การเสพติดครั้งใหม่ Narcos : Mexico

โดย แหนง-ดู 

หลายคนติดอกติดใจกับความเข้มข้นดุดันของ Narcos ทำให้ทั้ง 3 ฤดูกาลของซีรี่ส์เรื่องนี้ได้รับการต้อนรับอย่างยอดเยี่ยม ล่าสุดกับ Narcos : Mexico ที่เพิ่งออกฉายทางเน็ตฟลิกซ์เมื่อกลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ก็ยังเป็นอีกหนึ่งซีรี่ส์ที่ไม่ควรพลาด

การค้ายาเสพติดยังคงเป็นหัวใจในการนำเสนอของ Narcos โดยซีซั่นก่อนหน้านี้นำเรื่องจริงของ ปาโบล เอสโกบาร์ พ่อค้ายาเสพติดและนักลักลอบขนโคเคนชื่อดังชาวโคลอมเบีย กับฤดูกาลล่าสุดย้ายไปสู่เม็กซิโกที่ซึ่งสงครามยาเสพติดเดือดระอุ โดยมีเจ้าพ่อยาอย่างเฟลิกซ์ กัลลาร์โด อยู่เบื้องหลัง

ทีมนักแสดงใหม่ของซีซั่นใหม่ล้วนน่าสนใจ ไมเคิล เปญา รับบท กีกี้ คาเมเรนา เจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติดที่ย้ายจากแคลิฟอร์เนียไปอยู่ที่กัวดาลาฮารา เม็กซิโก เขาได้ไปพบเส้นทางการค้าของเฟลิกซ์ กัลลาร์โด (ดีเอโก ลูนา) ซึ่งต่อมากลายเป็นเจ้าพ่อยารายใหญ่คนแรกของเม็กซิโก

ซีรี่ส์จะนำคนดูย้อนไปสู่ทศวรรษ 1980 Narcos : Mexico ตามติดการก่อกำเนิดอาณาจักรของเจ้าพ่อยาเสพติด จากตัวเล็กๆ ที่ใครๆ ก็มองข้าม แต่เปี่ยมล้นด้วยความทะเยอทะยานไปสู่เจ้าพ่อค้ายาเสพติดที่ทรงอิทธิพล ขณะที่ กีกี้ ก็ดิ้นรนต่อสู้ โดยใช้อำนาจกฎหมายเพื่อความยุติธรรมและการเปลี่ยนแปลง แม้จะไม่ได้รับการสนับสนุนมากนัก

เมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ในงาน See What’s Next : Asia ซึ่งทางเน็ตฟลิกซ์จัดขึ้นที่สิงคโปร์ ทางทีมงาน Narcos : Mexico คือ เอริค นิวแมน เอ็กเซ็กคิวทีฟโปรดิวเซอร์ รวมทั้ง 2 นักแสดงนำ ไมเคิล เปญา และดีเอโก ลูนา ได้เดินทางมาร่วมงาน และเล่าเรื่องราวเบื้องหลังการทำงานให้สื่อได้ฟัง

เอริค พูดถึงการตัดสินใจเปลี่ยนนักแสดง และโลเกชั่นสำหรับฤดูกาลใหม่ว่า “อันที่จริงแล้วผมวางแผนไว้ตั้งแต่ตอนเริ่มแล้วละครับ ผมวางไว้ว่าจะเล่าเรื่องเส้นทางโคเคนในโคลอมเบีย จากนั้นก็ตามมาจนถึงที่เม็กซิโก ซึ่งเป็นสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นในธุรกิจแบบนี้ แต่ก็จัดได้ว่าเป็นเรื่องที่แปลกแล้วก็ยากสำหรับการทำหนังมากๆ โดยเฉพาะเมื่อซีซั่นแรกของคุณประสบความสำเร็จมาก ดังนั้นเราก็เลยต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่นักแสดง ทีมงาน ไปจนถึงประเทศ

“แต่ในขณะเดียวกัน มันก็นับได้ว่าเป็นเรื่องที่วิเศษมากๆ เลยนะที่เราได้นักแสดงที่มีพรสวรรค์และเก่งมากๆ อย่างไมเคิลและดีเอโก รวมไปถึงนักแสดงชาวเม็กซิกัน และนักแสดงสาวๆ ชาวอเมริกันเหมือนกัน โดยเพื่อที่จะสร้างซีรี่ส์เรื่องนี้อีกครั้ง นอกจากความท้าทายต่างๆ แล้ว ผมก็เชื่อว่ามันคือซีซั่นที่ดีที่สุดของเราทีเดียว”

