“คุณแม่” ของ “ลูกดารา” ทำ (ได้ทุกอย่าง) เพราะรัก

มีลูกเป็น “ดารา” ใช่ว่าจะมีชีวิตง่ายๆ คุณแม่ทำ (ได้) ทุกอย่างก็เพราะรักทั้งนั้นล่ะค่า

โดย...เสน่ห์จันทน์ 

มีลูกเป็น “ดารา” ใช่ว่าจะมีชีวิตง่ายๆ คุณแม่ทำ (ได้) ทุกอย่างก็เพราะรักทั้งนั้นล่ะค่า อย่าหาว่าจุ้นจ้านเลย ลูกใคร ใครก็รัก อยากให้ได้ดี (ดี) กันทั้งนั้น จริงมั้ย...

‘แม่ขอ...แต่งตัวแต่พองาม’

มด ณปภัช + คุณแม่ภารดี วัฒนากมลวุฒิ

มด ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ เป็นศิลปินดูโอหญิงที่จัดว่าเซ็กซี่นัมเบอร์วันของวงการ สาวสวยซะขนาดนี้คุณแม่ต้องห่วงและหวงเป็นธรรมดา “เรื่องแต่งตัวแม่ก็ห่วง แต่มดเป็นศิลปินก็ต้องดูแลตัวเอง เพราะเป็นหน้าเป็นตา แต่ก็ต้องเหมาะสม ตามแฟชั่นได้ แต่ต้องถูกต้องตามกาลเทศะ ไม่น่าเกลียด เสื้อผ้าการแต่งตัว แม่ก็จะเห็นและรู้อยู่แล้วว่าไปงานแบบไหน หรือไปกับใคร ซึ่งจะช่วยดูแลเรื่องนี้ เวลาไปงานถ้ามีใส่สั้นไปบ้าง แต่มีทีมงานช่วยดูแลความปลอดภัย ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ชีวิตปกติมดก็จะตามแฟชั่นเหมือนเด็กทั่วไป ไม่หวือหวาอะไร” คุณแม่ภารดี กล่าว

การที่มีลูกสาวเข้ามาในวงการบันเทิงแม่ต้องดูแลมากกว่าปกติ เพราะลูกอยู่ในที่แจ้งทำอะไรต้องระวัง “อย่างที่รู้กันว่าวงการบันเทิงคือวงการมายา แม่ว่ามดยังขาดวุฒิภาวะในบางเรื่อง แม้จะโตแล้ว แต่ก็ยังเด็กในสายตาแม่ ต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกเยอะ เรื่องที่แม่ห่วงมาก จะเป็นเรื่องเพื่อนหรือคนที่เข้ามาหามด ช่วงแรก เราจะต้องมีเกราะป้องกันตัวเองเล็กน้อย แต่ไม่ใช่ระแวง เพราะมดทำงานตรงนี้ เวลามีปัญหาอะไรจะเป็นที่สนใจได้ง่าย จะคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้ ความเปราะบางในบางเรื่องมันมี แม่ก็จะคอยช่วยดู แม่อยากจะบอกไปถึงลูกทุกคนว่า คนที่สามารถไว้ใจ เชื่อใจได้มากที่สุด คือ พ่อแม่และครอบครัว เพราะพ่อแม่มีแต่ความรักและหวังดีให้ลูกทุกคนเสมอ”

‘อาหารการกิน (ดีๆ) ไม่มีขาด’

ฟาง-เฟย์ และคุณแม่วีนุกุล นีระสิงห์

มีลูกสาวสวยถึง 2 คน ซ้ำยังเกี่ยวก้อยกันเข้าวงการอีก คุณแม่ของ “เฟย์ พรปวีณ์ - ฟาง ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์” จึงต้องยิ่งดูแลเป็นพิเศษจัดหาของบำรุงร่างกายไม่ได้ขาด “แม่จะค่อนข้างเข้มงวดในเรื่องอาหารการกินของเขามากกว่า อยากให้เขาได้ทาน แล้วก็ได้รับในสิ่งที่ดี ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้น คุณแม่ก็ไม่ค่อยห่วงนะ เพราะตั้งแต่เล็กเขาก็อยู่ในความดูแลของคุณแม่ คุณพ่อมาโดยตลอด เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนมากๆ ไม่เคยทำให้คุณแม่ผิดหวัง

ที่แม่ห่วงเป็นพิเศษคือ ไม่อยากให้เขาทำงานหนัก เป็นห่วงเรื่องสุขภาพ เรื่องเวลาเรียน กลัวเขาทำงานและก็โหมเรียนไปด้วย ด้วยความที่เฟย์กับฟางเป็นเด็กขยัน รักเรียน เขาก็จะตั้งใจมากๆ เวลาเข้าช่วงสอบทีไร เราก็จะเห็นลูกเราเคร่งเครียด ไม่นอนเพราะอ่านหนังสือทั้งคืน ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ก็ต้องหายาบำรุงร่างกายมาให้เขา

