posttoday

อานนท์ ฮุนตระกูล  แค่ตั้งใจ...อะไรก็สำเร็จ

17 เมษายน 2561

จากคนที่เกลียดธุรกิจร้านอาหารมาทั้งชีวิต เพราะโตมากับธุรกิจนี้แบบไม่มีทางเลือก แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตากลับเล่นตลกให้ เค-อานนท์ ฮุนตระกูล ตกหลุมรักธุรกิจร้านอาหารเข้าอย่างจังจนถอนตัวไม่ขึ้น 

เรื่อง พุสดี สิริวัชระเมตตา, จุฑามาศ นิจประพันธ์ ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

จากคนที่เกลียดธุรกิจร้านอาหารมาทั้งชีวิต เพราะโตมากับธุรกิจนี้แบบไม่มีทางเลือก แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตากลับเล่นตลกให้ เค-อานนท์ ฮุนตระกูล ตกหลุมรักธุรกิจร้านอาหารเข้าอย่างจังจนถอนตัวไม่ขึ้น 

“ผมเรียนที่สาธิตประสานมิตร จนถึง ป.4 ก็ย้ายไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส เพราะครอบครัวย้ายไปอยู่ที่ปารีสเพื่อเปิดร้านอาหารไทย ชีวิตวัยเรียนของผมไม่ได้มีโอกาสไปสนุกกับเพื่อนๆ ตามประสาเด็กทั่วไป เลิกเรียนก็ต้องกลับมาอยู่ร้าน ประจำการอยู่หลังบาร์เครื่องดื่ม เพราะโต๊ะอาหารต้องสงวนที่ไว้ให้ลูกค้า วันหยุดผมก็ต้องอยู่ร้าน พอช่วงที่ร้านปิดช่วงบ่าย ผมก็ช่วยห่อเปาะเปี๊ยะหรือปั้นกระทงทอง ถุงเงินถุงทองตามประสา ทำให้ได้ซึมซัมกับบรรยากาศในร้านอาหารมาตั้งแต่ตอนนั้น แต่ถามว่าชอบมั้ย คำตอบคือไม่เลย”

พอย่างเข้าวัยรุ่น เคได้ย้ายไปเรียนโรงเรียนประจำที่อังกฤษ ซึ่งเจ้าตัวให้คำจำกัดความว่า ห่างไกลจากความเป็นเมือง รอบตัวมีแต่ทุ่งหญ้า แต่อย่างน้อยที่นี่ก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้จากเด็กหลังห้อง ที่ขอแค่เรียนให้ผ่านไปวันๆ กลายเป็นเด็กหัวกะทิที่ครูชื่นชม และยกให้เป็นตัวอย่างของเพื่อนๆ

“ตอนอยู่เมืองไทย ผมเรียนแย่มาก รั้งท้ายตลอด มีอยู่ครั้งหนึ่งคุณครูถึงกับเรียกเข้าห้องพักครู แล้วก็พูดไปร้องไห้ไปกับผมว่า อานนท์ทำไมเธอถึงเป็นเด็กที่แย่อย่างนี้ ไม่ตั้งใจเรียน การบ้านไม่ทำ (ยิ้ม) พอมาฝรั่งเศสยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ภาษาก็ไม่ได้ เราก็แค่เรียนๆ ไป คะแนนที่ออกมาก็แย่ จนมาอยู่อังกฤษ ด้วยความที่เป็นโรงเรียนประจำมีกฎระเบียบค่อนข้างมาก เลิกเรียนก็ต้องมานั่งรวมกันที่ห้องโถง มีครูนั่งคุมให้ทำการบ้าน ทบทวนบทเรียน 1 ชั่วโมง ทุกคนก็ต้องทำเพราะไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้จะทำอะไร จำได้ว่า ครั้งหนึ่งผมทำการบ้านวิชาฟิสิกส์ จริงๆ ครูให้ทำ 2 ข้อ แต่ผมทำไปหมดเลย 7 ข้อ เพราะเป็นเรื่องที่ผมเรียนมาหมดแล้ว

ปรากฏว่า วันรุ่งขึ้น ครูเรียกเลย อานนท์ ผมก็คิดในใจว่า ตายแล้วโดนด่าแน่นอน เขาให้ผมมายืนหน้าห้อง แล้วก็บอกว่า ทุกคนดูอานนท์เป็นตัวอย่างนะ เขาเป็นเด็กใหม่ แต่เป็นเด็กที่ขยันมาก ครูยังไม่ได้สั่งให้ทำแบบฝึกหัดทั้งหมด แต่เขาทำจนหมดแถมยังถูกหมดทุกข้อด้วย ขอให้ทุกคนจำเป็นตัวอย่าง” เค เล่าด้วยหัวใจที่พองโต

