posttoday

วุ่นป่วนเพื่อนซี้จากต่างดาว

21 ตุลาคม 2561

มนุษย์ต่างดาว หรือเอเลี่ยน (Alien)

โดย เพรงเทพ 

มนุษย์ต่างดาว หรือเอเลี่ยน (Alien) เป็นสิ่งที่เชื่อว่าอาจมีอยู่จริง แต่ยังไม่มีข้อพิสูจน์ ลักษณะเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่นอกโลก ซึ่งได้พยายามส่งสัญญาณการติดต่อมาหามนุษย์โลกอยู่บ่อยครั้ง แต่สัญญาณเหล่านี้เมื่อผ่านเข้ามายังโลก จะถูกคลื่นเสียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคลื่นเสียงโทรทัศน์ คลื่นโทรศัพท์ หรือคลื่นวิทยุรบกวน ทำให้ไม่สามารถส่งสัญญาณต่างๆ มายังโลกได้

“Luis and the Aliens” (หลุยส์ตัวแสบ กับแก๊งเอเลี่ยนตัวป่วน) เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นหรือการ์ตูนที่หยิบประเด็นความสัมพันธ์ในครอบครัวมาผูกโยงกับมนุษย์ต่างดาว และสะท้อนภาพที่เดินสวนทางกันออกมา

การไม่ดูแลคนใกล้ชิดที่สุดในชีวิตในห้วงเวลาปัจจุบัน แต่เฝ้าค้นหาสิ่งที่อยู่ห่างไกลออกไปไกลโพ้นหลายล้านปีแสงที่ไม่รู้ว่ามีอยู่จริงหรือไม่?

เรื่องราวของ หลุยส์ เด็กชายวัย 12 ปี ที่มีพ่อเป็นดอกเตอร์สติเฟื่อง หมกมุ่นอยู่กับการจับสัญญาณมนุษย์ต่างดาว และพยายามที่จะใช้ปืนยิงน้ำแข็งตามล่ามนุษย์ต่างดาวที่หลงหรือบุกมายังดาวโลก

วุ่นป่วนเพื่อนซี้จากต่างดาว

เขาไม่มีแม่เพราะได้ตายจากไปตั้งแต่เขายังเด็ก หลุยส์อยู่กับพ่อที่ไม่ค่อยสนใจไยดีเขา แถมยังเป็นภาระให้เขาคอยดูแลเสียอีก พ่อนอนกลางวันและหมกมุ่นอยู่ในห้องที่มีกล้องส่องดาวและตรวจท้องฟ้าพร้อมจับสัญญาณมนุษย์ต่างดาวทั้งคืน

หลุยส์เหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลก ในโรงเรียนเขาก็ถูกเพื่อนๆ แกล้งและรังแก มองเป็นตัวประหลาด แล้ววิกฤตชีวิตก็มาถึงเร็วกว่าที่คาดไว้ เมื่อมีคณะกรรมการมาตรวจสอบบ้านของเขา ในฐานะเด็กที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองไม่สามารถเลี้ยงดูและปกครองได้ เพราะมีเพื่อนบ้านแจ้งสภาพเลวร้ายของความเป็นอยู่และบ้านของหลุยส์ไป

ครูใหญ่กับตัวแทนบ้านสงเคราะห์เด็กก็ต้องลงตรวจสอบข้อเท็จจริง และแน่นอนจากสภาพที่เป็นอยู่ เขาก็ต้องตกไปอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์เด็กอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้น เมื่อมียานท่องเที่ยวของมนุษย์ต่างดาวผ่านมาในวงโคจรของโลก และสามารถจับสัญญาณคลื่นภาพโทรทัศน์บนโลกมนุษย์ได้ และติดใจที่นอนเด้งดึ๋งซึ่งใช้ปูนวดตัวของรายการขายตรงสินค้าแบบทีวีไดเรกต์

วุ่นป่วนเพื่อนซี้จากต่างดาว

มนุษย์ต่างดาว 3 ไซส์ คือ อ้วน กลาง ผอม ก็แอบเดินทางมาบนโลกมนุษย์เพื่อมาซื้อที่นอนนวดตัว และได้มาพบกับหลุยส์ จนมิตรภาพก่อเกิด เรื่องราววุ่นวายยุ่งอีนุงตุงนังก็เกิดขึ้น และนำไปสู่ตอนจบอย่างซาบซึ้ง