‘ไม่ได้คุมแจ แค่เป็นห่วง’

ขวัญ อุษามณี + คุณแม่ปราณี ไวทยานนท์

เป็นคุณแม่ที่มีข่าวออกมาให้หนักใจอยู่เป็นระลอก ล่าสุดก็แรงถึงขั้นแตกหักทะเลาะกับลูกสาว ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์ จนถึงขั้นหนีออกจากบ้าน เปลี่ยนคนดูแลคิวงาน ทำเอาแม่ต้องตีอกผางๆ แหม!! มันจะเป็นไปได้อย่างไร

“ทุกวันนี้แม่ยังดูแลขวัญเหมือนเดิม ที่เป็นข่าวคงเป็นเพราะช่วงเปิดร้านไอศกรีม แม่ยุ่งกับร้านไม่มีเวลา ขวัญเลยให้เพื่อนมาช่วยดูแลให้ พอร้านลงตัวเราก็ดูแลกัน อยู่ด้วยกัน ไปไหนด้วยกันเหมือนเดิม ขวัญเข้าป่าไปถ่ายละครแม่ก็ลุยไปด้วย เราทำแบบนี้กันมาตั้งแต่เขายังเด็กๆ แต่เมื่อก่อนแม่อายุ 30 กว่าๆ ก็ตัวติดกันตลอด แต่ตอนนี้แม่อายุเพิ่มมากแล้ว ถ้ารู้สึกเหนื่อยก็ไม่ได้ไปด้วย”

ห่วงลูกและรถ ถึงขั้นติดเครื่องนำทางจีพีเอส โต้ไม่ใช่คุมแจสะกดรอยตามลูก “คู่เราเรียกได้ว่าเป็นแม่ลูกที่เสมอต้นเสมอปลาย ดูแลกันมาอย่างไรก็ดูแลกันอย่างนั้น ที่แม่ติดจีพีเอสเพื่อกันรถหาย รถเราราคาก็ไม่ได้ถูกๆ ไม่ได้จับผิดอะไรลูก หรืออย่างเราไปห้าง จำไม่ได้ว่าจอดรถชั้นไหนเครื่องนี้ก็ช่วยได้ ติดแล้วมีแต่ข้อดี ไม่ได้เสียหายอะไร ใครเขาก็ติดกันทั่ว แม่ไม่ได้ตามอะไรขวัญเพราะเขาจะทำอะไรก็บอกเราตลอด”

ส่วนกรณีเรื่องความรักของคุณลูก ที่เป็นเสมือนยาขมของคุณแม่... “ความรักเป็นเรื่องธรรมชาติ คนไหนไม่ใช่ผ่านมาก็ผ่านไป ขวัญก็มีผู้ชายเข้ามาคุยด้วยตลอด แม่ไม่ได้หวงอะไร คนโน้นไม่ใช่ก็ไม่ใช่ คนไหนคบได้คบไป ไม่ใช่ก็มีเป็นวัคซีน แต่คนที่เข้ามาทางแม่ แม่ชอบนะ เพราะให้เกียรติน้อง ให้เกียรติพ่อแม่ด้วย ชอบคนแบบนี้ นับถือความเป็นลูกผู้ชาย ไม่ใช่แบบมาแอบชอบแล้วก็พูดคุยกันไป คนแบบนั้นแม่ก็ไม่อยากรับรู้ด้วย”

‘อยากให้เก้าภูมิใจในตัวเอง’

เก้า จิรายุ + คุณแม่วีรนุช ละอองมณี

เพิ่งจะตกเป็นวาทกรรม เมื่อคุณแม่บอกให้ เก้า-จิรายุ ละอองมณี ลูกชายสุดหล่อวัยละอ่อนพกถุงยางอนามัย ทำเอาผู้คิดเยอะคิดต่างออกมาโวยไม่เห็นด้วย แต่ก็มีหลายเสียงเห็นด้วย แต่เรื่องก็ไม่มีอะไรมาก แค่แม่คนหนึ่งถูกถามถึงแนวทางดูแลลูก ถามมาแม่ก็ตอบไป และตอนนี้เก้าก็ไม่ได้พกถุงยางแต่อย่างใดนิ

“เก้ายังเด็กอยู่เลย ไม่ใช่แค่ในสายตาเราที่มองว่ายังไงลูกก็เป็นเด็ก แต่อายุเก้าก็ยังเด็กด้วย เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะคอยดูแลลูกอย่างใกล้ชิด แม่กับเก้าเหมือนเพื่อนกัน มีอะไรคุยกันหมด เก้าคุยกับผู้หญิงก็มาเล่าให้แม่ฟังหมด แต่กับสิ่งที่เก้าทำตอนนี้มันไม่เด็ก ในวัยเขาน่าจะได้เรียนได้เล่นกับเพื่อน แต่เขาทำงาน เขาเหนื่อย ซึ่งตรงนี้แม่ภูมิใจในตัวเก้ามาก ไม่มีวันไหนที่แม่ไม่ภูมิใจในตัวเก้า ไม่ใช่เพราะเขาทำงานมีรายได้มาก ไม่ใช่เพราะเขาเป็นซูเปอร์สตาร์ แต่เขาเป็นคนเสียสละตัวเองมาทำงานเพื่อครอบครัว และอยากให้เก้าภูมิใจในตัวเองด้วย เพราะเก้ามักจะพูดว่ายังทำได้ไม่ดีเลย เก้าทำได้ดีแล้วในวัยของเก้า”

