ศิตา ชุติภาวรกานต์ กับชิ้น ‘ลิมิเต็ด เอดิชั่น’
แฟชั่นนิสต้าสาวผู้หลงใหลแฟชั่นจนนำมาสู่การเปิดตัว “บีชู รันเวย์” (Bchurunway) แหล่งรวมแบรนด์แฟชั่นชั้นนำในรูปแบบเช่าอย่างเป็นทางการที่แรกและที่เดียวในไทย
เรื่อง: พุสดี สิริวัชระเมตตา ภาพ: วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี
แฟชั่นนิสต้าสาวผู้หลงใหลแฟชั่นจนนำมาสู่การเปิดตัว “บีชู รันเวย์” (Bchurunway) แหล่งรวมแบรนด์แฟชั่นชั้นนำในรูปแบบเช่าอย่างเป็นทางการที่แรกและที่เดียวในไทย ที่เปิดโอกาสให้สาวๆ ยุคดิจิทัลได้สนุกกับการสร้างลุคสวยได้ทุกวัน เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอคือ “ศิตา ชุติภาวรกานต์” สตาร์ทอัพสาวสวยที่รักในแฟชั่น ผ่านสมรภูมิการช็อปมาแล้วอย่างดุเดือด เพื่อให้ได้ครอบครองกระเป๋า รองเท้าและรันเวย์พีซที่หมายตา
ครั้งนี้เราจะตามไปกรุแฟชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟของศิตา ซึ่งเธอคัดเฉพาะลิมิเต็ด เอดิชั่น พีซมาให้ได้ชมเท่านั้น
ระหว่างที่ค่อยๆ เผยโฉมของรักของหวงที่เธอใช้อย่างทะนุถนอมและเก็บรักษาอย่างดี ศิตา บอกเล่าถึงความชอบในการเริ่มสะสมกระเป๋าที่เป็นลิมิเต็ด คอลเลกชั่น ว่าด้วยความที่ชอบแต่งตัวอยู่แล้ว แต่นิสัยของเธอจะไม่ใส่เสื้อผ้าซ้ำ และไม่ชอบใช้ของอะไรแล้วไปชนกับคนอื่น เสื้อผ้าบางไอเท็มจึงเลือกเป็นรันเวย์พีซ ส่วนกระเป๋า รองเท้า หรือ นาฬิกา อาจจะไม่ได้เปลี่ยนบ่อยเท่าเสื้อผ้านั้นก็จะเลือกที่เป็นลิมิเต็ด เอดิชั่น
ว่าแล้วก็ยกตัวอย่างกระเป๋าใบใกล้ตัว อย่าง เลดี้ ดิออร์ (Lady Dior) ลิมิเต็ด เอดิชั่น ชิ้นแรกที่เริ่มครอบครอง
“ใบนี้เป็นสีคัสตาร์ด หาไม่ได้อีกแล้ว เพราะทั่วโลกมีแค่ 20 ใบ และไม่มีขายในไทย ตอนที่รู้ว่ามีที่ญี่ปุ่นอยู่ 1 ใบ ศิตาก็ตั้งใจบินไปซื้อเลย ใบนี้เท่าที่ศิตาเคยเห็นใช้ มีแค่คนเดียวคือ ฟ่านปิงปิง (นักแสดงชื่อดังชาวจีน)”
ถัดมาอีกใบที่รักและหวงมากไม่แพ้กันคือ กระเป๋าดีไซน์เก๋จากชาแนล (Chanel) คอลเลกชั่น Fall/Winter 2017 Runway Bag Collection -- หายากแค่ไหน ศิตา กระซิบว่า แม้แต่เดินเข้าช็อปชาแนลในไทยพนักงานยังถามว่าได้มาจากไหน
“ศิตาชอบแนวกาแล็กซีอยู่แล้ว ใบนี้ชอบทั้งสีเงินและทรงที่ถือเป็นคลัตช์ หรือสะพายข้างก็ได้ ใบนี้เห็นจากแฟชั่นบล็อกเกอร์คนหนึ่งใช้แล้วชอบมาก ตามหาอยู่นานก็ไม่ได้ เคยไปถามช็อปในไทยตอนแรกพนักงานบอกว่าไม่เข้า แต่ก็ยังแอบหวังอยู่ลึกๆ เลยฝากพนักงานว่า ถ้ามีเข้ามาให้โทรบอก สุดท้ายก็เข้ามาจริงๆ
อีกใบที่ได้มายากเหมือนกันคือ Chanel Coco 9 Lizard สีขาว ตรงหูทำจากหนังวัวเคลือบสีพิเศษ ใบนี้ซื้อจากช็อปที่ฮ่องกง จำได้ว่าตอนที่ซื้อเขาจะมีกฎด้วยว่า ถ้าซื้อมาแล้วห้ามซื้อซ้ำอีก”
