posttoday

ณัฏฐ์ กิจจริต ออกแบบทุกงานให้เป็นตัวเอง

12 เมษายน 2561

ด้วยคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นทำให้ว่าที่สถาปนิกหนุ่ม ณัฏฐ์ กิจจริต ได้รับโอกาสในการชิมลางงานต่างๆ ในวงการบันเทิงอยู่ไม่ขาดสาย

เรื่อง มัลลิกา นามสง่า / จีรวัฒน์ กล้ากะชีวิต ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

ด้วยคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นทำให้ว่าที่สถาปนิกหนุ่ม ณัฏฐ์ กิจจริต ได้รับโอกาสในการชิมลางงานต่างๆ ในวงการบันเทิงอยู่ไม่ขาดสาย โดยเฉพาะงานโฆษณาถ่ายมาแล้วหลายสิบตัว ล่าสุดกับบทบาทใหม่ ดีเจแห่งคลื่น 88.5 EDS Everyday Station  

ณัฏฐ์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการก้าวมาเป็นดีเจ มีผู้ใหญ่ให้โอกาสในการทำเดโม และฝึกฝนทักษะจนสามารถพัฒนาให้มีพื้นฐานที่สามารถเป็นดีเจได้

“อาชีพดีเจอยู่ที่คนจะตีความว่าอย่างไร อย่างงานแสดงมันก็คืองานเล่าเรื่อง หรือแม้แต่สถาปัตย์ที่ผมเรียนอยู่ (มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ) ก็เป็นการเล่าเรื่องอีกแบบหนึ่ง

ตรงนี้ก็เป็นวิธีการเล่าเรื่องอีกแบบหนึ่งที่มีความสุขคล้ายๆ กัน ดีเจ คือวิชาชีพหนึ่ง เราต้องรู้สึกกับสิ่งที่เล่าจริงๆ ผมพยายามไม่ประดิษฐ์คำพูดและนำเสนอความจริงให้มากที่สุด เรื่องที่นำมาพูดส่วนใหญ่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นแล้วนำมาขยาย”

ประเดิมหน้าที่ส่งคุณผู้ฟังเข้านอน ในช่วง Good Night Kiss ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 22.00-00.00 น.

“อีดีเอสเป็นคนกำหนดว่าวิธีการจัดของผมควรจะอยู่ช่วงไหน ด้วยวิธีการพูด โทนเสียง หรืออะไรต่างๆ ที่เหมาะกับช่วงนี้ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีบางอย่างที่ไปกันได้

ณัฏฐ์ กิจจริต ออกแบบทุกงานให้เป็นตัวเอง

ผมแค่คิดว่ากำลังสื่อสารอะไรให้คนที่กำลังฟังอยู่ ไม่พูดหว่านไปเรื่อยๆ เวลาพูดถึงผู้หญิง ผมจะพูดชัดเจนว่า มีเรื่องแบบนี้เกี่ยวกับผู้หญิงมาเล่าให้ฟัง ฝากไปถึงคุณผู้หญิง เรามีทาร์เก็ตของตัวเอง พูดถึงใคร และผมเจออะไรมาก็พยายามเอามาเล่าต่อ

ผมชอบอะไรที่ค่อนข้างจริง อาจมาจากเทสต์การดูหนัง ผมชอบอะไรที่เป็นเทรเลอร์ (Trailer) เป็นดอคคิวเมนเทรี (Documentary) เพราะเรื่องเหล่านี้มีเส้นเรื่องเกี่ยวกับความเข้าใจของชีวิตจริง

บางทีผมพูดถึงความสัมพันธ์ที่ไม่แฟร์ เราจะพยายามนำสิ่งที่เราเคยเห็นมาพูดได้ ว่าเราไม่สามารถคาดหวังให้ทุกอย่างแฟร์ได้ แต่สิ่งที่คุณต้องมีคือความเข้าใจเกี่ยวกับความจริงที่เกิดขึ้น”

การเป็นดีเจจำเป็นต้องหาความรู้อยู่เสมอ ณัฏฐ์ บอกว่า ปกติชอบอ่านหนังสือเรื่องทั่วๆ ไป ตั้งแต่หนักไปเบา ใช้เวลาอ่านไปเรื่อยๆ จนบางทีไม่รู้ตัวว่ามีข้อมูลเหล่านี้อยู่ อาจต้องรอให้มีเรื่องมาสะกิดถึงจะรู้ และได้มองเห็นความคิดในอีกแง่หนึ่ง

