ดาราจึงต้องดูแลตัวเองอย่างหนัก แต่ทั้งนี้เขาต้องมีพื้นฐานที่ดีด้วย เช่น รูปร่างหน้าตาต้องสมบูรณ์ระดับหนึ่ง และมาใช้วิวัฒนาการเข้าช่วย ประกอบกับต้องหมั่นดูแลตัวเองทางด้านความงาม ก็จะสวยได้นาน”

ในวันข้างหน้าวิวัฒนาการด้านความงามจะพัฒนาไปขนาดไหน คุณหมอนัท บอกว่า อาจจะมีสารฟิลเลอร์ที่พัฒนาใหม่ๆ ที่เห็นผลดีกว่าเก่า ซึ่งราคาก็จะแพงมาก ดารานิยมของใหม่ก็จะมาลอง ดังนั้นคอร์สก็จะสูง เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่ต้องลงทุน เพราะมันหมายถึงอาชีพของนักแสดงคนนั้นๆด้วยวิวัฒนาการของสารฟิลเลอร์และโบท็อกซ์ก็จะมีพัฒนาไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดนิ่ง ซึ่งตอนนี้ก็คิดว่าพัฒนาสารไปที่สุดแล้ว คือ ทำแล้วเห็นผลเร็ว นักแสดงในสังกัดของผู้จัดการส่วนตัวดาราชื่อดังก็นิยมเสริมสวยหล่อด้วยวิธีนี้ ซึ่งก็ได้ผล

“อีกหน่อยวิวัฒนาการของการทำสวย คือ การฉีดสารเข้าไปเพิ่มขนาดของหน้าอกให้สวยถูกใจมากขึ้น โดยไม่ต้องเสริมซิลิโคน ซึ่งการฉีดเราจะสามารถเลือกได้ว่าจะเพิ่มปริมาณความใหญ่ตรงไหน สามารถเลือกได้ตามใจ แต่เมืองไทยยังไม่ผ่าน อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) เพราะต้องใช้ระยะเวลานาน แต่ที่เกาหลีกับญี่ปุ่นผู้หญิงนิยมทำกันแล้ว แต่ที่ยุโรปได้รับความนิยมมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ถ้ามีอะไรใหม่ ๆ ออกมา ในฐานะ นักแสดงคือผู้นำเทรนด์ความงาม มีสารหรือวิทยาการใหม่ ๆ มา ดาราก็จะอยากลองก่อน แต่ราคาก็จะแพงไปด้วย แต่นักแสดงยอมเพราะจะได้สวยก่อน “ คุณหมอนัท เล่า

นวัตกรรมความงามยุค 2012 สุดฮอต

พญ.นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ เอเพ็กซ์ โปรฟาวด์ บิวตี้ กูรูด้านความงามอัพเดตนวัตกรรมเครื่องมือทางการแพทย์ที่มาแรงเป็นที่นิยมทั้งดาราและคนในวงสังคม เห็นจะเป็นเรื่อง “ยกกระชับหน้า” เพราะใครๆ ก็ไม่อยากดูแก่ พญ.นันทภัทร์ บอกว่า เราโชคดีที่เทคโนโลยีพวกนวัตกรรมเครื่องมือทางการแพทย์ก้าวไกลไปมาก จึงช่วยแก้ปัญหาความกังวลของคนไข้หลากรูปแบบ โดยเฉพาะไม่เพียงยกกระชับลึกสุดโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ยังสามารถสร้างผิวใหม่ได้เรียบเนียน ซึ่งเป็นวิทยาการใหม่ล่าสุด

ยกกระชับหน้าด้วยไหม

“ยกกระชับหน้าด้วยไหม” พญ.นันทภัทร์ บอกว่า กำลังมาแรงแซงทางโค้ง ซึ่งเหล่านักแสดงชื่อดังของเมืองไทย รวมทั้งบรรดาเซเลบริตีนิยมทำกันไม่น้อยไปกว่าทำหน้าเรียวเล็กด้วยโบทอกซ์ ซึ่งยกกระชับหน้าด้วยไหมแบ่งออกหลายประเภท เช่น ไหม Aptos ซึ่งมีมาแล้วกว่า 10 ปี วิวัฒนาการของไหมถัดมา คือคิดค้น “ไหมทอง” เพราะคุณสมบัติทองคำ คือ ทำให้ผิวกระจ่างใสได้ ต่อมามีการเพิ่มขนาดไหม เพื่อให้เกิดการยกกระชับผิวด้วย เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไป ร่างกายก็จะสร้างคอลลาเจนใหม่ในบริเวณนั้น ทำให้ผิวยกขึ้น ตึงขึ้น ข้อควรระวังก็คือ หลังทำควรจะต้องเลี่ยงทรีทเมนต์ที่ให้ความร้อนต่างๆ ที่ใบหน้า หรือทำด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ นอกจากนั้นการร้อยเส้นไหมทองคำอาจจะมีปัญหาสำหรับผู้ที่แพ้โลหะได้ จึงต้องทำด้วยความระมัดระวังและโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น นอกจากนี้ ไหมทองจะไม่สามารถย่อยสลายได้ แม้ทำไปนานแล้วก็ตาม ในปัจจุบันยังไม่มีผลการศึกษาถึงผลกระทบในระยะยาว

ไหมละลาย...เทรนด์ใหม่มาแรง

“ไหมละลาย” มีการพัฒนาเทคนิคกันในหลายประเทศ ทั้งอเมริกา ยุโรป และเกาหลี ชื่อก็บอกแล้วว่ามันจะย่อยสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ต่างกับสองแบบแรก คือไม่ได้ใช้ไหมเพื่อการยกผิว แต่เป็นการร้อยไหมเส้นเล็กๆ จำนวนมากเป็นร้อยเส้นเข้าสู่ชั้นผิวหนัง ไหมจะไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ก็จะทำให้ผิวเกิดการกระชับตึงขึ้น ผิวดูเปล่งปลั่งขึ้น ผลอยู่ได้ชั่วคราวประมาณ 6 เดือน ข้อดีคือทำแล้วเห็นผลทันที แต่ก็มีข้อเสีย คือมีความเสี่ยง ถ้าร่างกายไม่รับเกิดแพ้ไหมขึ้นมาและไหมยังไม่ละลาย ร่างกายก็จะพยายามผลักมันออก ก็จะทำให้ผิวเป็นตุ่มหนองขึ้นได้ นอกจากนี้ การเอาเข็มจิ้มไหมลงไปเป็นร้อยครั้งก็จะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อได้มากกว่า ต้องเลือกทำกับแพทย์ที่มีความชำนาญเท่านั้นค่ะ