11 เรื่องของ The Weeknd ที่จะทำให้คุณรู้จักเขามากขึ้น ก่อนไปสนุกด้วยกัน 2 ธ.ค.นี้

ทำความรู้จัก The Weeknd  ศิลปินแนวอัลเทอร์เนทีฟ อาร์แอนด์บีสุดฮอต ก่อนถึงวันคอนเสิร์ต 2 ธันวาคมนี้

ใกล้เข้ามาทุกทีกับคอนเสิร์ตครั้งสำคัญ และครั้งแรกในเมืองไทยของศิลปินแนวอัลเทอร์เนทีฟ อาร์แอนด์บีสุดฮอต The Weeknd หรือที่แฟนๆ เรียกกันอย่างสนิทสนมว่า อาเบล (จากชื่อจริง Abel Makkonen Tesfaye) แต่ก่อนจะนับถอยหลังให้ถึงวันคอนเสิร์ต 2 ธันวาคมนี้ เรามาทำความรู้จัก กับอาเบลให้ลึกซึ้งกันอีกซักหน่อยดีกว่า

1. ลาออกจากโรงเรียนมัธยม

อาเบลตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนตอนอายุ 17 ปี เพื่อออกมาทำตามความฝันในการทำเพลงเต็มเวลา ในตอนนั้นเขาได้ชวนเพื่อนสนิท La Mar Taylor มาด้วย จนตอนนี้ที่อาเบลประสบความสำเร็จเป็นศิลปินอย่างที่ต้องการแล้ว เพื่อนสนิทของเขาก็ยังอยู่ด้วยกันและรับหน้าที่เป็น Creative Director ให้กับค่ายเพลงของอาเบลด้วย

2. จุดเริ่มต้นของความสำเร็จ

นี่อาจฟังดูเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นในนิยาย แต่มันเกิดขึ้นจริงในตอนที่อาเบลยังทำงานเป็นพนักงานของร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง ก่อนหน้านั้นเขาได้อัพโหลดมิกซ์เทปชิ้นแรก House of Balloons ลงในยูทูป และมันประสบความสำเร็จอย่างมาก ในขณะที่เขากำลังทำงาน อยู่ๆ คลื่นวิทยุที่เปิดในร้าน ก็เล่นเพลงจากมิกซ์เทปของเขาขึ้นมา แน่นอนว่าในตอนนั้นไม่มีใครรู้หรอกว่านี่คือเพลงของอาเบล

3. ความหมายของทีม XO

อาเบลก่อตั้งค่ายเพลงของตัวเองขึ้นในปี 2012 โดยตั้งชื่อว่า XO ซึ่งไปพ้องกับสัญลักษณ์ที่มีความหมายว่า hugs and kisses หรือแปลง่ายๆ สไตล์ไทยๆ ได้ใจความว่า รักนะจุ๊บๆ แต่จริงๆ แล้วที่อาเบลตั้งชื่อแบบนี้ไม่ได้เป็นเพราะอยากให้ค่ายของเขาดูน่ารักกุ๊กกิ๊ก แต่เป็นเพราะตัวอักษร X และ O สามารถหมายถึงสารเสพติดได้ด้วย โดยในที่นี้หมายถึง ยาอี และ ออกซิโคโดน (ยาแก้ปวด มีส่วนประกอบจากสารโอปิออย์ที่ทำให้เสพติดได้) ดาร์กไปอีกขั้นจริงๆ

4. แฟนบอย MJ

ข้อนี้หลายๆ คนอาจจะพอเดากันได้อยู่ เพราะหลายเพลงที่อาเบลแต่งและโปรดิวซ์ก็มีกลิ่นอายของราชาเพลงป็อปอย่าง Michael Jackson ซ่อนอยู่ ตัวอย่างเพลงที่มีสไตล์ของไมเคิลชัดที่สุดคงจะไม่พ้น I Feel It Coming พูดได้ว่าอาเบลมี MJ เป็นทั้งไอดอลและเป้าหมายในวงการเพลงเลยล่ะ

5. นิสัยขาดความมั่นใจ

แม้จะเป็นศิลปินที่โด่งดังในระดับโลก แต่ใครจะรู้ล่ะว่าอาเบลก็คือชายขี้อายอันดับต้นๆ ในช่วงแรกที่เข้าสู่วงการเพลงเต็มตัว อาเบลไม่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อหรือปรากฏตัวในงานอีเว้นท์ใดเลย สาเหตุใหญ่ก็มาจากความไม่มั่นใจในตัวเอง เขาไม่ชอบหน้าตาของตัวเองถึงขนาดที่ว่าเวลาที่ติดไปในรูปของใคร อาเบลจะต้องไปขอให้ช่วยครอปตัวเขาออกจากรูปเสมอ

