posttoday

ฟลอเรนซ์ แอนด์ เดอะ แมชีน   เปลือยประสบการณ์ (เสียง)

12 สิงหาคม 2561

ศิลปินจากลอนดอน “ฟลอเรนซ์ แอนด์ เดอะ แมชีน” มี 2 สมาชิกสำคัญ คือ ฟลอเรนซ์ เวลช์ และ อิซาเบลลา“แมชีน” ซัมเมอร์ส

โดย เพ็ญแข สร้อยทอง 
 
ศิลปินจากลอนดอน “ฟลอเรนซ์ แอนด์ เดอะ แมชีน” มี 2 สมาชิกสำคัญ คือ ฟลอเรนซ์ เวลช์ และ อิซาเบลลา“แมชีน” ซัมเมอร์ส ซึ่งเป็นที่มาของชื่อกลุ่ม แต่ฟลอเรนซ์ คือ ผู้ซึ่งมีบทบาทและเป็นกำลังสำคัญในการทำงาน จึงไม่แปลกที่งานชุดล่าสุดมีเพียงภาพเธอลำพังบนปกอัลบั้ม
 
เปิดตัวต่อโลกด้วยอัลบั้ม Lungs ในปี 2009 เป็นที่รู้จักด้วยซิงเกิ้ล Dog Days Are Over, You’ve Got the Love และ Shake It Out ซึ่งโดดเด่นด้วยเสียงร้องของฟลอเรนซ์ รวมทั้งการนำบาโรค ป๊อป โฟล์ค และอัลเทอร์เนทีฟ ร็อกมาผสมผสานกัน อัลบั้มนี้ได้รางวัลบริตอะวอร์ด
 
ผลงานของ ฟลอเรนซ์ แอนด์ เดอะแมชีน ขึ้นชาร์ตทั้งที่อังกฤษและอเมริกา ในอเมริกานั้นอัลบั้ม How Big, How Blue, How Beautiful ขึ้นถึงอันดับ 1 ส่งให้วงดังไปทั่วโลก อัลบั้มนี้ทำให้วงถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่5 สาขารางวัล พวกเขาออกทัวร์นานาชาติ ในปี 2016 หนังสั้น The Odyssey ได้รับความสนใจจากคนมากมาย
 

ฟลอเรนซ์ แอนด์ เดอะ แมชีน   เปลือยประสบการณ์ (เสียง)

 
นอกจากร้องเพลงดี ฟลอเรนซ์ เวลช์ ยังมีความสามารถทางด้านการแต่งเพลง เขียนหนังสือ แต่งบทกวี และวาดภาพได้เยี่ยมอีกด้วย และกับอัลบั้ม High as Hope นี้เป็นครั้งแรกที่เธอได้เครดิตการทำงานในฐานะโปรดิวเซอร์ ส่วน อิซาเบล ก็ยังคงดูแลเรื่องดนตรี และ
รับผิดชอบเรื่องเสียงคีย์บอร์ดของเธอไป
 
งานชุดนี้มีโปรดิวเซอร์ชื่อดังมีฝีมือมาทำงานร่วม เอมีล เฮย์นี โปรดิวเซอร์ที่ทำอัลบั้ม Born to Die ของ ลานา เดล เรย์ มาช่วยดูแล ศูนย์กลางของอัลบั้มนี้คือ เสียงร้องของ ฟลอเรนซ์ ซึ่งทั้งเข้มแข็งและเต็มไปด้วยอารมณ์ ทั้งสุขสันต์และโศกเศร้า กู่ก้องกัมปนาทโชว์สกิลลูกคอ รุ่มรวยด้วยเสียงดนตรีหลากหลาย มีเสียงเปียโนหรูหรา เพอร์คัสชั่นโดดเด่น มีเสียงกลองชนเผ่า เสียงออร์เคสตรา นักเป่าแซ็กโซโฟน คามาซี วอชิงตัน มาช่วยดูแลเรียบเรียงเสียงเครื่องเป่า ทั้งเฟรนช์ฮอร์น ทูบา ฟลุต และ คลาริเน็ต ทั้งยังมีศิลปินอย่าง โทมัส บาร์ตเลตต์, เจมี เอ็กซ์เอ็กซ์ ฯลฯ มาร่วมงานด้วย
 
เพลงที่ปล่อยออกมาเป็นซิงเกิ้ล คือ Sky Full of Song, Big God และ Hunger สำหรับอัลบั้มนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นอัลบั้มเดี่ยวของ ฟลอเรนซ์ เวลช์ เกือบทุกเพลงเหมือนเป็นการเล่าเรื่องราวและสถานการณ์ชีวิตของเธอ
 

