posttoday

Star Wars : The Last Jedi มหากาพย์ภาคต่อมา

24 ธันวาคม 2560

เมื่อ Star Wars: The Last Jedi หรือ สตาร์ วอร์ส: ปัจฉิมบทแห่งเจได

โดย แหนง-ดู / วอลท์ ดิสนีย์ (ประเทศไทย)

เมื่อ Star Wars: The Last Jedi หรือ สตาร์ วอร์ส: ปัจฉิมบทแห่งเจได ลงโรง สาวกหนังมหากาพย์เรื่องนี้ก็ไม่พลาดที่จะจองตั๋วไปชม และนี่คือบางข้อมูลที่แฟนๆ ทั้งหลายน่าจะได้อ่าน ก่อน (หรือหลัง) ไปดู

หนัง สตาร์ วอร์ส ภาคนี้นำเสนอเรื่องราวของตระกูลสกายวอล์กเกอร์ได้ดำเนินต่อไป เมื่อเหล่าผู้กล้าแห่งภาคอุบัติการณ์แห่งพลัง ได้เข้าร่วมในมหากาพย์การผจญภัยในห้วงกาแล็คซี่ ที่จะปลดล็อกความลับแห่งพลังที่ซ่อนไว้มาหลายชั่วอายุคน พร้อมทั้ง
การเปิดเผยเรื่องราวในอดีตอันน่าตกใจ

ภาคนี้มี ไรอัน จอห์นสัน มาทำหน้าที่ผู้กำกับต่อจาก เจ.เจ.อับรามส์ กับมหากาพย์การผจญภัยในห้วงกาแล็คซี่อันน่าตื่นเต้นนี้ ดาราสาว เดซี ริดลีย์ ผู้รับบทบาท เรย์, อดัม ไดร์ฟเวอร์ ในบทบาท ไคโล เร็น และ เคลลี มารี ทราน สาวเอเชียคนแรกกับบทบาท
โรส ทิคโค ได้ร่วมกันสะท้อนถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังเบื้องลึกของการทำงาน

อดัม ไดร์ฟเวอร์ พูดถึงผู้กำกับและการสร้างชีวิตให้ ไคโล เร็น ปรากฏบนจอว่า “ไรอันเป็นทั้งมือเขียนบทและผู้กำกับครับ และผมคิดว่าลักษณะที่เขาขับเคลื่อนเรื่องราวไปสำหรับตัวละครของผมเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ ฟังดูเป็นอะไรที่ไม่เฉพาะเจาะจงมากๆ แต่นั่นก็เป็นเรื่องจริงครับ

“ไคโล เร็น ยังมีอายุน้อยกว่าตัวผมในชีวิตจริง เขาเป็นคนที่ยึดติดกับไอเดียของตัวเองอย่างเหนียวแน่นมากขึ้น เกือบจะเหมือนความคลั่งทางศาสนาเลยละครับ และเขาก็มั่นใจมากว่าตัวเองทำในสิ่งที่ถูกต้อง ความวัยเยาว์ของเขาเป็นสิ่งที่ปรากฏอยู่ในบทที่ไรอันเขียนด้วยครับ

“ไรอัน จอห์นสัน เป็นคนน่าทึ่งครับ แต่แค่คำว่า ‘น่าทึ่ง’ ยังไม่พอครับ เขาเป็นคนง่ายๆ ช่างคิดและเป็นมือเขียนบทที่เก่งกาจ เขาเจ้ากี้เจ้าการอย่างเหมาะสมในเรื่องที่เขาคิดว่ามันเวิร์กหรือสำคัญต่อเรื่องราว แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็มีสมดุลที่ยอดเยี่ยม

“ไรอันเป็นนักเล่าเรื่องด้วยภาพและชำนาญในการออกคำสั่งกับนักแสดง แต่เขาก็ไว้วางใจคนที่เขาร่วมงานด้วย คุณยังคงรู้สึกว่าเขาให้อิสระในการสร้างสรรค์งานกับคุณ เขาเป็นคนที่หาได้ยากในเรื่องนี้ การสามารถรักษาสมดุล ไม่ใช่แค่การเล่าเรื่องราวแบบกว้างๆ แต่เป็นการเล่าเรื่องราวที่มีเสน่ห์และเข้าถึงได้สำหรับผู้ชมกลุ่มใหญ่ และในขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้ย่อยให้มันง่ายเกินไปสำหรับพวกเขาด้วยน่ะครับ”

