ในยุคของทรัมป์ ยังมีซินธ์ป๊อป

โดย  เพ็ญแข สร้อยทอง

อยู่ในวงการนำเสนองานซึ่งมีสีสันเฉพาะตัวมาเนิ่นนานเกือบ 20 ปี มาวันหนึ่งพวกเขาก็เห็นควรว่า น่าจะถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลงเสียที 

เดอะ ดีเซ็มเบอริสต์ส เป็นวงดนตรีอินดี้โฟล์กร็อกจากโอเรกอน สหรัฐ พวกเขาได้ชื่อมาจาก กบฏธันวาคม (Decembrist revol หรือ Decembrist uprising) ซึ่งเกิดขึ้นในจักรวรรดิรัสเซียในทศวรรษที่ 18 ชื่อวงยังเกี่ยวกับเรื่องดราม่าและความเศร้าโศกซึ่งมักจะมาพร้อมกับเดือน ธ.ค.เสมอ นอกจากชื่อวงจะไม่ธรรมดาแล้ว พวกเขาและงานที่สร้างสรรค์ก็ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน

หลังจากก่อตั้งวงเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ในปีถัดมาก็นำเสนออีพีแรก ถึงปัจจุบัน เดอะ ดีเซ็มเบอริสต์ส ก็มีงานออกมา 8 ชุด เมื่อ 7 ปีก่อน เพลง Down By the Water จากอัลบั้ม The King Is Dead ของพวกเขาเคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ครั้งที่ 54 ในสาขาเพลงร็อกยอดเยี่ยมมาแล้ว

เพลงของ เดอะ ดีเซ็มเบอริสต์ส มักเป็นป๊อปจังหวะเร็วๆ รวมทั้งเพลงบัลลาดอันนุ่มนวล บ่อยครั้งมีเสียงเครื่องดนตรีอย่างแอ็คคอร์เดียน คีย์บอร์ด ดับเบิ้ลเบส ฯลฯ เข้ามาสร้างสีสัน พวกเขายังเป็นนักเล่าเรื่อง เนื้อหาในเพลงที่มักจะเล่าเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งคติชนวิทยาหรือวัฒนธรรมของมนุษย์ที่มีการถ่ายทอดสืบต่อกันมา ทั้งในสังคมชนบทและในสังคมเมือง ผ่านทางตำนาน นิทาน นิยายประจำถิ่น เพลง ฯลฯ อีกหนึ่งลักษณะสำคัญของวงคือ การแสดงสดที่น่าตื่นตา มีการผสมผสาน นำผู้ชมเข้ามามีส่วนร่วมโดยเฉพาะในช่วงอังกอร์ ด้วยตัวตนที่ชัดเจน เดอะ ดีเซ็มเบอริสต์ส สร้างกลุ่มแฟนที่เหนียวแน่นระดับหนึ่ง

ปัจจุบัน เดอะ ดีเซ็มเบอริสต์ส ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกคือ โคลิน เมลอย (นักร้องนำ กีตาร์), คริส ฟังก์ (กีตาร์), เจนนี่ คอนลี (เปียโน คีย์บอร์ด), เนท ควารี (เบส) และจอห์น โมน (กลอง) กับอัลบั้มล่าสุดที่เพิ่งออกเผยแพร่ของ เดอะ ดีเซ็มเบอริสต์ส ชื่อว่า I’ll Be Your Girl ความเปลี่ยนแปลงที่พวกเขาต้องการนำมาซึ่งการทำร่วมกับ จอห์น คอนเกิลตัน โปรดิวเซอร์อินดี้ตัวพ่อซึ่งเคยทำงานร่วมกับ ลานา เดล เรย์ และศิลปินมากมายมาก่อน นอกจากนี้พวกเขาก็เลือกที่จะทำงานให้ห้องอัดที่ไม่คุ้นเคย

