posttoday

นาฬิกา คุณค่าทางใจ ภูมิพัฒน์ รองรัตน์

15 สิงหาคม 2561

'นาฬิกา' ของสะสมสุดรักสุดหวงที่เป็นบทพิสูจน์ถึงการประสบความสำเร็จในอาชีพการงานของ ต่อ-ภูมิพัฒน์ รองรัตน์

เรื่อง: วราภรณ์ ผูกพันธ์ ภาพ: วิศิษฐ์ แถมเงิน

รางวัลแห่งการประสบความสำเร็จของแต่บุคคลแตกต่างกัน ดังเช่น นาฬิกา ของสะสมสุดรักสุดหวงนอกจากได้ความสุข นาฬิกาบางเรือนยังเป็นบทพิสูจน์ถึงการประสบความสำเร็จในอาชีพการงานบางช่วงขณะของ ต่อ-ภูมิพัฒน์ รองรัตน์ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งบริษัท คัลเลอร์ วัน แคปปิตอล ธุรกิจเกี่ยวกับการดูแล บูรณาการซ่อมแซมรถซูเปอร์คาร์ เครื่องบิน เรือยอชต์ เช่น การเคลือบป้องกันรักษาผิวรถ เรือ เครื่องบิน โดยดำเนินธุรกิจมาแล้ว 6 ปี เริ่มจากซื้อแฟรนไชส์มาจากเมืองนอก Color Glo ปัจจุบันเปิดให้บริการในประเทศไทยและอาเซียน

การทำงานกับสินค้าลักซ์ชัวรี่ซึ่งเป็นที่เขาชื่นชอบอยู่แล้ว จึงเข้าใจหัวอกของคนที่มีของรักของหวงราคาแพง จึงอยากดำเนินธุรกิจที่ช่วยดูแลของรักของหวงเหล่านั้นของคนอื่นให้คงความสวยงามอยู่เช่นเดิม และด้วยความชื่นชอบนาฬิกาภูมิพัฒน์ได้รับเชิญมาเล่าเรื่องราวความชื่นชอบนาฬิกาเนื่องในงานเทศกาลนาฬิกาให้กับงาน “เซ็นทรัล/เซน อินเตอร์เนชั่นแนล วอตช์ พรี-แฟร์ 2018” นำแบรนด์ระดับโลกคัดสรรนาฬิกาเรือนเด่น คอลเลกชั่นพิเศษ ลิมิเต็ด เอดิชั่น มีเพียงไม่กี่เรือนในประเทศไทย ตลอดจนคอลเลกชั่นล่าสุดส่งตรงจากงาน “บาเซิลเวิลด์ 2018” และงาน SIHH ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มาให้คนไทยและต่างชาติได้จับจองเป็นเจ้าของ งานจัดระหว่างวันที่ 21 ส.ค.-30 ก.ย. ณ ดิ อีเวนต์ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัล ชิดลม และที่แผนกนาฬิกา ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา และเซน

“สิ่งของบางชิ้น เราอยากเก็บไว้ เช่น โซฟาของคุณตา ซึ่งมีคุณค่าทางใจ น้ำท่วมกรุงเทพฯ เป็นจุดเริ่มต้นทำธุรกิจ ข้าวของเสียหายเยอะมาก โยงกับเศรษฐกิจพอเพียง เราก็เลยได้คอนเซ็ปต์บูรณาการสิ่งเหล่านี้ สอดคล้องกับผมชอบลักซ์ชัวรี่ไอเท็ม ทำให้ผมเก็บสะสมนาฬิกา เนื่องจากนาฬิกามีความประณีตในการประกอบ มีการใช้เครื่องกลไก การจัดวางฟังก์ชั่นต่างๆ วัสดุนาฬิกาใช้ความประณีต ผมเห็นคนมาทำรถส่วนใหญ่ชอบนาฬิกาทุกคน เราจึงต้องการความเนี้ยบ บางคนชอบคลาสสิกคาร์ อยากให้คงสภาพ มันทัชได้ทุกเซ็กเตอร์ของคน”

