ธันวา จำปาภา อย่าทิ้งความฝันของตัวเอง
หนุ่มหล่อสูงสมาร์ทมากความสามารถวัย 32 ปี อั้ม-ธันวา จำปาภา มุ่งมั่นตามหาความฝันบนเส้นทางการเป็นนักบินมากว่า 4 ปี
เรื่อง ภาดนุ
หนุ่มหล่อสูงสมาร์ทมากความสามารถวัย 32 ปี อั้ม-ธันวา จำปาภา มุ่งมั่นตามหาความฝันบนเส้นทางการเป็นนักบินมากว่า 4 ปี จนได้เป็นนักบินสมใจ ล่าสุดเขายังสานต่อความฝันที่มีมานาน ด้วยการเป็นศิลปินเดี่ยวเต็มตัวของค่ายโมโน มิวสิค ในเครือโมโน กรุ๊ป พร้อมทั้งปล่อยซิงเกิ้ลแรกที่ชื่อ โรมิโอ (Romeo) ออกมา แต่กว่าจะมีวันนี้ ทุกเรื่องต้องมีที่มา ไปฟังอั้มเล่าเลยดีกว่า
“ปัจจุบันนี้ผมทำงานเป็นนักบินผู้ช่วยอาวุโส (Senior Co-Pilot) ของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ และกำลังจะสอบเป็นกัปตันเร็วๆ นี้ด้วยครับ แต่คงต้องเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ อีกสักพักใหญ่เลย เพราะการสอบเป็นกัปตันนั้นค่อนข้างยากทีเดียว ต้องใช้เวลาเตรียมตัวดีๆ เลยละ
เดิมทีแล้วผมเรียนจบปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 2 แต่พอเรียนจบมา ผมกลับไม่ได้ทำงานสายที่เรียนมาเลย เนื่องจากช่วงที่เรียนมหา’ลัย ผมมีโอกาสได้เข้ามาชิมลางทำงานในวงการบันเทิงอยู่บ้าง นั่นคือถ่ายแบบนิตยสารตอนอายุ 19-20 ปี จากนั้นก็เข้าไปเป็นศิลปินฝึกหัดที่ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ตั้งแต่ผมเรียนอยู่ปี 2 จนอายุ 27 ปีแล้วก็ยังไม่ได้ออกซิงเกิ้ลซักที เพราะองค์กรมีการเปลี่ยนนโยบายต่างๆ ตามมา พูดง่ายๆ ว่าผมรอมา 7 ปี แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ระหว่างนั้นก็มีงานพิธีกร งานแสดงมิวสิควิดีโอเข้ามา ด้วยความที่ผมตั้งใจรอออกซิงเกิ้ล ผมก็ปฏิเสธไปหมดเลย แต่แล้วก็ถูกเทจนได้”
อั้มเล่าว่า ขณะที่เขารู้สึกผิดหวังอย่างมากและต้องออกมาจากค่ายเพลงแห่งนั้น เขาก็เริ่มคิดได้ว่าคงต้องหาอาชีพจริงจังเพื่อทำงานหาเลี้ยงตัวเองซะแล้ว ความคิดนี้มาชัดเจนขึ้นเมื่อปลายปี 2011 เพราะเขาไม่อยากจะเสียเวลาในชีวิตอีกต่อไป
“คือที่ผ่านมาผมทิ้งโอกาสดีๆ ในการทำงานด้านวิศวกรที่มีเข้ามาในชีวิตไปหลายครั้ง เพราะมุ่งมั่นตามฝันที่อยากจะมีซิงเกิ้ล แต่พอไม่ได้ทำ มันก็กลายเป็นความกดดัน ทั้งเรื่องคุณแม่ที่ต้องช่วยซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายให้เรามาตลอด 7 ปี รวมทั้งตัวผมเองที่กดดันตัวเองว่าสมควรจะต้องมีอาชีพที่จริงจังสักที จนวันหนึ่งผมได้ไปเห็นประกาศรับสมัครนักบินของสายการบินไทย ผมก็เอาละ ต้องลองดู เพราะตัวเองก็เรียนดีไม่แพ้ใคร ปรากฏว่าสอบผ่านทะลุจากรอบที่ 1 ไปถึงรอบที่ 8 ตอนนั้นคิดว่าตัวเองน่าจะสอบติดละ แต่ผมดันไปพลาดในรอบสอบสัมภาษณ์ด้วยการตอบของตัวเอง ตอนนั้นก็เลยยิ่งรู้สึกแย่ลงไปอีก เรียกว่าคิดเรื่องนี้ทั้งวัน