ฟลอเรนซ์ แอนด์ เดอะ แมชีน   เปลือยประสบการณ์ (เสียง)

 
ฟลอเรนซ์ใช้ชีวิตช่วงวัย 20 ไปกับการทำงานเพลง พิสูจน์ตัวเอง จนได้การยอมรับนับถือและความนิยม มีเรื่องราวเกิดขึ้น เป็นสถานการณ์ชีวิตซึ่งเธอต้องต่อสู้กับตัวเองสิ่งแวดล้อม และสังคม โชคดีที่เธอผ่านมาได้ วันนี้ในวัย 31 ปี เธอได้เติบโต เปลี่ยนแปลง กลายเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่า และเธอนำเรื่องราวที่เป็นมาเป็นไปเหล่านั้นออกมาผ่านผลงานเพลง
 
ฟลอเรนซ์ บอกว่า ตอนนี้เธอมีความมั่นคง มีสันติทางจิตใจ บทเพลงใน High as Hope นี้คือตัวแทนของเธอคนใหม่ ที่เปิดเผย และมั่นใจ ที่สำคัญที่สุดคือเป็นงานที่เธอมีความสุขที่ได้ทำออกมา ทั้งยังเป็นอัลบั้มที่เธอทำอย่างสบายใจ และหลุดพ้นจากอำนาจของแอลกอฮอล์ ซึ่งเธอเคยติดอย่างที่เพื่อนร่วมวง อิสซาเบลลา บอกว่า อัลบั้มนี้ทำในช่วงที่ ฟลอเรนซ์ แปลงร่างแล้ว!
 
หนึ่งเพลงในอัลบั้ม คือ Hunger ซึ่งเป็นเรื่องราวที่สมัยที่ ฟลอเรนซ์ เป็นวัยรุ่น เธออดข้าวอดปลา จนกระทั่งกลายเป็นโรคพฤติกรรมการกินผิดปกติ ซึ่งตลอดมาเธอไม่อยากพูดถึงมัน จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ เธอเลยนำมาเล่าไว้ในเพลง ทางหนึ่งก็คือการปลดปล่อย เธอบอกว่า บางครั้งสิ่งที่บอกเล่าผ่านเพลงนั้นดูเหมือนจะชัดแจ้งมากเสียกว่าที่เธอทำกับชีวิตตัวเองจริงๆ เสียอีก เธอนำเรื่องนี้ผ่านเพลงโดยไม่อยากให้เป็นตัวอย่างในทางที่ไม่ดีกับใคร จึงไม่อยากลงลึกในรายละเอียดนัก นอกจากนี้ความหิวกระหายของเธอในเพลงนี้ยังหมายถึง การต้องการความรักอีกด้วย
 

ฟลอเรนซ์ แอนด์ เดอะ แมชีน   เปลือยประสบการณ์ (เสียง)

 
เธอร้องแคปเปลลาใน No Choir ซึ่งเป็นแทร็กปิดอัลบั้มที่ทำให้ประหลาดใจได้ ทั้งยังจับใจ เธอแต่ง Patricia สำหรับ แพตตี สมิธ ไอดอลของเธอ เพลง Grace สำหรับน้องสาว เหมือนเป็นการชดใช้และขอโทษที่เคยทำไม่ได้ไว้ เธอยังสงสัยว่าจะทำให้แม่ภูมิใจได้ด้วยการกลับไปเรียนมหาวิทยาลัย แทนที่จะเข้าวงการได้หรือเปล่า ส่วนเพลง North Star เธอพูดถึงประตูที่เปิดไว้สำหรับคนที่มีความเชื่อ บางเพลงในอัลบั้มเล่าถึงความสุขของฟลอเรนซ์ ซึ่งเธอบอกว่าการเขียนเพลงเกี่ยวกับความสุขเป็นเรื่องไม่ง่าย
 
High as Hope มีลักษณะเป็นเพลงละครเมโลดราม่า เป็นอีกหนึ่งเลเวลที่ ฟลอเรนซ์ แอนด์ เดอะ แมชีน ได้อัพตัวเองขึ้นไป เหมือนกับเป็นการเปลือยเปล่าตัวตน อารมณ์ และความรู้สึก เป็นงานเพลงที่ให้ประสบการณ์ภายในใจด้วย