posttoday

เพลงสุดท้าย... ในความทรงจำ

31 มีนาคม 2562

มีพบย่อมมีพรากเป็นสัจธรรม ถึงแม้ว่า การลาจากจะเป็นเรื่องยาก

มีพบย่อมมีพรากเป็นสัจธรรม ถึงแม้ว่า การลาจากจะเป็นเรื่องยาก ทั้งยังเปี่ยมล้นด้วยความเศร้าสร้อย ทว่าศิลปินหลายคนก็สร้างสรรค์ช่วงเวลาเหล่านั้น ให้กลายเป็นสิ่งสวยงาม จดจำ และประทับอยู่ในใจผู้คนได้ตลอดกาล ด้วยสวอน ซอง

“สวอน ซอง” (Swan Song) คือ บทเพลงหรืองานสุดท้ายแห่งอาชีพ ครั้งสุดท้ายก่อนตายหรือเกษียณอายุ การกระทำเพื่อจบบางสิ่งบางอย่างลงอย่างยิ่งใหญ่ โดยทั่วไปจะหมายถึงนักแสดง นักร้อง นักดนตรีที่มีชื่อเสียง กับการทัวร์อำลาทัวร์ การแสดงรอบสุดท้าย หรืองานชิ้นสุดท้าย คำนี้มาจากความเชื่อโบราณที่ว่า ก่อนตายหงส์ (Swan) จะร้องเพลงอย่างไพเราะงดงาม ทั้งๆ ที่ตลอดชีวิตของมันแทบจะเป็นใบ้

ในวงการดนตรีมีผลงานจำนวนหนึ่งถูกเรียกว่าเป็น สวอน ซอง และนี่คือ อัลบั้มสวอน ซอง อันควรค่าแก่การจดจำที่ออกมาในระหว่างปี 2000

American IV:The Man Comes Around (2002)จอห์นนี แคช

เพลงสุดท้าย... ในความทรงจำ

ชายในชุดดำ - จอห์นนี แคช เวียนว่ายผ่านจุดสูงสุด และต่ำสุดในวงการตลอดเวลาเกือบครึ่งศตวรรษ ในปี 1986 เขาต้องออกจากค่ายโคลัมเบีย เรคอร์ดส และพยายามที่จะต่อสู้เพื่อผลประโยชน์จากทางค่าย ต่อมาในช่วงต้นทศวรรษ 90 เขาได้ร่วมมือกับโปรดิวเซอร์ดัง ริค รูเบน สร้างค่ายอเมริกัน เรคอร์ดิงส์ ออกอัลบั้มมาหลายชุด และ American IV: The Man Comes Around (2002) คือ งานชุดสุดท้ายซึ่งออกมาขณะที่ จอห์นนี แคช ยังมีชีวิตอยู่ ทั้งยังเป็นหนึ่งในสตูดิโออัลบั้มที่ดีที่สุดของเขา

อัลบั้มที่ 4 ในซีรี่ส์ American ของจอห์นนี แคช งดงามตั้งแต่ปกซึ่งน่าค้นหา เพลงส่วนใหญ่เป็นงานเก่านำมาคัฟเวอร์ใหม่ในสไตล์ของเขาตัวเอง โดยมี ริค รูบิน ร่วมโปรดิวซ์ เพลงอะคูสติกเรียบง่ายงดงาม มีนักร้องดังอย่าง ฟิโอนา แอปเปิ้ล นิค เคฟ และดอน เฮนลีย์ มาร้องแบ็กอัพ หนึ่งเพลงเด่นคือ Hurt แต่งโดย เทรนต์ เรซเนอร์ แห่ง ไนน์ อินช์ เนลส์ ผู้ที่ค่อนข้างกังวลเมื่อรู้ว่าศิลปินรุ่นใหญ่จะคัฟเวอร์เพลงนี้ แต่ครั้งแรกที่ได้ฟังเวอร์ชั่นของ จอห์นนี แคช เขาก็ออกปากว่า “เพลงนั้นไม่ใช่ของผมอีกต่อไป”

