พลอยชมพู อาหมวยธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

โดย...จุฑารัตน์ หัสจุมพล

จากนิยายออนไลน์ชื่อดังบนเว็บไซต์ เด็กดี ดอทคอม ที่มีคนคลิกเข้าไปอ่านกว่าหนึ่งล้านสองแสนครั้ง กลายเป็นนวนิยาย “อาหมวยออนไลน์” ซึ่งมีภาคต่อถึง 3 เล่ม (และยังไม่จบ) ใครจะไปเชื่อว่านี่เป็นนิยายเรื่องแรกในชีวิตของผู้เขียน

“พลอยชมพู” คือ นามปากกาของสาวหน้าหมวย “หทัยชนก อภิโกมลกร” หรือที่นักศึกษาเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รู้จักกันดีในชื่อ อาจารย์นก แต่ตอนนี้พักอาชีพคุณครูหนีไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษโน่น

อาหมวยออนไลน์ เป็นนิยายแฟนตาซีเรื่องราวของอาชื่อ หมวย กับหลานชายชื่อ วิน ที่จับพลัดจับผลูมาเล่นเกมออนไลน์ด้วยกัน นำมาซึ่งเรื่องราวมากมายที่ทั้งอาและหลานจะต้องช่วยกันฝ่าฟันไปด้วยกัน ไม่เพียงแต่ฉากตระการตาแฟนตาซีในเกมออนไลน์ เรายังจะพบความรักความห่วงใยระหว่างอาสาวและหลานชายที่บางทีก็ซึ้งใจจนบอกไม่ถูก

พลอยชมพู เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเขียนให้ฟังว่า “เริ่มมาจากการอ่านค่ะ ปกติจะเป็นคนที่อ่านหนังสือเป็นประจำ อ่านทุกเรื่องทุกแนว นิยาย เรื่องสั้น กำลังภายในอ่านหมด แต่ตอนเรียนที่ต่างประเทศไม่มีนิยายอ่าน บ่นกับเพื่อนเสียจนเขาแนะนำให้ไปหาอ่านในอินเทอร์เน็ตเอา ก็เลยได้เจอกับเว็บไซต์เด็กดี อ่านไปอ่านมาชักอยากจะเขียนบ้าง เลยเกิดเป็นอาหมวยออนไลน์ขึ้นมา ซึ่งช่วงที่เริ่มเขียนก็ไม่ได้วางโครงเรื่องอะไร เป็นนักหัดเขียนมือใหม่จริงๆ มีแต่จินตนาการและประสบการณ์ในการเล่นเกมนิดๆ หน่อยๆ แต่ว่าเราอยากเล่าเลยลงมือเขียน มาเริ่มวางโครงเรื่องตอนผ่านไปสักสี่สิบกว่าตอน ค่อนเล่มหนึ่งเข้าไปแล้ว เพราะกิจกรรมประกวดนี่แหละทำให้มีเสียงเชียร์และจำนวนคนติดตามมีเยอะ”

เมื่อพลอยชมพูเริ่มเขียนงานในปี 2552 เป็นเวลาเดียวกับที่เว็บไซต์เด็กดีจัดประกวดรางวัลวอยซ์ ซึ่งเป็นรางวัลที่ให้นักอ่านเข้ามาโหวตนักเขียนและนิยายเรื่องที่ตัวเองชื่นชอบ กิจกรรมนี้ส่งผลทำให้นักอ่านมีโอกาสเห็นผลงานของนักเขียนหน้าใหม่มากขึ้น อาจารย์นก “อาหมวยออนไลน์” กลายเป็นนิยายที่มีคนอ่านเยอะเป็นอันดับต้นๆ ของเว็บไซต์เด็กดีเป็นต้นมาบอกว่า ที่กระแสดีก็เพราะไปอยู่ถูกที่ถูกเวลาพอดี ช่วงนี้งานเขียนแนวแฟนตาซีเป็นแนวที่มีคนอ่านค่อนข้างมาก

