ปัญญาที่ถูกกักขัง

โดย...เพรงเทพ

นานๆ ทีจะได้ชมภาพยนตร์จีนฟอร์มยักษ์ คอมพิวเตอร์กราฟฟิกแบบอลังการงานสร้างลงทุนถึง 1,200 ล้านบาท และสมอารมณ์ด้วยพากย์ไทยโดยทีมงานพันธมิตร ซึ่งให้ความกลมกล่อมและบันเทิงไปในตัว

“Wukong” (หงอคง กำเนิดเทพเจ้าวานร) เป็นภาพยนตร์ที่ตีความใหม่และดัดแปลงมาจากเกมออนไลน์ที่โด่งดังในจีน ชื่อ The Biography of Wukong และก็มาจากตัวละครซุนหงอคงหรือเห้งเจีย ใน “ไซอิ๋ว” ซึ่งเป็นสุดยอดวรรณคดีจีนที่มีอิทธิพลต่อคนจีนและคนทั่วโลก

เด็กๆ เอเชียต่างรู้จักอาวุธสำคัญของหงอคงหรือเห้งเจียที่เป็นกระบองวิเศษ ที่ปกติจะเก็บไว้ในรูหู สามารถยืด-หดได้ ซึ่งเดิมเป็นเสาค้ำมหาสมุทร ของเจ้าสมุทรทะเลตะวันออก (ทะเลตงไห่) และมีพาหนะเป็นเมฆวิเศษ ผ่านสื่อร่วมสมัยต่างๆ

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้พูดถึงรายละเอียดในไซอิ๋ว แต่มาเพ่งจุดศูนย์รวมอยู่ที่หงอคงในช่วงที่ไปปราบความฉ้อฉลเห็นแก่ตัวของเหล่าเทพ ซึ่งนำทีมโดย ฮั้วจี เจ้าแม่แห่งสวรรค์

หงอคงเป็นราชาวานรผู้เติบโตอยู่ในหุบเขาฮั่วกั๋ว ต้นกำเนิดของหงอคงนั้นมีความเกี่ยวกับสวรรค์ การถูกตั้งข้อหาว่าเป็นผลผลิตจากมาร โดยที่ไม่สามารถให้ฆ่าตายได้เพราะมีหัวใจเป็นหินเทวะ การถูกถล่มโดยสวรรค์ทำให้หุบเขาฮั่วกั๋วอันงดงามสิ้นสลาย ไม่สามารถเห็นความงามของพระอาทิตย์ตกดินที่หงอคงชื่นชอบได้อีก โดยหงอคงได้รับการช่วยชีวิตจากพระโพธิสัตว์ หงอคงจึงกลายเป็นศิษย์ของเขา แต่หงอคงยังหมายแก้แค้นต่อสวรรค์

ในวันที่เขาขึ้นมาถึงสวรรค์ เขากลับได้พบกับจื่อเซี่ย ลูกสาวของแม่ทัพสวรรค์ แต่ทั้งคู่รักกัน หากภารกิจล้างแค้นก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า

ภาพยนตร์ฉบับนี้เน้นหนักไปด้วยซีจีและประเด็นความรักของคนสองคู่ โดยเฉพาะคนที่รับบทหงอคง คือ เอ็ดดี้ เผิง สามารถเรียกแฟนภาพยนตร์ผู้หญิงได้เป็นอย่างดี

เอ็ดดี้ เผิง มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากการแสดงทีวีซีรี่ส์ แต่ผลงานทางภาพยนตร์ “Rise of the Legend” (2014) หวงเฟยหง พยัคฆ์ผงาดวีรบุรุษกังฟู มีคำชื่นชมมากมาย แจ้งเกิดในวงการภาพยนตร์ได้สมภาคภูมิ จนได้รับเสนอชื่อเข้าชิงในเทศกาลภาพยนตร์ฮ่องกง ครั้งที่ 34 สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และยิ่งโด่งดังมากขึ้นจากการที่ถูกคัดเลือกให้ร่วมแสดงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวู้ด “The Great Wall” (2016) ผลงานการกำกับของจางอี้โหมว ซึ่งได้เล่นกับ แมตต์ เดมอน