ยิ่งตอนนี้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนกำลังฮอต มีงานอีเวนต์ให้ออกแทบไม่เว้นวัน “ตั้งแต่เข้าวงการมาแล้วเก้าบ่นเหนื่อย บ่นทุกวันว่าอยากพัก แม่ก็จะคอยปลอบคอยให้กำลังใจ และจัดสรรงาน เพราะทุกวันนี้งานมีมาร้อยแปด เยอะมาก แต่เรารับทุกงานไม่ได้ ตรงนี้ก็ขอให้ผู้จัดเห็นใจด้วย เพราะเราต้องมีเวลาให้เขาเรียน เขาพัก ซึ่งเก้าจะบอกว่าวันนี้ขอเตะบอลกับเพื่อนนะ เล่นบาสกับเพื่อนนะ แบบนี้ไงแม่เลยต้องดูแลเก้าเอง จะให้ใครดูแลแทนไม่ได้ เพราะไม่มีใครรู้จักลูกเรา ถ้าเก้าเหนื่อยไม่อยากทำงาน คนอื่นคงไม่กล้าอะไร แต่เรามีวิธีคุยกับลูกเรา และเรารู้เวลาของลูกเราหมด เก้าก็อยากให้แม่หาพี่เลี้ยงมาช่วยดูแลบ้าง เขาเห็นแม่เหนื่อยที่ต้องไปกับเขาทุกงาน”

‘กางปีกปกป้องลูก’

แพนเค้ก เขมนิจ + คุณแม่นวลนง จามิกรณ์

นับเป็นอีกหนึ่งคุณแม่ที่ฉะ ปะ ดะ ออกโรงทุกสถานการณ์เพื่อปกป้องลูกสาว แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ ทุกข่าวคราวที่จะนำความเสื่อมเสีย ความเข้าใจผิดมาสู่แพนเค้ก แม่หน่อย นวลนง พร้อมกางปีกปกป้องทันที ไม่ว่าใครจะถามอะไร คุณลูกอ้ำอึ้ง คุณแม่เคลียร์ให้ทุกกรณี

“เราชัดเจนทุกเรื่อง เราไม่ได้ปฏิบัติตามคนอื่นกำหนด สิ่งที่รู้เรื่องโกหกมาแล้วเราจะโกหกต่อ แล้วทุกเรื่องแม่ไม่ได้เป็นคนที่จะออกมาบอกก่อน แต่มีถามมาแม่ก็ตอบไป แต่ใครจะไปตีความคำตอบเรายังไงก็แล้วแต่ ต่างคนต่างทำหน้าที่ สำหรับการปกป้องลูกเป็นสัญชาตญาณของความเป็นแม่อยู่แล้ว และแม่รู้ดีในเรื่องของลูก เราเลี้ยงมา ถ้าลูกยังคงอยู่ข้างๆ เราก็ต้องโอบรับกันอยู่ตลอดอยู่แล้ว แต่ถ้าลูกอยู่ไกลเราก็คงพูดอะไรไม่ได้”

แม่หน่อยเป็นทั้งแม่ ทั้งเพื่อน พี่เลี้ยง ผู้จัดการส่วนตัวของแพนเค้ก ซึ่งแม่หน่อยขอยอมรับหน้าที่ทั้งหมดนี้เพียงคนเดียว ดีกว่าปล่อยให้ลูกเป็นสินค้าของคนอื่น “แม่ก็เป็นทุกบทบาทในตัวเขา เรามีกันอยู่ 2 คน เป็น เพื่อน พี่เลี้ยง ผู้จัดการ เป็นทั้งแม่ เป็นทุกๆ อย่างในเวลาเดียวกัน มีหน้าที่หลากหลายมากๆ

เราดูแลกันแบบนี้มาดีมากกว่าจะให้มีผู้จัดการมาดูแล ให้ลูกอยู่ในมือของคนอื่น แม่ทำใจไม่ได้ถ้าจะจับเขาไปอยู่ในมือใครสักคน รู้สึกเป็นการทำร้ายลูก เพราะลูกไม่ใช่สินค้าของแม่ เราดูแลกันเอง เรามีสิทธิเลือกที่จะทำ ไม่ทำ อีกสิ่งหนึ่งที่เรารู้ก็คือลูกเดินเส้นทางตรงนี้ลูกมีความอดทนมากเป็นที่ตั้ง สิ่งหนึ่งลูกขอลึกๆ อย่าห่างลูกนะ”