อานนท์ ฮุนตระกูล  แค่ตั้งใจ...อะไรก็สำเร็จ

“โมเมนต์นั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตผมเลยก็ว่าได้ ผมยังจำครูคนนั้นได้ ต้องขอบคุณเขาจริงๆ เพราะเขาทำให้ผมได้สัมผัสถึงความรู้สึกดีๆ เวลามีคนมาชื่นชมว่าเราเก่ง จากที่ผ่านมาผมไม่เคยได้รับมาก่อนเลย ทำให้ผมค้นพบว่าคนเราถ้าตั้งใจทำอะไรแล้ว ก็ไม่ได้ยากเกินกำลัง ทุกวันนี้ผมสอนลูกผมเสมอ เวลาลูกผมบ่นว่าอะไรยาก ผมจะถามว่าแล้วได้ตั้งใจทำอย่างเต็มที่หรือยัง”

หลังจากเรียนจบ เคตัดสินใจสอบเข้าคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน ด้วยความเข้าใจผิดคิดว่า จะหนีวิชาเลขที่ไม่ชอบพ้น แต่ปรากฏว่าการตัดสินใจเขาไม่ต่างกับการหนีเสือปะจระเข้

“ผมไม่ชอบเลข ไม่เคยท่องสูตรคูณ เชื่อมั้ยว่าจนทุกวันนี้ผมก็ยังท่องไม่ได้ แต่ถ้าถามผมว่า 7x8 ได้เท่าไหร่ ผมตอบได้ ด้วยวิธีหาผลลัพธ์ในแบบของผม (ยิ้ม) ตอนที่จะเลือกเรียนต่อมหาวิทยาลัย คุณพ่อถามว่าจะเรียนอะไร ผมบอกว่าจะเรียนธุรกิจ แต่คุณพ่อมองว่าไม่จำเป็น ให้ไปเรียนรู้เอง ผมเลยมาเลือกเศรษฐศาสตร์ เพราะคิดว่าเลขน้อยแต่ผิดคาด เลขล้วนๆ แต่อย่างที่บอก ผมไม่ใช่คนยอมแพ้และผมไม่ชอบเสียเวลา คือเราเลือกเส้นทางนี้แล้ว ก็ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด ที่สำคัญ ผมไม่ชอบเรียนหนังสือ เพราะฉะนั้นผมจะไม่ยอมเสียเวลาซ้ำชั้นเด็ดขาด ผมพยายามตั้งใจเรียน ท่องหนังสือ ทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ตก ผลจากความตั้งใจและพยายามทำให้ผมกลายเป็นนักเรียนที่ได้เกรดดีที่สุดในหมู่ของคนไทย” เคบอกเล่าถึงวันวานอย่างอารมณ์ดี

“ผมไม่ใช่คนที่ฉลาดโดยธรรมชาติ เพราะผมเคยเห็นเพื่อนที่ฉลาด เข้าใจในบทเรียนได้ดีแบบไม่ต้องพยายาม แต่ที่ผมทำได้มาจากความตั้งใจ และผมเชื่อว่าทุกๆ คนถ้าตั้งใจพอ ไม่ว่าอะไรก็ทำได้ทุกอย่างเช่นกัน”

หลังจากเรียนจบ เคตั้งใจพักหาประสบการณ์ชีวิต แล้วค่อยเริ่มต้นที่อังกฤษ แต่เพราะมีแผนจะแต่งงาน ชีวิตเลยมีอันหักเห ต้องปักหลักอยู่ที่เมืองไทยถาวร

อานนท์ ฮุนตระกูล  แค่ตั้งใจ...อะไรก็สำเร็จ

“ตอนนั้นผมได้งานที่บริษัทซอฟต์แวร์ที่อังกฤษ กะว่าไปเที่ยวก่อนค่อยกลับมาทำ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กลับไปอีกเลย (ยิ้ม) เพราะคิดว่าจะแต่งงาน พอตั้งต้นจะปักหลักอยู่เมืองไทย ผมไม่เคยคิดจะเอาวุฒิการศึกษาที่มีไปสมัครงาน เพราะไม่ใช่สายงานที่ผมชอบ ผมเลือกที่จะเปิดแกลเลอรี่ถ่ายภาพ เพราะชอบถ่ายภาพ แต่เปิดได้ 1 ปีก็ต้องปิด เพราะรู้ว่าไม่รอด รายได้ไม่ดีอย่างมาก ภรรยาผมเลยชวนให้มาทำธุรกิจการ์เมนต์ ผมเลยย้ายบ้านจากสุขุมวิทมาอยู่ศาลายา ซึ่งการเดินทางค่อนข้างเป็นอุปสรรค”