ระหว่างที่กำลังเพลินกับเรื่องราวของกระเป๋าแต่ละใบ สายตาก็พลันสะดุดตากับคลัตช์สีเขียวกากีที่ยิ่งมองยิ่งสวย ด้วยฝีมือการปักแสนประณีต ศิตาเฉลยว่าเป็นคลัตช์ของหลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton)
“ใบนี้หายากเหมือนกัน แต่เพราะศิตาชอบมาก เลยถึงขั้นต้องอีเมลไปถามที่สำนักงานใหญ่ที่ฝรั่งเศสว่า ยังมีของหรือเปล่า ปรากฏเขาบอกว่าเป็นลิมิเต็ด เอดิชั่น ตอนนี้ยังไม่มี ถ้ามีจะแจ้งมา ศิตาก็รอผ่านไป 2 เดือน เขาแจ้งว่ามีของเข้าช็อปที่ฝรั่งเศส แต่ตอนนั้นศิตาติดถ่ายละครไม่สะดวกไป เขาเลยยื่นข้อเสนอให้เราโอนเงินไปที่ช็อปที่ฝรั่งเศสก่อน แล้วค่อยมารับของทีหลัง จากที่ไม่เคยยอมซื้อของแบบพรีออร์เดอร์ แต่ครั้งนั้นศิตาก็ยอมนะ แถมจ่ายเงินไปแล้วต้องรออีก 3 เดือน กว่าจะมีเพื่อนไปฝรั่งเศสแล้วให้ช่วยหิ้วกลับมาให้ พอได้มากรี๊ดเลยค่ะ”
กว่าจะได้ครอบครองกระเป๋าแต่ละใบนั้นไม่ง่ายเลย แถมราคาบางใบก็สูงกว่าปกติเพราะเป็นลิมิเต็ด เอดิชั่น ทำให้ศิตาดูแลกระเป๋าทุกใบเป็นอย่างดี นอกจากใช้อย่างระมัดระวัง ถ้าฝนตกก็ยอมเป็นกำบังให้กระเป๋า หลังจากใช้เสร็จทุกครั้งเธอยังทำความสะอาดอย่างดี เก็บไว้ในตู้ที่สามารถมองเห็นได้ทุกใบ
นอกจากกระเป๋าแล้ว เครื่องประดับยังเป็นอีกไอเท็มแสนรัก ซึ่งวันนี้เธอเลือกมาให้เราชื่นชม (ด้วย) 2 ชิ้น คือ สร้อยคอจากกุชชี่ (Gucci)
“ชิ้นนี้หยิบมาใส่ทีไร ต้องมีคนทักตลอด เพราะว่าสิงโตคาบเชอร์รี่ลูกใหญ่มาก (หัวเราะ) ชิ้นนี้ได้จากมิลาน เป็นรันเวย์พีซที่น่าจะหาไม่ได้อีกแล้ว”
อีกชิ้นคือ นาฬิกาปาเต๊ะ ฟิลิปป์ นอติลุส (Patek Philippe Nautilus) ซึ่งเป็นดีไซน์สปอร์ตแบบแรกของแบรนด์ “ปกติจะเห็นแต่แบบที่หน้าปัดไม่ล้อมเพชร แต่เรือนนี้เป็นแบบล้อมเพชร และหน้าปัดยังเป็นสีเทา ด้านหลังโชว์กลไกของตัวเรือนหายากมาก ตอนที่ศิตาไปเจอซื้อจากช็อปที่เยอรมนีก็ไม่คิดว่าจะได้ แค่ลองถามเล่นๆ ปรากฏว่ามี เลยซื้อกลับมา”
พาเพลินกับเรื่องสวยๆ งามๆ มาพอควรศิตาปิดท้ายด้วยรองเท้าลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่ชวนว้าว เริ่มจากสนีกเกอร์ของคริสติยอง ลูบูแตง (Christian Louboutin) ที่นานๆ จะมีมาให้เห็นสักที เพราะปกติสาวๆ จะคุ้นกับส้นสูง แต่รุ่นนี้เป็นสนีกเกอร์ที่ยังคงคอนเซ็ปต์พื้นรองเท้าสีแดง แถมมีกลิตเตอร์มีเพียง 1,000 คู่ทั่วโลก แต่ศิตาก็ตามหาจนได้มาจากช็อปที่อังกฤษ อีกคู่ที่เธอภูมิใจมากๆ ถึงจะไม่ใช่ไซส์ที่ใช่ แต่ก็ยังยอมซื้อและใส่นั่นคือ บาเลนเซียก้า (Balenciaga) รุ่น Triple S
“คู่นี้ได้จากออสเตรเลียค่ะ จริงๆ ศิตาใส่รองเท้าเบอร์ 37 แต่คู่นี้เบอร์ 39 ใส่ขับรถไม่ได้เลย หลุด ถ้าจะใส่ถ่ายแบบต้องใส่ถุงเท้าหนาๆ คู่นี้ ศิตาตัดสินใจอยู่นานนะกว่าจะซื้อ เพราะไม่ใช่ไซส์เรา แต่เพราะตามหามานาน จนตั้งใจว่าเจอสีอะไรก็จะซื้อ ทั้งที่ใจจริงอยากได้สีขาวหรือครีม พอมาเจอคู่นี้เลยต้องยอมเพราะสีนี้หายากมากจริงๆ” ศิตาเล่าไปขำไป