นาฬิกา คุณค่าทางใจ ภูมิพัฒน์ รองรัตน์

ย้อนกลับไปความชอบในวัยเด็ก ต่อชื่นชอบนาฬิกาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เห็นเพื่อนนักเรียนที่โรงเรียนประจำใส่ตอนไปเรียนต่อที่อังกฤษเป็นนาฬิการุ่นจี-ช็อก ก็รบเร้าให้คุณแม่ซื้อให้ เรือนที่ 2 คือ ทิสโซต์ ต่อมาคือแทคฮอยเออร์เป็นรุ่นก่อนก้างปลา รุ่นสปอร์ตเม็ดเล็กๆ นั่นคือแรงจูงใจให้เริ่มสะสมนาฬิกา

หลังศึกษาจบปริญญาตรีด้านการจัดการและบริหารการตลาดจากมหาวิทยาลัยพอร์ตแลนด์ ในวัย 25 ปี เขาไม่อยากกลับเมืองไทยทันทีจึงเริ่มทำงานโดยเงินเก็บก้อนแรกๆ นำไปซื้อรถเบนซ์ กับนาฬิกาแทคฮอยเออร์ใช้ นั่นคือเป็นจุดเริ่มต้นของการสะสมนาฬิกาอย่างจริงจัง ทำงานอยู่ที่อเมริกานาน 1 ปี จึงกลับมาช่วยบริหารธุรกิจของที่บ้านด้านอสังหาริมทรัพย์และทำธุรกิจเหล็กเดอะสตีล ซึ่งพอทำงานได้เองแล้ว การเก็บนาฬิกาเป็นของสะสม ซึ่งถือเป็นปัจจัย 4 ที่ไม่มีก็ได้ แต่พอภูมิพัฒน์สามารถเก็บเงินแล้วซื้อนาฬิกาเรือนที่ชอบด้วยตัวเอง เช่น นาฬิกาแทคฮอยเออร์ที่เขาเลือกซื้อจึงถือเป็นความภาคภูมิใจที่ซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ทำให้เขารู้สึกภูมิใจกับมันตั้งแต่ทำงานอยู่อเมริกา

ปัจจุบันภูมิพัฒน์เก็บสะสมนาฬิกาไว้ในครอบครอง 40 เรือนโดยค่อยๆ ซื้อเก็บ

“นาฬิกาเรือนแรกๆ ที่เก็บสะสมจริงจังคือแทคฮอยเออร์ ต่อมาคือโรเล็กซ์ รุ่นซับมารีเนอร์ รุ่นเดย์โทน่า ฯลฯ ตอนผมสะสมผมดูความชอบตัวเองเป็นหลัก และศึกษาจากหนังสือนาฬิกาดูเพื่อให้อินเทรนด์ว่าเขานิยมอะไรกัน การสะสมนาฬิกาทำให้ผมได้ความรู้และได้วิชั่นหลายอย่าง ได้ลองผิดลองถูก”

นาฬิกาแต่ละเรือนที่ภูมิพัฒน์เก็บ ก็แอบมีความยากกว่าจะได้มา เช่น ปาเต๊ะ ฟิลิป 5980 เรือนที่เขามีเรือนแรกๆ คือหน้าปัดเป็นสีขาวตาเดียว ซึ่งมีความหมายกับเขามาก สะท้อนว่าเขาได้ทำงานและผ่านมาอีกสเต็ปหนึ่งของชีวิตแล้ว

