ความเร็ว = ครอบครัว

โดย...เพรงเทพ

ครอบครัวและสายเลือด คือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับชีวิตมนุษย์คนหนึ่ง รวมถึงญาติโกโหติกา มิตรสหาย และเพื่อนฝูง มากกว่าความสัมพันธ์ในเชิงหน้าที่ทางสังคมและภาระส่วนบุคคล แต่ในความหมายของความผูกพันในฐานะปัจเจกบุคคลมีความลึกซึ้งที่เชื่อมทอสายใยของคน หรือกลุ่มเข้าไว้ด้วยกันอย่างที่มิอาจมองเห็นได้ด้วยตา แต่ต้องสัมผัสด้วยใจ

“Fast & Furious”  (เร็ว...แรงทะลุนรก) ได้เดินทางมาถึงภาค 8 “Fast & Furious 8” (เร็ว...แรงทะลุนรก 8) หรือในชื่อแยกเอกเทศออกมา คือ “The Fate of the Furious” ก็ยังยึดแกนกลางสร้างหัวใจของเรื่องอยู่ที่ประเด็นของครอบครัวและเพื่อนฝูงร่วมรักและร่วมรบอย่างเหนียวแน่น โดยเพิ่มดีกรีเข้าไปในความมโหฬารล้างผลาญอย่างวินาศสันตะโรในเชิงชั้นของหนังฟอร์มยักษ์แบบสงครามล้างโลกเข้ามาให้สุดตะลึง

เรื่องราวที่ผูกขึ้นไม่ซับซ้อน เพื่อให้ต่อเนื่องกับภาคก่อนๆ แต่สามารถร้อยประสานได้อย่างชาญฉลาด โดยยังคงบุคลิกของหนังรถแข่งไว้ในดีเอ็นเอ หรือพันธุกรรม เพียงแต่เปลี่ยนหน้าที่มาเพื่อพิทักษ์โลกจากมือแฮ็กเกอร์สาวจิตโหดแทน

ดอม ในช่วงเวลาที่ผ่อนคลายและเปี่ยมสุขกับแฟนสาวเล็ตตี้ อยู่ในคิวบาอย่างรื่นรมย์ ก่อนที่จะถูกคั่นกลางด้วยไซเฟอร์ แฮ็กเกอร์สาวผู้หวังที่จะมีอำนาจครอบงำโลก ด้วยการจับเมียและลูกชายซึ่งดอมไม่รู้มาก่อนว่าตัวเองมีลูกเป็นตัวประกัน ยื่นเงื่อนไขให้ดอมแปรพักตร์มารับใช้เธอ ในการช่วงชิงอาวุธร้ายแรงและกล่องควบคุมการยิงอาวุธนิวเคลียร์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของรัสเซียกลางมหานครนิวยอร์ก

จากคิวบาที่เปิดฉากด้วยบรรยากาศที่สนุกสนานของหาดทรายทะเลและสีสันของกรุงฮาบานา และการแข่งรถในรูปแบบของ Fast ที่สนุกสนานตามไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ ผสมความเป็นวินเทจของรถยนต์ในยุคทศวรรษที่ 40 เข้าไว้ด้วยกันซึ่งทำได้ดีมาก แต่ก็ถูกทิ้งให้เป็นแค่การเปิดตัวประดุจมิวสิควิดีโอที่สั้นกระชับเต็มอิ่ม

ก่อนตัดเข้าสู่มหานครนิวยอร์ก ซึ่งเริ่มไล่ล่าและมีดราม่าเรื่องความรัก ครอบครัว การหักหลัง มิตรภาพ เข้ามาได้อย่างกลมกลืน และรักษาความเป็น Fast ได้อย่างครบเครื่องอีกส่วนหนึ่ง