“งานเขียนในเว็บจะมีคนอ่านจำนวนมากที่อ่านและติดตามอย่างเงียบๆ ที่คนในเว็บเรียกว่า นักอ่านเงา นักอ่านเงาจะมีจำนวนมากกว่าคนที่ให้ความเห็นหลายเท่า คนเขียนจึงประเมินไม่ออกว่ามีคนอ่านงานของตัวเองแค่ไหน ชอบหรือเปล่า แต่กิจกรรมประกวดนี้คนอ่านสามารถบอกให้คนเขียนรู้ได้ว่าชอบเรื่องนี้ด้วยการคลิกโหวต มันทำให้คนเขียนรับรู้ได้อย่างเป็นรูปธรรม กำลังใจมันก็เลยไหลมาเทมา เรื่องนี้ใช้เวลาเขียนสองปีกว่า เพราะใช้เวลาว่างเขียนเท่านั้น ก็ต้องบอกว่ากระแสดีมาก เพราะมาจนปี 54 ก็ยังมีคนเข้ามาอ่านเรื่อยๆ มันเป็นเหมือนแรงบันดาลใจที่ทำให้เราอยากเขียนไปเรื่อยๆ”

ด้วยความสมจริงสมจัง ทำให้คนอ่านสงสัยว่าตัวละครที่โลดแล่นในนวนิยายเล่มนี้มีตัวตนจริงๆ หรือเปล่า อาจารย์นกคลายข้อสงสัยว่า บางคนก็มีอยู่จริงๆ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะว่าโครงเรื่องเป็นสไตล์แฟนตาซี ตัวละครส่วนใหญ่เป็นคนไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวเธอ แถมยังเล่าต่ออีกว่าเธอชอบเล่นเกมมาก มาห่างๆ จากวงการเกมไปก็ตอนที่เรียนหนัก เธอจึงต้องอาศัยเขียนนิยายเกมแก้คิดถึงเอา เห็นเธอว่าเธอคงหายคิดถึงไปอีกนาน เพราะคงมีต่ออีกหลายเล่ม แต่ขออุบไว้ก่อนว่ากี่เล่ม

นอกจาก “อาหมวยออนไลน์” แล้ว นกยังมีนิยายออนไลน์อีกหลายเรื่อง “โสด อินเดอะซิตี้” นิยายโรแมนติกคอมิดี และ “มตะ เกิดแล้วต้องตาย” นิยายแฟนตาซี ใครที่อยากอ่านก็ลองคลิกเข้าไปดูได้ที่ไดอารีของ “พลอยชมพู” ที่เว็บไซต์เด็กดีดอทคอม

เมื่อถามถึงความฝันต่อไป อาจารย์นกรีบตอบกลับมาทันควันเลยว่า อยากทำงานเขียนของเธอวันนี้ให้ดีที่สุด “ตอนนี้อยากพัฒนาการเขียนเพื่อให้คนอ่านได้เห็นภาพที่เราเห็น ได้ยินเสียงที่เราได้ยิน หรือรู้สึกในสิ่งที่เรารู้สึก ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ส่วนตัวแล้วชอบงานเขียนของนักเขียนชั้นครูหลายๆ คน อยากจะเขียนให้ได้แบบนั้นบ้าง แต่ที่อยากที่สุดคงเป็นการเขียนเรื่องสักเรื่องที่คนอ่านจะตีความไปได้แตกต่างกันตามประสบการณ์ของแต่ละคน เคยไหมค่ะ ที่อ่านนิยายบางเรื่องตอนเด็กแล้วสนุกไปตามประสา พอโตขึ้นหน่อยก็เห็นอะไรลึกซึ้งขึ้น แต่ก็ยังมีคนที่แก่กว่าเราบอกว่ามันยังมีมากกว่านี้อีก ถ้าทำได้คงรู้สึกว่าตัวเองเท่น่าดู”