เดซีพูดถึงตัวละครที่เธอได้รับบทว่า “ฉันคิดว่าเธอ (เรย์) ได้เรียนรู้ที่จะไม่เชื่อข่าวโคมลอย แม้แต่ในแจ็คกู ซึ่งเป็นที่ที่ไกลปืนเที่ยงมากๆ ในอวกาศ เธอยังได้ยินเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับลุคเลย เขาทำให้เธอตระหนักว่า ทุกอย่างไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่เห็น คนดีๆ ก็ตัดสินใจผิดพลาดได้ และคนเลวๆ ก็ตัดสินใจถูกต้องได้ เธอกำลังเรียนรู้ถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองและเกี่ยวกับจิตใจของมนุษย์ เพราะเธอยังไม่เคยมีความสัมพันธ์จริงๆ จังๆ กับผู้คนมาก่อนเลย

“เรย์ไม่ได้มองตัวเองว่าเป็นคนที่มีพลัง และการมองลุคเป็นแบบนั้นก็เป็นภาพสะท้อนของการที่ผู้คนมองเห็นเธอ พวกเขาพูดถึงศักยภาพของเธอ แต่เธอไม่ยักรู้สึกถึงมันเลย เพียงแต่เธอก็เริ่มจะรู้สึกตัวแล้วละค่ะ เธอพยายามจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อทำสิ่งที่ถูกต้องเหมือนที่เธอทำมาเสมอ

“มันเข้มข้นขึ้นเยอะเลยค่ะ แต่ก็เป็นเรื่องดี มันมีช่วงเวลาพักเบรกเล็กๆ น้อยๆ ด้วย แต่ทุกคนดูเหมือนจะเปรียบเทียบหนังเรื่องนี้กับ The Empire Strikes Back ซึ่ง Empire จะมืดหม่นกว่า ฉันคิดว่าเรามีสมดุลที่ดีนะคะ มันมีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กันอย่างที่เราไม่เคยมีมาก่อน ฉันคิดว่ามันคงจะเป็นสมดุลที่ดีนะคะ แต่นอกจากนั้น ก็ยังมีช่วงเวลาสั้นๆ ที่ฉันไม่ได้คาดหวังว่าฉันจะได้แสดงฉากที่ค่อนข้างตลกด้วยละค่ะ”

บทบาท ไคโล เร็น ซึ่งต้องรับมือกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแสงสว่างและความมืดภายในตัวเอง อดัม ไดร์ฟเวอร์ บอกว่า “ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเขารับมือกับความสัมพันธ์ระหว่างแสงสว่างและความมืดภายในตัวเขาได้เรียบร้อยหรือเปล่า ผมคิดว่ามันยังคงเป็นสงครามภายในของเขาต่อไป นั่นเป็นสิ่งที่ไรอันเข้าใจเกี่ยวกับตัวละครของเขา ว่าคนเราไม่มีทางเป็นได้แค่สิ่งหนึ่งสิ่งใด แม้ว่าเราอยากให้พวกเขาเป็นแบบนั้นก็ตาม ในโลกใบนี้มีสีเทามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในตัวพวกเราเอง นั่นเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องสนุกเกี่ยวกับการแสดงบทนี้ เขาไม่ใช่แค่สิ่งใดสิ่งหนึ่งครับ”

Star Wars : The Last Jedi มหากาพย์ภาคต่อมา

หนังเรื่องนี้ยังคงมีฉากอันน่าทึ่งอย่างที่เดซีบอก “คุณจะลืมไปเลยว่าคุณยืนอยู่บนฉาก ถ้ำที่เราใช้ถ่ายทำช่างน่าทึ่งจริงๆ ฉันไม่รู้ว่าถ้าเราไม่มีฉากแบบนั้นมันจะให้ความรู้สึกเป็นยังไง แต่มันเยี่ยมมาก มันทำให้การแสดงง่ายขึ้นเยอะ เพราะเราแสดงอยู่ในสถานที่นั้นจริงๆ ในชุดของเรา เรื่องทั้งหมดนี้น่าทึ่งมากค่ะ”