“การอ่านเยอะๆ มันก็ช่วยได้ แต่บางทีเยอะไปจะกลายเป็นยัด เมื่อยัดเข้าไปมากๆ ก็จะทำให้มีความประดิษฐ์ ดีเจจึงเหมือนการแสดงเพราะถ้าเฟกเมื่อไหร่คนก็จะรู้”

ณัฏฐ์ กิจจริต ออกแบบทุกงานให้เป็นตัวเอง

ถามถึงความเป็นตัวตนกับการทำงาน ณัฏฐ์ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า

“ผมไม่รู้ว่าคนอื่นคิดอย่างไร แต่ผมเป็นตัวเอง 100% กับดีเจไม่ได้ เพราะว่าในความเป็นตัวเอง 100% จะมีความเชื่อเซนส์ของตัวเองบางเรื่อง

อย่างทัศนคติเรื่องความรัก ผมรู้สึกว่าพูดให้ทุกคนฟังได้แค่ 80% เพราะทุกคนมีความเชื่อบางอย่าง เราไม่จำเป็นต้องไปยัดเยียดให้คนเชื่อตาม สิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น คือโน้มน้าว

ดีเจเหมือนเราสื่อสารอยู่ฝ่ายเดียว แต่ความจริงมันคือสองทาง คนที่เขารับสารไปอาจจะสื่อสารต่อ หรือรับเข้ากับตัวเอง เพราะฉะนั้นถ้าหาคำตอบไม่ได้จริงๆ ก็ยิงคำถามปลายเปิดให้ร่วมกันแสดงความคิดเห็น คล้ายๆ กับงานแสดง เมื่อเวลาที่ต้องไปแตะอารมณ์สูงสุดผมก็ไปได้แค่ 80%

ผมเชื่อว่านักแสดงทุกคนมีความเป็นตัวของตัวเองบางอย่าง ซึ่งคนว่าจ้างต้องการอยู่แล้ว และเป็นหน้าที่ของเราที่จะเอาความเป็นตัวเองไปผสมกับตัวละครให้ออกมาเป็นตัวละครใหม่

กระบวนการคิดตรงนี้มีส่วนมาจากสิ่งที่เรียนคือ สถาปัตย์ เพราะเราจะต้องคิดเป็นขั้นเป็นตอน แต่ทุกวันนี้ก็ถือว่าสนุกนะครับกับงานดีเจ จะมีเรื่องให้กังวลก็ตรงเอฟเฟกต์ต่างๆ ซึ่งผมจะไม่เข้าใกล้เลยกลัวกดผิด (หัวเราะ)”

ณัฏฐ์ กิจจริต ออกแบบทุกงานให้เป็นตัวเอง

ด้านผลงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ณัฏฐ์แจงว่า ตอนนี้กำลังถ่ายหนังใหญ่เรื่องแรก

“อันนี้สนุก เนื่องจากบทบาทค่อนข้างไกลตัว ที่สำคัญหนังเรื่องนี้มีบางอย่างที่ผมอยากเล่า ตอนนี้ผมไม่ได้มีสัญญากับสังกัดไหน ซึ่งก็มองว่าเป็นเรื่องดี ที่เราจะสามารถซื่อสัตย์กับตัวเองต่องานที่ทำ ยิ่งช่วงนี้ผมทำธีซิส (วิทยานิพนธ์) อยู่เรื่องการแบ่งเวลาสำคัญ ผมไม่ชอบทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมกัน

ตอนนี้อย่างแรกที่อยากให้เกิดขึ้นคือ เรียนให้จบและทำงานทุกชิ้นให้ออกมาดีที่สุด โดยเฉพาะกับหนังเรื่องนี้”

ส่วนแพลนในอนาคต ณัฏฐ์เปิดเผยว่า ได้คุยกับที่บ้านเรื่องเรียนต่อยังต่างประเทศ ส่วนงานในวงการบันเทิงยิ่งได้ทำยิ่งมีแนวทางที่ชัดเจนขึ้น ยิ่งซื่อสัตย์กับตัวเองได้มากขึ้น

หากเป็นไปได้อนาคตอยากทำงานด้านสถาปัตยกรรมเป็นงานประจำ และงานแสดงเป็นงานอดิเรก เพราะมองทุกงานในวงการมีระยะเวลาของมันที่ไม่แน่นอน ต่างจากวิชาชีพที่เรียนมา ในหนึ่งปีอาจมีงานแสดง 2-3 งาน แค่นี้ชีวิตก็มีความสุขแล้ว