ไมเคิล เปญา เสริมว่า “ผมแนะนำให้คุณดู 3 ตอนแรกมากๆ ยิ่งถ้ามันเป็นการเปลี่ยนโลเกชั่นแล้ว ผมคิดว่า 3 ตอนแรกมันจะดีมากๆ เสมอเลย และมันก็เป็นการสร้างโลกใบใหม่ให้กับซีรี่ส์อีกด้วย”

สำหรับไมเคิลแล้ว ก่อนจะมารับบทเจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติด ซึ่งมีตัวตนอยู่จริงๆ เขาเคยรับรู้เรื่องราวของ กีกี้ ผ่านสื่อต่างๆ มาก่อน “มันสนุกมากเลยนะ เพราะผมอ่านเรื่องราวของพวกเขาอยู่บ่อยๆ ผมเสิร์ชชื่อเขาบนเว็บไซต์ออนไลน์ทั้งกูเกิลและวิกิพีเดีย รวมถึงดูวิดีโออีกหลายอันอีกด้วย ซีรี่ส์เรื่องนี้เลยน่าสนใจมากๆ เช่นกัน เพราะว่าคนดูก็คงสงสัยใช่มั้ยละครับว่า มันจะจบยังไง แต่คนดูก็จะไม่ได้รู้เรื่องราวทุกอย่างหรอก เช่นที่ว่าผู้ชายคนนี้หาข้อมูลเยอะมาก และนอกจากนี้ เพราะว่าผมเคยได้รับบทบาทใน Antman ซึ่งมันเป็นบทที่บางทีผมก็ไม่รู้หรอกว่าผมพูดอะไรออกไปอยู่นะ ดังนั้นตอนที่คุณดูหนังคุณก็คงจะไม่เข้าใจว่า ผมกำลังพูดถึงอะไรอยู่กันแน่

“ส่วนกีกี้เขาเป็นคนที่เรียบง่ายมาก และบางทีเขาก็จะเงียบๆ ในบางที แต่ที่สำคัญคือ เขาอุทิศตนและให้ความสำคัญกับอาชีพของตัวเองมาก ดังนั้นเขาจึงเป็นตัวละครที่น่าสนใจมากเลย และผมก็รู้สึกว่าเวลาเล่นเป็นเขาผมค่อนข้างมีอิสระมาก ผมเพียงแค่เล่นโดยใช้วิธีโฟกัสกับคาแรกเตอร์ของเขาเท่านั้น ซึ่งมันเป็นวิธีการแสดงที่ดีมากๆ ดังนั้นผมจึงอยากดูซีรี่ส์เรื่องนี้อีกรอบ เพื่อดูว่าผมเล่นเป็นยังไงอย่างแน่นอน”

จากโคลอมเบียไปเม็กซิโก ในอนาคต Narcos มีแผนจะขยายเรื่องให้ไปที่อื่นต่อหรือไม่ เอริค บอกว่า “โชคไม่ดีนัก เราทำไม่ได้ครับ จริงอยู่ที่มันมียาเสพติดอยู่ทั่วทุกมุมโลก คุณสามารถเจอได้ทั้งในกรุงเทพฯ สิงคโปร์ หรือแม้กระทั่งปารีส ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ อยู่เสมอ และมีเรื่องให้เล่า
เยอะมาก

“แต่ว่าตัวละครหลักของ Narcos นั้นไม่ใช่ ปาโบล เอสโกบาร์ หรือเฟลิกซ์ กัลลาร์โด แต่มันคือ ‘โคเคน’ มันคือยาเสพติดครับที่เป็นตัวละครหลักของเรา จริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่แค่โคเคนหรอกที่ฆ่าคนเป็นพันในอเมริกา แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะพูดถึงเรื่องราวทั้งหมดในอเมริกาใต้ได้ ดังนั้นเราจึงต้องเลือกเรื่องที่มันใหญ่จริงๆ ดังนั้นเพื่อที่จะตอบคำถามนี้ คือพวกเราต้องขอโทษมากๆ”

แม้จะเปลี่ยนประเทศใหม่ แต่ดูเหมือนสถานการณ์จะเหมือนเดิมคือ การต่อสู้กับยาเสพติดนั้นไม่เคยง่าย และ Narcos : Mexico ยังคงเป็นซีรี่ส์อาชญากรรมตื่นเต้นเร้าใจที่ “เสพ” แล้วต้อง “ติด”