เพราะฉะนั้น บทหงอคงลิงรูปหล่อจึงเหมาะสมและมาถูกที่ถูกเวลาเป็นที่สุด

ว่าไปแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้กระจายบทและฉากต่างๆ ได้อย่างลงตัว ทั้งในองก์แรกที่เสมือนเป็นการแนะนำตัวละครต่างๆ และมีเหตุการณ์เกิดขึ้นปะทะกันบนสวรรค์ ซึ่งทำให้คนดูเข้าใจภูมิหลังและปมในใจของตัวละครต่างๆ และกลิ่นที่ไม่ดีความเน่าหมักหมมของเหล่าเซียนหรือเทพต่างๆ ที่ฉ้อฉลอย่างชั่วร้ายเพื่อประโยชน์เฉพาะตัว

องก์ที่ 2 เป็นการตกลงมาบนโลกมนุษย์ ณ หุบเขาฮั่วกั๋ว ซึ่งเป็นเวลาที่พัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งหมด รวมถึงความรักโรแมนติกของคนสองคู่ รวมถึงความเข้าใจในชีวิตของความรักระหว่างแม่กับลูก ซึ่งค่อนข้างมีความสำคัญที่จะพัฒนาไปสู่จุดสูงสุดของท้องเรื่องในองก์ที่ 3 ที่เป็นการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยตัวเอง

ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดูสนุก การวางจังหวะของท้องเรื่องก็เหมาะสม มีทั้งตื่นเต้น เร้าอารมณ์ รักโรแมนติก และการเปิดประเด็นเรื่องความดีชั่ว ลิขิตฟ้า และการกำหนดชีวิตตัวเอง

หาก หงอคง แปลว่า ว่างเปล่า ซึ่งก็มาผูกติดกับการเป็นตัวแทนของความโกรธที่กักขังปัญญาไว้ ทำไมจึงเปรียบปัญญาว่าเป็นลิง ก็เพราะไม่ยอมหยุดนิ่ง เที่ยวได้รู้ทั่ว ซุกซนไปทุกที่ ตอนแรกปัญญาก็ว่างเปล่า ค่อยๆ เรียนรู้วิชาต่างๆ แก่กล้าขึ้นเรื่อยๆ วิชาที่เรียนก็เป็นวิชาทางธรรมะ ที่แปลงกายได้ 72 ก็คือ ปัญญา 72 ซึ่งมีฤทธิ์มาก

ปัญญาถ้าไม่มาพร้อมกับความตื่นรู้ หรือใช้ธรรมะควบคุมก็จะถูกใช้ในทางที่ผิด

ในตอนสุดท้ายของภาพยนตร์ มีบทพรรณนาสรุปสั่งลาว่า บันทึกสวรรค์จารึกเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า เจ้าแม่วางแผนร่วมมือกับจอมมารก่อขบถบนสวรรค์ นางจึงถูกตัดสินว่าเป็นปีศาจ หยางเจี่ยช่วยกำจัดปีศาจพิทักษ์สวรรค์ได้เป็นแม่ทัพใหญ่พิทักษ์ประตูทักษิณ คอยขจัดสิ่งชั่วร้ายทั้ง 3 โลก

เจ้าลิงต้องการดูพระอาทิตย์สีม่วงอีกครั้ง เขาจึงกลับเขาฮั่วกั๋ว ชักชวนบรรดาสัตว์ที่ไม่ยอมรับโชคชะตาของตัวเอง มาร่วมก่อสงครามร้อยปีกับแดนสวรรค์ เจ้าลิงเป็นใครอย่างนั้นเหรอ ก็ข้าไง ข้าก็คือซุนหงอคง

อย่าให้ฟ้ามาทำให้ตาข้ามืดบอดอีกต่อไป อย่าให้ดินได้ฝังหัวใจข้าอีกต่อไป อย่าให้ทุกสรรพสัตว์เข้าใจความคิดข้า อยากให้ทวยเทพมลายหายไปให้หมด เพราะข้าคือซุนหงอคง

ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นความบันเทิงแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นในการอาละวาดบนสวรรค์ของซุนหงอคง