6. ไม่รู้เนื้อเพลงตัวเอง

แปลกแต่จริง อาเบลเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาจำเนื้อเพลงที่ตัวเองร้องไปไม่ได้ทั้งหมด ในมิกซ์เทปชิ้นที่สองของเขา Thursday มีบางท่อนที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าร้องอะไรออกไป หลังจากนี้ ถ้าคุณฟังเพลงของเขาแล้วฟังไม่ออกว่าเขาร้องอะไรก็ไม่ต้องรู้สึกเศร้าไป เพราะแม้แต่อาเบลก็คงไม่รู้เหมือนกัน

7. เชื้อสายเอธิโอเปีย

พ่อแม่ของอาเบลคือชาวเอธิโอเปียที่ย้ายมาอยู่แคนาดา ดังนั้นเขาจึงสามารถพูดภาษาเอธิโอเปียได้ด้วย อาเบลภาคภูมิใจในเชื้อสายของตัวเองเป็นอย่างมาก เขาเคยเขียนถึงเรื่องนี้ในเพลงดังอย่าง The Hills และในมิวสิกวิดีโอของ The Knowing

8. พิธีกรรมที่ต้องทำก่อนขึ้นเวที

ก่อนจะเริ่มคอนเสิร์ตทุกครั้ง อาเบลจะเรียกและปลุกพลังของตัวเองด้วยการเปิดเพลง Off the Wall ของ Michael Jackson (แฟนบอยตัวจริง) ให้ดังกระหึ่ม ระหว่างรอคอนเสิร์ตของอาเบลก็ฟังเพลงนี้อัพพลังไปพลางๆ ได้

9. นายแบบจำเป็น

ถึงจะขี้อายอย่างนี้ แต่อาเบลก็เคยรับหน้าที่เป็นนายแบบมาบ้าง เขาตกลงถ่ายแบบสำหรับ คอลเลกชั่นใหม่ของ Adidas ที่ได้เพื่อนสนิทอย่าง Kanye West เป็นคนออกแบบ เพื่อลงนิตยสาร GQ อาเบลพูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า “Kanye เป็นเพื่อนที่ดีมากของผม ตอนที่เขามาขอให้ช่วย ผมจึงไม่อยากปฎิเสธ นี่คือสิ่งที่ผมสามารถทำได้เพื่อช่วยเขา”

10. บ้านผีสิง

ไม่ได้หมายถึงบ้านที่ไหน แต่หมายถึงบ้านที่อาเบลอาศัยอยู่นั่นแหละ ระหว่างที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ซึ่งตั้งอยู่บน Hollywood Hills เขาเคยเจอเรื่องแปลกประหลาด ทั้งการโดนผีอำ และบางครั้งก็ได้ยินเสียงที่ไม่มีแหล่งที่มาในบ้าน มีข่าวลือว่าบ้านที่เขาอยู่เคยเป็นที่ฝังศพชนพื้นเมืองอินเดียแดงมาก่อน

11. โละเพลงทั้งอัลบั้มหลังเลิกกับ Selena

ในตอนที่ยังคงกันอยู่กับนักร้องสาว Selena Gomez อาเบลได้แต่งและอัดเพลงไว้จนเสร็จ เป็นหนึ่งอัลบั้ม ซึ่งตัวเขาเองก็ยอมรับว่านี่คืออัลบั้มที่สนุกสนานและมีชีวิตชีวาที่สุดที่ทำมา แต่คงเพราะความสัมพันธ์จบแบบไม่สวยเท่าไหร่ ทำให้อาเบลตัดสินใจโละอัลบั้มดังกล่าวทิ้งทั้งหมด และเริ่มใหม่ กับอัลบั้มล่าสุด Melancholy แทน เขาให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Time ว่า “ผมไม่อยากจะร้องเพลงเกี่ยวกับสิ่งที่ผมไม่รู้สึกถึงมันแล้ว” และเมื่อถามว่าแฟนเพลงอย่างเราจะมีโอกาสได้ฟังเพลงจากอัลบั้ม นั้นมั้ย เขาก็ตอบว่า “ไม่มีทาง”