นาฬิกา คุณค่าทางใจ ภูมิพัฒน์ รองรัตน์

“ตอนผมทำคัลเลอร์โกลใหม่ๆ แล้วธุรกิจเริ่มไปได้ดี ผมจึงให้รางวัลกับตัวเองด้วยการซื้อเรือนนี้ เป็นสัญลักษณ์ว่า ผมสามารถยืนด้วยตัวเองแล้ว ราคาประมาณล้านกว่าบาท เพราะโรเล็กซ์อยู่ที่หลักแสนแปดแสนเก้า แต่เรือนนี้เหยียบล้าน มันคือที่สุดของผมในตอนนั้น ใส่แล้วผมรู้สึกภูมิใจ จริงๆ นาฬิกาคือของนอกกาย แต่สิ่งสำคัญคือข้างในของเราสำคัญกว่า แต่ด้วยภาพลักษณ์ภายนอกเพราะคนไทยติดแฟชั่น ติดภาพลักษณ์ ซึ่งภาพลักษณ์จะมาจากสิ่งที่เราสวมใส่ เราตระหนักทำให้เราอาจได้งานต่างๆ มีสังคมที่ดี แต่จริงๆ แล้วสิ่งเหล่านี้ปัจจัยสี่นอกกาย ผมมองว่า เราไม่ควรยึดติดกับเรื่องเหล่านี้มากเกินไป เช่น ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์เลือกใส่นาฬิกาแบรนด์ญี่ปุ่นเพื่อการทรงงาน สิ่งเหล่านี้สอนเราคือนาฬิกาเอาไว้บอกเวลา ไม่ต้องเอามาใส่โชว์ เวลาเป็นสิ่งสำคัญซึ่งเราย้อนเวลากลับมาไม่ได้”

ไม่ว่านาฬิกาจะราคาถูกหรือแพงก็ใช้บอกเวลาได้เหมือนกัน มีคุณค่าทางจิตใจของแต่ละบุคคลไม่ด้อยกว่ากัน แต่ให้ดูนาฬิกาให้ประโยชน์กับเขาหรือไม่ นอกจากนี้นาฬิกาบางเรือนยังถือเป็นรางวัลให้กับตนเอง เพราะภูมิพัฒน์บอกว่าการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จบางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย การเดินด้วยขาของตัวเองยากกว่า

หากถามถึงนาฬิกาเรือนโปรด 3-4 เรือน ภูมิพัฒน์บอกว่าเขาขอยกให้โรเล็กซ์ เดย์โทน่า พิงค์โกลด์ สามารถใส่สมบุกสมบันแค่ไหนก็ได้ โดยเขาเก็บสะสมเดย์โทน่า ราว 3-4 เรือน นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาแบรนด์ ริชาร์ด มิลล์ เป็นนาฬิกาแบรนด์ใหม่ที่เป็นที่พูดถึงช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นนาฬิกาดีไซน์กึ่งแฟชั่นนิดๆ สนนราคาอยู่ที่ 6 ล้าน เป็นรุ่นที่ 3 อาร์เอ็ม 11, 03 เป็นเวอร์ชั่นใหม่ของปี 2018 ที่เพิ่งออก

นอกจากนี้ ยังมี Skeleton รุ่นสีทอง รอยัลโอ๊ค ทูบิยอง ที่ภูมิพัฒน์ชื่นชอบ Skeleton เพราะมีหลายรุ่น รุ่นที่เขามีครอบครองเป็นทูบิยองปกติอยู่ด้านขวามือ แต่เรือนของเขาระบบกลไกอยู่ตรงกลางด้วยดีไซน์ถูกใจจึงสั่งซื้อจากแบรนด์โดยตรง โดยนาฬิกาที่เขานำมาโชว์ในถาดราว 10 เรือน เขาชอบทุกเรือน ล้วนเป็นแบรนด์ที่เขาสะสม เช่น ปาเต๊ะ ฟิลิป, เอพี, โรเล็กซ์, แทคฮอยเออร์, ริชาร์ด มิลล์, คาเทียร์ เซรามิก, พาเนราย ที่มีประวัติน่าสนใจคือเป็นแบรนด์อิตาเลียนที่เกิดช่วงสงครามโลก ทหารไปรบก็ต้องใส่นาฬิกายี่ห้อนี้ หรือใส่ดำน้ำเพราะมีความทนทานสูง