จากศาลายาเวลาจะเข้าเมืองมาหาเพื่อน หรือหาของกินที่ถูกใจต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมง จุดอ่อนนี้เองกลายเป็นที่มาของไอเดียในการเริ่มต้นธุรกิจร้านอาหารที่เคเคยออกปากว่าเกลียด และไม่ขอทำเด็ดขาด

“ผมบ่นกับพ่อตาบ่อยๆ ว่าแถวบ้านเราไม่ค่อยมีร้านอาหาร จะนัดเพื่อนทีก็ต้องฝ่าการจราจรเข้ามาในเมือง สุดท้ายพ่อตาผมเลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เปิดร้านเอง จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของร้านอัญญา ซึ่งเป็นชื่อของลูกสาวผม”

ฟังมาถึงตรงนี้ อดสงสัยไม่ได้ว่า อะไรทำให้เปลี่ยนใจที่จะทำใจรักในธุรกิจที่เคยเกลียดแสนเกลียด เคเฉลยให้หายข้องใจว่า “ความรู้สึกครั้งนี้ต่างจากที่ผ่านมา เพราะผมเริ่มต้นจากศูนย์จริงๆ ไม่ใช่เข้ามาตอนที่ทุกอย่างถูกกำหนดไว้หมดแล้ว ผมมีความสุขที่ได้สร้างร้านอาหารอัญญาด้วยสองมือและหัวใจ ตั้งแต่การวางคอนเซ็ปต์ คิดเมนูอาหาร ความสุขของผมคือ เวลาลูกค้าได้ชิมอาหารแล้วชอบ ชมว่าอร่อย”

อานนท์ ฮุนตระกูล  แค่ตั้งใจ...อะไรก็สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม แม้จะยอมรับว่าเป็นธุรกิจที่ทำแล้วมีความสุข แต่เคยังยืนยันคำพูดที่คุ้นหูใครหลายๆ คนว่า “รักใครอย่าแนะนำให้ทำร้านอาหาร”

“ที่บอกอย่างนี้ เพราะ 3 ปีแรกที่เปิดอัญญา เรียกว่าเพื่อนเลิกคบเลย ต้องอยู่ร้านทุกวัน จะได้หยุดพักผ่อนแค่วันที่ร้านปิดเท่านั้น เพื่อนชวนไปเที่ยวไหนเราก็ไปไม่ได้ จนตอนนี้ผ่านมา 8 ปี ผมว่าทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น พอจะมีตัวตายตัวแทนที่จะเป็นหูเป็นตาให้เราปล่อยมือได้บ้าง ซึ่งความคล่องตัวนี้เองเลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นของร้านอาร์ชี่ ที่ผมอดทนถึง 8 ปี ถึงเปิดร้านที่ 2 เพราะถ้าอัญญา เพลสยังไม่ดีที่สุด ผมก็ยังไม่เลิก ยังคงทำอัญญาต่อไป”

สำหรับเหตุผลที่ไม่ขยายอัญญาสาขา 2 เพราะด้วยคอนเซ็ปต์และสเกลร้านอัญญาที่ค่อนข้างใหญ่และมีเมนูค่อนข้างเยอะ ถ้าจะขยายสาขาอาจจะยาก เลยเลือกที่จะแตกแบรนด์ออกมาเป็นร้านอาร์ชี่ดีกว่า

“เป้าหมายของผมจากนี้ ยังมีแผนจะขยายธุรกิจต่อไปอีกแน่นอน แต่คงเป็นการขยายสาขา ไม่ใช่เพิ่มแบรนด์แล้ว ถามว่าวันนี้เดินทางมาถึงจุดหมายที่ตั้งใจหรือยัง คำตอบคือ ยัง เพราะจุดหมายของผมยังอีกไกลมาก วันนี้อาจจะประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแต่ผมคิดว่ายังไม่ดีพอ ยังทำได้ดีกว่านี้” เค กล่าวทิ้งท้าย