เมื่อฟังเพลงชุดนี้ของ เดอะ ดีเซ็มเบอริสต์ส เราสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเพลงจากยุค 1970-1980 เป็นเพลงป๊อป-บัลลาด ซึ่งโดดเด่นด้วยเสียงซินธ์ที่เป็นฐานรากในหลายๆ เพลง ให้ความคึกคักมีสีสัน ว่ากันว่า ในส่วนนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานของรุ่นใหญ่อย่าง นิวออร์เดอร์, ดีเพชีโหมด หรือร็อกซีมิวสิค นอกจากนี้ยังมีเสียงร้องประสาน เพอร์คัสชั่น ฯลฯ หากมาพิจารณาที่เนื้อร้องจะพบว่า เพลงชุดนี้ของ เดอะ ดีเซ็มเบอริสต์ส มีความ “ดาร์ก” ผสมผสานอยู่ หลายเพลงคือ การนำเสนอมุมซึ่งไร้เหตุผลน่าขบขันของสิ่งต่างๆ

โคลิน เมลอย นักร้องและมือกีตาร์ของวงบอกว่า อัลบั้ม I’ll Be Your Girl ฟังเผินๆ อาจจะดูคล้ายบทเพลงแห่งการเฉลิมฉลอง แต่แท้จริงแล้วมันคือ เพลงซึ่งสะท้อนสถานการณ์ปัจจุบันของสหรัฐ ที่สิ้นหวัง หดหู่ ท้อแท้ ทั้งหมดเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2016 ซึ่งมีผู้คนมากมายรู้สึกคล้ายคลึงกัน

เมื่อต้องเผชิญกับความรู้สึก “ด้านลบ” โดยที่ไม่อาจจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ สิ่งที่ควรทำคือ จัดการกับตัวเอง ทำอย่างไรให้หลุดพ้นจากอาการท้อแท้ สิ้นหวัง และหดหู่ บทเพลงของ เดอะ ดีเซ็มเบอริสต์ส แม้มีน้ำหูน้ำตา รุนแรงด้วยความโกรธ เกรี้ยวกราด แต่ก็มีอารมณ์ขันแดกดันอยู่ในนั้นด้วย

ซิงเกิ้ลแรก Severed เสียงซินธ์เด่นมาก อีกหนึ่งซิงเกิ้ลคือ Once in My Life ซึ่งถูกเลือกมาเป็นแทร็กแรกของอัลบั้ม แรกๆ นั้นมาในลีลาโฟล์กร็อก ก่อนจะถึงเวลาที่ซินธ์จะสำแดงตน เพลงน่าฟังรวมถึง Everything is Awful อันงดงาม หวาน ซึ่งสวนทางกับชื่อเพลงและเนื้อหาที่ขึ้นต้นมาก็บอกว่า ทุกสิ่งมันแย่มากเลย ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะแย่ยังไงก็แล้วแต่ เตียงนอนคือ ที่อันปลอดภัย และควรจะพักผ่อนนอนหลับบ้างนะ ส่วน We All Die Young เป็นเพลงที่คึกคัก เสียงเพอร์คัสชั่น ปรบมือ คณะนักร้องประสาน และการเดี่ยวแซ็กโซโฟน Rusalka, Rusalka/Wild Rushes เป็นโอเปร่าร็อกอลังการที่ยาวถึง 8 นาที

อัลบั้มชุดนี้เหมือนกับเป็นการก้าวออกจาก “คอมฟอร์ตโซน” ของวง ได้ปลดปล่อยตัวเองออกจากรูปแบบเก่าๆ และให้โอกาสตัวเองเพื่อลองสิ่งที่แตกต่างออกไป ซึ่ง เดอะ ดีเซ็มเบอริสต์ส ก็ทำออกมาได้น่าสนใจ

ในยุคของทรัมป์ ยังมีซินธ์ป๊อปที่น่าฟัง และชวนครุ่นคิดตาม