posttoday

ความเหมือนของศาสนาและแฟชั่นจากหนัง "The devil wears prada"

01 กุมภาพันธ์ 2564

โดย.. เป็ดปุ๊ย

แฟชั่นนั้นมีหลากหลายเกินว่าจะกำหนดตายตัว เพราะสิ่งใดที่สามารถทำให้คนส่วนใหญ่เป็นที่นิยมได้นั่นแหละ "แฟชั่น" ซึ่งฟังดูเหมือนกับคำว่ากระแสนิยม แต่แฟชั่นนั้นเราสามารถมองเห็นรูปธรรมได้ชัดเจนกว่า นอกจากเสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ วิถีการดำรงชีวิต การบริโภค ล้วนแต่เป็นแฟชั่นทั้งนั้นขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน

จากการชมภาพยนตร์เรื่อง The devil wears prada (2006)ครั้งแล้วครั้งเล่านอกจากจะยังคงความสนุกเพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี ยังทำให้เห็นว่า แฟชั่น นั่นมีความคล้ายคลึงระหว่างระบบแฟชั่นกับองค์ประกอบของศาสนาที่น่าสนใจ ดังนี้

1.แอนนา วินทัวร์ และ มิแรนด้า เปรียบเสมือน ศาสดาของแฟชั่น มีสิทธิขาดในการชี้ผิดชี้ถูกในเรื่องการเลือกเสื้อผ้าหยิบจับสิ่งต่างๆมาประกอบกันให้มาเป็นกระแสนิยม รสนิยมของเธอนั้นเหมือนดั่งพรสวรรค์ที่ได้มาไม่ว่าเธอจะเลือกสิ่งไหน เชื่อว่าเสื้อแบบไหนแนวไหนมานำไปลงนิตยสารของเธอก็ทำให้สาวๆคลั่งได้

2.นิตรสารแฟชั่น เปรียบเสมือน หลักคำสอน/คัมภีร์ โดยมิแรนด้าได้นำรูปแบบเสื้อผ้าและเครื่องประดับต่างๆที่ถูกคัดสรรแล้วใส่มันลงไป โดยที่เธอนั้นมีส่วนในการจัดการเนื้อหาก่อนตีพิมพ์ทุกเล่ม สิ่งไหนนิยม สิ่งไหนล้าสมัย เธอนี่แหละมีส่วนในการกำหนดทิศทางการเป็นไปในแฟชั่นเหล่านั้นซึ่งก็มีหลายหลากให้เลือก เพียงแต่ผู้เลือกซื้อมาสวมใส่จะเลือกสไตล์แฟชั่นไหนนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

3.stylish, director, model, actress เปรียบเสมือน สาวก/นักบวช ที่จะทำให้ผู้คนเชื่อแล้วมั่นใจในสิ่งที่เขาเลือกนั้น การมีนางแบบซึ่งผ่านการแต่งกาย การจำลองชีวิตการใส่เสื้อผ้าโดยการที่นางแบบหรือดารานำมาสวมใส่เผยแผ่นั้น ทำให้คนนั้นอยากได้และอยากมีสิ่งนั้นมากขึ้นเปรียบเหมือนการหลอมความคิดของบุคคลด้วยการทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง เห็นได้จากการสวมใส่ออกงานหรืองานเดินแบบของดาราเซเลป

ความเหมือนของศาสนาและแฟชั่นจากหนัง "The devil wears prada"

4.ผู้คนที่หลงใหลในแฟชั่น เปรียบเสมือน ผู้นับถือหรือสาวก เพราะการที่เลือกซื้อเลือกใช้ตามแฟชั่นนั้น จะทำให้บุคคลเหล่านั้นอยู่ตามกระแส และมีความทะเยอทะยานในการเป็นทำให้ตนเองทันสมัยอยู่ตลอดเวลาไม่ให้ตนนั้นตกเทรนด์ เพื่อให้ตนเองดูดีกว่าผู้อื่นและล้ำสมัย

5.fashion show,catwalk,ร้านขายสินค้า เปรียบเหมือน ศาสนสถาน ที่ผู้นับถือหลงใหลในแฟชั่นนั้นต้องสรรหาสิ่งใหม่ๆตามเทรนด์ที่พร้อมจะออกคอลเล็กชั่นใหม่อยู่ตลอดเวลาจากห้างขายสินค้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆ อีกทั้งงานแฟชั่นโชว์การเปิดตัวสินค้าใหม่ๆของแบรนด์ต่างๆถือได้ว่าเป็นสถานที่รวมตัวสาวกแฟชั่นที่จะไปชื่นชมคอลเล็กชั่นใหม่ อีกทั้งยังเป็นงานที่คนแฟชั่นรวมตัวกันแต่งตัวไปประชันกันอย่าล้นหลาม

6.การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์ต่างๆ เปรียบเสมือน พิธีกรรมในศาสนา สิ่งที่สาวกแฟชั่นปฏิบัติคือการเลือกซื้อเลือกใช้สิ่งที่กำลังเป็นที่นิยม ผู้คนที่ต่างมองว่าพวกนี้ไร้สาระแต่สำหรับเขานั้นคือความสุขอย่างแท้จริง

7.แอนเดรีย หรือ แอนนี่ เปรียบเสมือน มนุษย์ธรรมดา ที่พร้อมที่จะต่อสู้กับสิ่งต่างๆเพื่อได้ในสิ่งที่ตนเองหวังไว้ โชคชะตากลับพลิกพลันเธอทิ้งทุกอย่างหลงใหลงานกับวงการแฟชั่นแต่สุดท้ายเธอก็พบว่านั้นเป็นเพียงการอยากเอาชนะเจ้านายตัวแสบของเธอ เธอเลือกที่จะลาออกและตามความฝันในสิ่งที่ตัวเองชอบ เรานั้นเห็นสิ่งหนึ่งของความเป็นมนุษย์จากแอนนี่คือการที่มนุษย์ทุกคนมีทางเลือกขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกมัน สิ่งที่ทำอยู่เราอยากทำหรือเราแค่อยากเป็น แค่เราคิดว่าเรามีความสุขกับสิ่งที่เราเลือกให้ตัวเองทุกวันหรือเปล่า

ความเหมือนของศาสนาและแฟชั่นจากหนัง "The devil wears prada"

สุดท้ายนี้เราจะเห็นได้ว่าความเหมือนกันของศาสนาและแฟชั่นได้อย่างชัดเจน ทำให้ทั้งสองอย่างนี้มีสืบมาจนถึงปัจจุบัน แฟชั่นสามารถบ่งบอกความเป็นตัวเรา ศาสนาที่เรานับถือแต่ละศาสนาที่แตกต่างกันออกไปก็บ่งบอกได้ถึงความคิดการเลือกใช้ชีวิตของเรา

เรานับถือศาสนานั้นทำให้เราจิตใจสงบและยึดมั่นในหลักคำสอนนำไปปฏิบัติเป็นแนวทางของชีวิต เราหลงใหลในแฟชั่นที่ทันสมัยเลือกสวมใส่เครื่องแต่งกายที่เป็นสไตล์เพื่อแสดงตัวตนของตัวเองนั้นทำให้เรามีความสุข ทั้งสองสิ่งนี้ล้วนแล้วแต่มีทางเลือกให้เราขึ้นอยู่กับเราจะเลือกดังที่แอนนี่ในหนัง the devil wears prada เลือกสิ่งที่เธอชอบและศรัทธาให้กับตัวเธอเอง

ภาพจากภาพยนตร์ THE DEVIL WEARS PRADA (2006)