มาถึงการยกระดับครั้งสำคัญของหนังตระกูลนี้ ภารกิจปกป้องพิทักษ์โลก โดยมีฉากหลังบนพื้นราบน้ำแข็งในทะเลบาเรนตส์ของรัสเซีย ซึ่งเป็นผลพวงมาจากยุคสงครามเย็น Fast ได้กลายเป็นหนังแอ็กชั่นมหากาพย์พิทักษ์โลกไปอย่างสมบูรณ์แบบ

ทั้งการสงครามแบบทหาร การสื่อสารผ่านเครื่องบิน เรือดำน้ำติดขีปนาวุธและนิวเคลียร์ แต่พาหนะที่สำคัญก็ยังเป็นรถยนต์และความเร็วที่ยังเป็นโฟกัสเด่นชูโรงอยู่เฉกเช่นเดิม ซึ่งทำได้ดีและมีเสน่ห์ในแบบหนังแอ็กชั่นที่หลุดแหวกออกไป แต่เทียบเท่าหนังประเภทนี้โดยตรงอย่างสมศักดิ์ศรี

บทหนังสามารถเขียนได้อย่างรัดกุม มีเหตุมีผลส่งทอดรับให้คนดูเข้าใจความเป็นไปและเฉลยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างปรุโปร่ง ภายใต้ความเวอร์วังอลังการที่เป็นไปไม่ได้ในโลกจริงอยู่แล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่าโม้ได้เก่งในความไม่น่าเชื่อและลงตัวสร้างความบันเทิงได้เต็มอิ่มไม่รู้สึกอิหลักอิเหลื่อ มีความลงตัวกลมกล่อม รวมถึงการแทรกมุขเติมความตลกคั่นเข้าไปในระหว่างการสู้รบเพื่อคลายเครียดผ่านตัวละครหลักที่รับหน้าที่นี้ก็ทำได้ดี

คงต้องยอมรับว่า Fast 8 ทำหนังได้ดีตามสูตรที่วางไว้ ดุเดือดเผ็ดมันด้วยการไล่ล่าพร่าผลาญแบบวินาศสันตะโร คอมพิวเตอร์กราฟฟิก คิวบู๊ เพราะตลอด 16 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ภาคแรกจนมาถึงภาคปัจจุบันเฉลี่ย 2 ปีเรื่อง ผ่านผู้กำกับการแสดงมาหลายคน แต่จิตวิญญาณของหนังตระกูลนี้ในเรื่องความเร็ว และสายสัมพันธ์ของครอบครัว เครือข่ายสายใยของมิตรภาพยังมีอยู่ในแก่นของเรื่องอยู่เสมอ และพยายามมีพัฒนาการไปสู่คนดูในวงกว้างขึ้นมากกว่ากลุ่มวัยรุ่น อย่างเช่น ภาค 1-3 ขยับสู่คนดูหนังแอ็กชั่น-อาชญากรรม ในภาค 4-7 โดยรักษากลุ่มคนดูกลุ่มเดิมไว้อย่างเหนียวแน่นเช่นกัน

มาถึงภาค 8 นี้ ขยับขึ้นมาอีกขั้นเพื่อนำไปสู่ขอบข่ายใหม่ๆ ของหนังแอ็กชั่นสงครามพิทักษ์โลก ที่เป็นมหากาพย์ของสงครามผ่านไซเบอร์ยุคใหม่ที่น่าสนใจ และกลายเป็นหนังที่สามารถเอาใจขาหนังคอแอ็กชั่นได้ทั้งหมดเรียบร้อยไปแล้ว

สุดท้ายอยากให้จับตาตัวละครที่เด่นที่สุด นอกจากตัวร้ายสาวแฮ็กเกอร์จิตโหด ชาร์ลิซ เทอรอน แล้วนั่น เด็กชายวัยไม่กี่เดือน ซึ่งรับบทเป็นลูกชายของดอม หรือ วิน ดีเซล ก็เป็นหนึ่งในตัวละครที่เอาคนดูอยู่แบบฉมังเลยทีเดียว