พลังการ์ตูน ทลาย ‘โลก’ ออทิสติก

โดย...แหนง-ดู

หนังสารคดีที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม ซึ่งเช้าวันจันทร์นี้ก็จะได้รู้ว่า ใครเป็นผู้คว้ารางวัลไป

นับเป็นหนัง “คัมมิ่ง ออฟ เอจ” ในอีกหนึ่งสีสันรสชาติ เล่าเรื่องราวของเด็กออทิสติกและครอบครัวของเขาซึ่งต้องดิ้นรนฟันฝ่าอุปสรรคและความลำบากนานา โดยมี “ตัวช่วย” ที่สำคัญคือ การ์ตูนดิสนีย์

สารคดีเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของโอเวน ซัสไกนด์ และครอบครัว นับตั้งแต่เขายังเด็กกระทั่งเป็นหนุ่มวัย 20 ต้นๆ ที่เพิ่งเรียนจบ และต้องออกจากบ้านเพื่อใช้ชีวิตด้วยตัวเอง

ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 3 ขวบ โอเวน ก็ไม่ต่างกับเด็กคนปกติทั่วไป ก่อนที่หนูน้อยจะมีปฏิกิริยาตอบรับกับสิ่งต่างๆ รอบตัวแปลกต่างออกไป สื่อสารกับคนอื่นไม่ได้ การทรงตัวผิดปกติ ฯลฯ ก่อนที่แพทย์จะวินิจฉัยว่าโอเวนมีอาการออทิสติก

ในช่วงปี 1990 ที่ออทิสติกยังเป็นก้อนเมฆสีเทาในวงการแพทย์ พ่อแม่ผู้หัวใจสลายพยายามทำทุกทางเพื่อให้ลูกมีชีวิตรอด อาจจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็ช่วยส่งเสริมพัฒนาการ และลดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมให้ใกล้เคียงเด็กปกติที่สุด สำคัญสุด คือ ในระยะเวลาที่พ่อกับแม่ยังมีชีวิตอยู่นั้นขอให้โอเวนสามารถช่วยเหลือและอยู่ด้วยตัวเองได้

ระหว่างที่พยายามหาหนทางช่วยเหลือลูก พ่อแม่ของ โอเวน ก็ค้นพบว่า การ์ตูนดิสนีย์ที่เจ้าหนูดูซ้ำไปซ้ำมาครั้งแล้วครั้งเล่านั้นสามารถพาลูกชายของพวกเขาให้ออกมาจากอาการออทิสติก โอเวนเรียนรู้ชีวิตและแสดงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวด้วยการ์ตูนดิสนีย์

ผลงานของผู้กำกับ โรเจอร์ รอสส์วิลเลียมส์ ซึ่งมีชื่อขึ้นมาจาก Music by Prudence (ปี 2010) โดยคว้ารางวัลออสก้าสาขา Best Documentary Short Subject สร้างจากหนังสือ Life, Animated : A Story of Sidekicks, Heroes, and Autism ซึ่ง รอน ซัสไกนด์ นักข่าวรางวัลพูลิตเซอร์ พ่อของ โอเวน เป็นผู้เขียน แม้จะไม่ได้ร่วมลงทุนสร้างแต่ทางดิสนีย์ ค่ายการ์ตูนดังก้องโลกก็ให้การสนับสนุนเต็มที่ด้วยอนุญาตให้นำภาพจากหนังหลายๆ เรื่อง รวมทั้งคาแรกเตอร์การ์ตูนหลายตัวมาใช้ได้แบบฟรีๆ

หนังสารคดีเรื่องนี้ทำให้เรายิ้มและน้ำตาซึมไปพร้อมๆ กัน “Life, Animated ...ขอบคุณนะที่โลกนี้มีการ์ตูน” ยังทำให้เราทึ่งในพลังแห่งความรัก แม้ใครบางคนจะต้องล้มลง หรือตกหลุมอุปสรรค ผ่านขวากหนามชีวิต แต่ด้วยความรักที่มีอยู่จะโอบกอดเราเอาไว้ ทำให้ลุกขึ้นยืน และเดินหน้าต่อได้

ที่สำคัญ คือ หนังอาจทำให้มุมมองเกี่ยวกับ “การ์ตูน” ของผู้คนเปลี่ยนไป