“ทุกอย่างเป็นของจริงเกือบทั้งหมดครับ และไรอันก็ผลักดันฉากที่ถูกเซตขึ้นสำหรับ The Force Awakens ไปอีกระดับหนึ่ง Star Wars ผมคิดว่าไรอันทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมในการลบทุกอย่างที่เขารู้เกี่ยวกับ Star Wars ต้นฉบับ และ The Force Awakens และเริ่มต้นใหม่ ซึ่งนั่นก็เริ่มต้นด้วยเครื่องแต่งกายและฉากครับ” อดัม พูด

Star Wars : The Last Jedi มหากาพย์ภาคต่อมา

สำหรับ เคลลี มารี ทราน สาวเอเชียคนแรกที่ได้ร่วมโปรเจกต์ยักษ์นี้ ทุกอย่างเกี่ยวกับงานนี้ถูกเก็บเป็นความลับนับตั้งแต่เธอออดิชั่นเดือน มิ.ย. 2015 ก่อนจะได้รับบทในเดือน พ.ย. และเดือนต่อมาเธอก็ย้ายไปลอนดอน “ฉันบอกใครไม่ได้ทั้งนั้นว่าฉันจะไปไหน หรือฉันทำอะไรจนกระทั่งเดือน ก.พ. 2016 ฉันก็เลยบอกทุกคนว่าฉันไปแคนาดาเพื่อทำงานในหนังอินดี้เรื่องหนึ่ง และโกหกทุกคนที่ฉันรู้จัก ฉันแย่มากเลย”

สำหรับตัวละครที่ เคลลี สวมชื่อว่า โรส ทิคโค สมาชิกของฝ่ายต่อต้าน “เธอทำงานฝ่ายซ่อมบำรุงและก็ไม่มีใครรู้จักเธอ พี่สาวเธอเป็นคนเจ๋ง ที่ออกสู่แนวหน้าอยู่ตลอด ส่วนโรสจะเป็นคนที่อยู่ด้านหลังท่อ คอยซ่อมสิ่งต่างๆ แต่ก็มีบางอย่างเกิดขึ้นในตอนเริ่มต้นเรื่องที่ดึงโรสเข้าสู่การผจญภัยครั้งนี้ เธอได้พบกับฟินน์และเขาก็สำคัญสำหรับเธอ มันเหมือนกับการได้พบฮีโร่สมัยเด็ก พวกเขาก็ได้ออกผจญภัยสุดเหวี่ยงด้วยกัน”

Star Wars : The Last Jedi มหากาพย์ภาคต่อมา

เพื่อทำงานเรื่องนี้เธอต้องฝึกสตันต์ “พอฉันย้ายไปลอนดอน ฉันก็เริ่มฝึกร่างกาย มันบ้ามาก ฉันต้องเรียนรู้การเป็นนักกีฬาเพื่อที่จะเป็นนักแสดง และมันก็เป็นเรื่องยากมากๆ ในตอนนั้น แต่ฉันก็มีระบบสนับสนุนที่ดีมากๆ ที่ช่วยให้ฉันผ่านมันไปได้ การฝึกเป็นอะไรที่เข้มข้นค่ะ มันสนุกก็จริงแต่ก็ยากจริงๆ ด้วยค่ะ

“เราต้องฝึกยกเวตบ่อยๆ ส่วนสำหรับฉากสตันต์ เราต้องเรียนรู้การต่อสู้รูปแบบต่างๆ และการกระโดดไปมา รวมถึงเรียนรู้การรับกระสุนที่ถูกต้อง รวมถึงวิธีการใช้อาวุธประเภทต่างๆ ด้วย มันเป็นเรื่องยากแต่ก็เจ๋งด้วย ทีมสตันต์น่าทึ่งมาก พวกเขาเป็นหนึ่งในทีม
สตันต์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกเลย สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับฉันคือ การแสดงฉากกระโดดหรือการร่วงลงมา รวมถึงการพยายามรักษาความเป็นตัวละครตัวนี้เอาไว้ และจำให้ได้ว่าฉันเองก็กำลังแสดงอยู่”