ว่าไปแล้วตามความเคยชินในนิยายวิทยาศาสตร์หรือไซไฟ มักจะปรากฏมีภาพของสิ่งมีชีวิตนอกโลก หรือเอเลี่ยนที่มีรูปแบบคล้ายมนุษย์ (Humanoid) หรือสัตว์เลื้อยคลาน (Reptilian) อยู่เสมอๆ

ตัวแทนสมมติของมนุษย์ต่างดาว หรือเอเลี่ยนตามภาพปรากฏที่คุ้นตากันนั้น มักจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะผิวกายสีเขียวหรือสีเทาอ่อน มีศีรษะขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับที่มีแขนขาเหมือนกับลักษณะของมนุษย์โดยพื้นฐานทั่วไป ที่คุ้นชินหรือเป็นที่นิยมจะเป็นประเภท เกรย์ (Grey) หมายถึง สีเทา โดยประเภทนี้พบบ่อยที่สุด มีลักษณะหัวโต ตาโตสีดำรูปร่างคล้ายมนุษย์ ไม่มีขน นิ้วทุกนิ้วเรียวยาว ผิวหนังสีเทา จึงเป็นที่มาของชื่อ สื่อสารกันด้วยการใช้โทรจิต

สำหรับภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้เลือกที่จะนำมนุษย์ต่างดาวในแง่มุมเป็นมิตร แม้จะมีหน้าตาพิมพ์นิยมแบบมนุษย์ต่างดาวที่หน้าตาประหลาดอย่างที่เป็นมา เหมือนตัวหนอนอ้วนๆ แต่ก็มีสีสันโทนเขียวฟ้าสดใสแบบลูกกวาดบับเบิ้ลกัม รวมถึงไม่มีอาวุธหรือความสามารถในการทำลายล้างที่มากมายแต่อย่างใด ทำให้คนดูรู้สึกผ่อนคลายและสนุกกับการผจญภัยตามท้องเรื่องที่เกิดขึ้น

วุ่นป่วนเพื่อนซี้จากต่างดาว

เรียกว่าดูสนุกเหมาะกับเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่มีอะไรใหม่ให้ตื่นเต้นหรือร้อง ว้าว! ออกมาดังๆ โดยรวมแล้วก็เดินออกจากโรงอย่างมีความสุขและเอิบอิ่มกับตัวละครและเรื่องราวที่ปิดฉากอย่างสมบูรณ์ของพ่อลูกที่มาดูแลกันอย่างใกล้ชิด

ในอีกมุม ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้ได้ซ่อนเนื้อสารที่สื่อออกมาถึงความสัมพันธ์และสายใยในครอบครัว โดยเฉพาะประเด็นความโดดเดี่ยวอ้างว้างของเด็กที่ถูกทอดทิ้งจากผู้ใหญ่ใกล้ตัว ซึ่งมีสภาพทางร่างกายและจิตใจที่เปลี่ยวเหงาและขาดความอบอุ่น

การตัดสินใจเดินหันหลังจากพ่อของตัวเอง เพื่อจะไปขึ้นยานอวกาศกับมนุษย์ต่างดาว ทำให้ฉุกคิดและสะเทือนอารมณ์ได้เป็นอย่างดี เพราะไม่มีใครสนใจไยดีและรักบนโลกใบนี้

ในอีกด้านที่น่าสนใจก็คือ การถูกทอดทิ้งซ้ำเติมจากคนรอบตัว ไม่ว่าเพื่อนบ้าน เพื่อนเด็กในหมู่บ้านและที่โรงเรียน อาจารย์ที่ไม่เข้าใจภาวการณ์ของเด็ก และที่สำคัญมีเหลือบที่เข้ามาหาผลประโยชน์ โดยเฉพาะน้ำตาของเด็กที่ไร้ความรักเหงาอ้างว้างจะมีราคาแพงสำหรับพวกเหล่าร้ายนี้ ซึ่งพวกนี้คือมนุษย์ต่างดาวชั่วร้ายประเภทหนึ่ง จุดนี้ถือว่าทำได้ดีมาก

วุ่นป่วนเพื่อนซี้จากต่างดาว

แม้โดยภาพรวมจะดูธรรมดาในฐานะภาพยนตร์การ์ตูนครอบครัวที่มีฉากหลังเป็นไซไฟ แต่อย่างน้อยก็ช่วยกระตุ้นเตือนให้คนดูหันมาทบทวนตัวเองกับคนในครอบครัวและคนในแวดล้อมสังคมที่เป็นอยู่ว่า หรือเราเป็นมนุษย์ต่างดาวซึ่งกันและกัน