“พาเนราย ผมมีหลายเรือนเหมือนกัน ผมใส่แล้วรู้สึกเท่ดีไม่ต้องระวังมากๆ ดีไซน์เรียบๆ แต่เรือนที่ซื้อที่เซ็นทรัล คือแบรนด์ คาร์ล เอฟ. บุคเคอเรอร์ ผมซื้อตัวเรือนประดับเพชรเพื่อใส่ในวันแต่งงาน เพราะเข้าได้พอดีกับสูท รุ่นนี้มีเพียง 2 เรือนเท่านั้น ของผมเป็นสายหนังสีน้ำตาลมีเพชรประดับทั้งหมด 47 เม็ด ราคาเจ็ดถึงแปดแสนบาท” การสะสมนาฬิกาของภูมิพัฒน์จึงเหมือนให้รางวัลกับตัวเอง อีกทั้งยังถือเป็นของมีค่าที่ซื้อเป็นของแทนใจเพื่อส่งมอบต่อให้ภรรยา เช่น ในเทศกาลวันเกิด และเพื่อส่งต่อให้ลูกชาย 2 คน วัย 6 และ 4 ขวบ ที่ต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า

“ผมคิดว่าการเก็บนาฬิกาก็ถือเป็นการออมเงินส่วนหนึ่ง ผมเคยให้คำแนะนำน้องคนหนึ่งว่า ไปเที่ยวญี่ปุ่น เขาอยากซื้อปาเต๊ะฯ มาก ผมแนะนำว่าอยากได้ซื้อไปเลย วันหนึ่งถ้าคิดจะขาย มันจะมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้น เหมือนการซื้อทองเก็บ เพราะนาฬิกาบางรุ่น ขายไปแล้วก็หาซื้อใหม่ได้ เช่น บางเรือนผมซื้อมาล้านสี่ ตอนนี้ขายได้สองล้านแล้ว บางเรือนหายาก หน้าปัดดำ น้ำเงิน สำหรับผมออมเงินด้วยการซื้อนาฬิกาแล้วไม่ค่อยปล่อย แต่ก็มีปล่อยบ้างและมีซื้อกลับมา ผมอยากแนะนำคนอื่นในการเก็บสะสมนาฬิกาว่า เลือกที่ตัวเองชอบ พอดีกับกระเป๋าเรา แต่ถ้าไปซื้อแล้วลำบากตัวเอง ไม่ดีครับ”

นาฬิกา คุณค่าทางใจ ภูมิพัฒน์ รองรัตน์

นอกจากเก็บสะสมนาฬิกาแล้ว ภูมิพัฒน์ยังมีภาพศิลปะสวยๆ ฝีมือการวาดของ ถวัลย์ ดัชนี จิตรกรเอกผู้ล่วงลับ โดยการมอบให้ของดอยธิเบศร์ ดัชนี บุตรชาย ให้เป็นของขวัญปีใหม่เพราะชื่นชอบในนิสัยใจคอของนักขับรถซูเปอร์คาร์ด้วยกัน อีกทั้งเขากับดอยธิเบศร์ยังเคยทำโปรเจกต์เคลือบพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อครั้งพระองค์สวรรคตเมื่อวันที่ 13 ต.ค. เพื่อให้ประชาชนสามารถเก็บภาพประวัติศาสตร์ช่วงสำคัญนี้เป็นความทรงจำไปได้นานๆ

มากไปกว่านั้น ภูมิพัฒน์ยังเก็บสะสมรถมอเตอร์ไซค์ ด้วยหลงรักงานดีไซน์ของ พอล สมาร์ท นักแข่งจักรยานยนต์ระดับตำนานของดูคาติ และนักออกแบบมอเตอร์ไซค์ ในฐานะเป็นแบรนด์ดีไซเนอร์ของดูคาติ เขาจึงจับมือกับดูคาติประเทศไทยออกแบบรถมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษ “พอล สมาร์ท สแกรมเลอร์” เป็นลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่มีเพียง 24 คันในโลก และจำหน่ายเพียงที่ประเทศไทยเพียงแห่งเดียว สนนราคาเหยียบๆ 1 ล้านบาท ซึ่งภูมิพัฒน์ก็มีสะสมไว้ 1 คัน พร้อมกับมีลายเซ็นของ พอล สมาร์ท กำกับไว้ด้วย จึงถือเป็นของรักของหวงของภูมิพัฒน์ที่เขาภาคภูมิใจอีกชิ้นหนึ่ง

นาฬิกา คุณค่าทางใจ ภูมิพัฒน์ รองรัตน์