ระหว่างทำอัลบั้มนี้ จอห์นนี แคช มีปัญหาเรื่องสุขภาพ เขาอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว แต่งานที่ออกมานั้นให้อารมณ์ถึงการอำลา อัลบั้มนี้ออกวางขาย เดือน พ.ย. 2002 ก่อนที่เจ้าของผลงานจะเสียชีวิตในวันที่ 12 ก.ย. 2003 ขณะอายุ 71 ปี

อัลบั้มนี้กลายเป็นงานขายดี และถูกเสนอเข้าชิงรางวัลมากมาย นับเป็นหน้าสุดท้ายที่สมบูรณ์แบบของชีวิตตำนานแห่งดนตรีคันทรี และหนึ่งในศิลปินซึ่งขายผลงานได้ดีที่สุดตลอดกาล

You Want It Darker (2016)เลียวนาร์ด โคเฮน

เพลงสุดท้าย... ในความทรงจำ

หลังออกทัวร์อย่างต่อเนื่อง ในช่วงปี 2013 ทำให้สุขภาพของ เลียวนาร์ด โคเฮน เสื่อมถอย แต่เขายังขอทำงานต่อ ก่อนมีอัลบั้มสุดท้าย You Want It Darker ออกในเดือน ต.ค. 2016 ก่อนจะจากไปอย่างสงบ ในเดือนถัดมา ขณะอายุ 82 ปี

6 ทศวรรษในวงการ เลียวนาร์ด โคเฮน อาจจะมีอัลบั้มออกมาไม่มากนัก ทั้งยังไม่อาจจะเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จทางด้านการขายขนาดใหญ่ แต่ด้วยตัวตนและผลงานอันโดดเด่น ทำให้เขาเรียกได้ว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งอุตสาหกรรมดนตรี เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินรุ่นหลัง รวมทั้งคนฟังทั่วโลก

เลียวนาร์ด โคเฮน จากมอนทรีออล แคนาดา ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกวีและนักแต่งเพลงที่ดีที่สุดคนหนึ่งของโลก ด้วยเอกลักษณ์ในบทเพลงที่มีเนื้อหาซึ่งหลักแหลม และมีลีลาไม่ต่างกับบทกวี รวมทั้งเสียงร้องต่ำๆ ที่ทรงเสน่ห์ และบุคลิกภาพอันน่าจดจำ

You Want It Darker อัลบั้มที่ 14 และอัลบั้มสุดท้ายในชีวิตของ เลียวนาร์ด โคเฮน ใช้เวลาทำราวปีครึ่ง โดยมี อดัม โคเฮน ลูกชายช่วยดูแล พวกเขาทำงานด้วยกันอย่างใกล้ชิด เปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นสตูดิโอ แม้ทุกคนจะกังวลเรื่องสุขภาพของเขา แต่สำหรับ เลียวนาร์ด แล้ว การทำงานชุดนี้คือ การเยียวยา ชื่นชูจิตวิญญาณ และได้ทำในสิ่งรัก

อัลบั้มนี้ของ เลียวนาร์ด โคเฮน เป็นเพลงป๊อปร็อก เบากว่างานก่อนหน้าของเขา ดนตรีอะคูสติกโดดเด่น คณะนักร้องประสานเสียงยังมีบทบาท ขณะที่เสียงร้องทุ้มต่ำของเขานั้นรุ่มรวยด้วยอารมณ์ มีความรู้สึกเศร้า เสียใจ แม้กระทั่งความโกรธอยู่ในนั้น เลียวนาร์ด โคเฮน ยังคงเป็นคนเขียนเนื้อหาที่เยี่ยมยอด มีทั้งสารถึงพระเจ้า ความรักครั้งเก่า และเล่าถึงตัวเอง

นับเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ดีที่สุดของ เลียวนาร์ด โคเฮน ยิ่งฟังก็ยิ่งน่าฟังขึ้นเรื่อยๆ เป็นงานที่ “ดาร์ก” แต่ก็ “สว่าง” และ “เรืองแสง” เป็นบทเพลงสุดท้ายอันงดงามซึ่งเขาทิ้งไว้ให้ขับกล่อมโลก

เลียวนาร์ด โคเฮน ทำงานชุดนี้โดยคิดว่ามันเป็นอัลบั้มสุดท้าย เขาเคยให้สัมภาษณ์กับ เดอะ นิวยอร์เกอร์ ว่า พร้อมแล้วที่จะลาจาก “ผมหวังว่ามันจะไม่เจ็บปวดเกินไป”

Blackstar (2016)เดวิด โบวี

เพลงสุดท้าย... ในความทรงจำ

ผลงานชุดสุดท้ายของ เดวิด โบวี ใช้รูปดาวสีดำ  เป็นชื่ออัลบั้ม โดยอ่านออกเสียงว่า Blackstar วางจำหน่ายในวันศุกร์ที่8 ม.ค. 2016 ซึ่งตรงกับวันเกิดปีที่ 69 ของศิลปิน และ 2 วันถัดมา เดวิด โบวี ก็เสียชีวิต หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งมานานกว่าปี

โทนี วิสคอนติ โปรดิวเซอร์ ที่ทำงานร่วมกับศิลปินดังบอกว่า ทั้ง 7 บทเพลงในงานชุด Blackstar คือ “Self-Epitaph” หรือคำจารึกบนหลุมฝังศพ ซึ่ง เดวิด โบวี เตรียมไว้ให้กับตัวเอง อัลบั้มนี้เป็น “Swan Song” หรือผลงานชิ้นสุดท้าย และเป็น “ของขวัญแห่งการลาจาก” ที่ เดวิด โบวี จะมอบให้กับแฟนๆ ของเขา เป็นของขวัญในแบบที่เขาอยากทำและมอบให้ ไม่ใช่ของขวัญแบบที่คิดว่าแฟนๆ จะอยากได้รับ

เดวิด โบอี หรือ เดวิด โบวี นักร้อง-นักแต่งเพลงจากบริกซ์ตัน ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เขาคือหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการดนตรี เจ้าพ่อแกลมร็อก ผู้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับวงการตลอด 5 ทศวรรษ

งานชุดที่ 25 ของ เดวิด โบวี เป็นอะวองต์การ์ด แจ๊ซ/อาร์ตร็อก และเอ็กเพอริเมนทัล ร็อก ผสมผสาน เสียงบาริโทนของเขายังคงลีลาและชีวิตชีวาไม่ต่างไปจากเดิม ทุกเพลงเล่าเรื่องวันเวลาของชายคนหนึ่งซึ่งกำลังต่อสู้กับการจากพราก เป็นการอยู่กับปัจจุบัน และแลไปข้างหน้า ถึงแม้มันจะเจ็บปวด เศร้าสร้อย และมองเห็นแสงแห่งความหวังแต่เพียงเล็กน้อย ก็อาจจะดีกว่าถวิลหาอดีตแสนดีที่ผ่านล่วงไปแล้ว

ถ้าหาก Blackstar เป็นเหมือนคำสั่งเสียก็นับเป็นคำสั่งเสียที่กระชับรัดกุม หมดจดงดงาม และถ้าจะคิดถึง Blackstar ในฐานะอัลบั้มชุดที่ 25 ของศิลปินผู้หนึ่ง นี่ก็นับเป็นงานเพลงที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว เราต่างต้องเอ่ยคำอำลา แม้จะเศร้าสร้อย แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ซึ่งเราต้องข้ามผ่าน และยอมรับ การลาจากของศิลปินเหล่านี้เป็นสิ่งสวยงาม น่าจดจำ และประทับอยู่ในใจผู้คน