ต่อมาในปี 2013 ซึ่งถือว่าเป็นจุดเปลี่ยน เชื่อมั้ยว่าช่วงนั้นผมอ่านหนังสือวันละ 25 ชม.เลยละ ถึงกับบอกคุณแม่เลยว่า ขอผมตั้งใจทำตรงนี้ก่อนนะ เพราะผมมีประสบการณ์ในการสอบมาแล้ว และรู้ดีว่าตัวเองพลาดตรงไหน พอสายการบินแอร์เอเชียประกาศรับสมัครนักบินปุ๊บ ผมก็รีบไปสมัครเลย ระหว่างสอบผมตั้งใจมาก และช่วงที่ดูหนังสือสอบนักบินนั้น ผมก็ยังไม่ทิ้งความฝันทางด้านเพลงไปนะ ผมจึงได้รวมตัวกับน้องๆ ที่เพิ่งเรียนจบมหา’ลัย ตั้งวงดนตรีขึ้นมา และได้ร่วมกันแต่งเพลงที่ชื่อ โรมิโอ (Romeo) ขึ้น แถมทำเดโมเพลงนี้เก็บไว้อีกด้วย”
อั้มเล่าว่า เขาใช้เวลาในการสอบนักบินโดยผ่านเกณฑ์ในแต่ละรอบเป็นเวลาเกือบ 1 ปี ทั้งสอบข้อเขียน ตรวจร่างกาย และสอบสัมภาษณ์ ในที่สุดวันที่เขารอคอยก็มาถึง เมื่อผลสอบออกมาแล้วปรากฏว่าเขาสอบติดนักบิน แต่ในความโชคดีก็มีสิ่งที่น่าเสียดายว่า วันถัดมาได้มีค่ายเพลงอีกค่ายหนึ่งเรียกไปเซ็นสัญญา เพราะผู้บริหารได้ฟังเพลงจากเดโมแล้วรู้สึกชอบ
“การที่สอบติดนักบินผมก็ดีใจอยู่หรอก แต่รู้สึกเสียดายแทนน้องๆ ที่ร่วมวงกันมา เพราะผมไม่สามารถจะเซ็นสัญญาพร้อมกับวงได้ เนื่องจากต้องเตรียมตัวเข้าเรียนและฝึกเป็นนักบินแล้ว น้องๆ ในวงก็บอกว่า งั้นไม่เป็นไร รอให้พร้อมก่อนค่อยเซ็นสัญญาก็ได้ แต่กระนั้นผมก็ยังเสียดายแทนทุกคนในวงอยู่ดี
หลังจากสอบติดผมก็ต้องไปเรียนและสอบเพื่อเป็นนักบินอีกปีกว่าๆ ทั้งเก็บตัวฝึกบิน อ่านหนังสือ และอื่นๆ คือต้องอาศัยความทุ่มเทมาก ถ้าใครเรียนไม่ไหวภายใน 1 ปีกว่าๆ นี้ก็ต้องลาออกไป เพราะการเป็นนักบินจะต้องมีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ต่อชีวิตผู้โดยสารทุกคน ต่อมาผมก็ฝึกบินเครื่องแอร์บัสลำจริง รวมทั้งฝึกแบบจำลอง และเรียนรู้ระบบต่างๆ ควบคู่ไปด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากมากๆ พอเรียนจบมาได้ ครอบครัวผมดีใจสุดๆ โดยเฉพาะคุณแม่ พูดง่ายๆ ว่าเราสามารถกู้หน้าครอบครัวในเวลา 7-8 ปีที่ผมเคว้งๆ อยู่กลับมาได้หมดเลยครับ”
อั้มบอกว่า ระหว่างที่เรียนจบจนได้เป็นนักบิน เขาก็ยังไม่ทิ้งความฝันของตัวเองและน้องๆ ในวง ระหว่างนั้นก็มีค่ายเพลงติดต่อเรื่องเพลงมาตลอด ทำให้เขาต้องแสดงศักยภาพในการทำงานให้ดีที่สุดเพื่อจะได้ขออนุญาตสายการบินมาทำเพลงในช่วงที่พักจากการบิน จนสามารถคว้ารางวัลนักบินที่มี Performance ดีที่สุดของสายการบินแอร์เอเชียในปี 2017 มาได้
“ปัจจุบันผมทำงานมาได้ 4 ปีแล้ว โดยมีเส้นทางการบินระหว่างไทย-เกาหลี และไทย-ญี่ปุ่น ระหว่างนี้ผมมีโอกาสได้รู้จักกับ พี่พีท-พีระ เทศวิศาล ซึ่งเป็นผู้บริหารของค่ายโมโน มิวสิค ผ่านผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง เมื่อพี่พีทรู้ว่าผมมีเดโมเพลงโรมิโออยู่ก็เลยขอฟัง พอได้ฟังเขาก็ชอบเพลงนี้ แล้วถามผมว่าสนใจมาทำเพลงกับค่ายโมโนฯ มั้ย ตอนนั้นผมก็ยังลังเลว่าค่ายจะลงทุนทำเพลงให้เหรอ พี่พีทก็บอกว่าเดี๋ยวจะคุยกับผู้ใหญ่ให้ สรุปว่าผู้ใหญ่ตอบตกลง พี่พีทจึงมาคุยกับผมว่า พอจะมีวิธีที่จะบริหารเวลาจากการเป็นนักบินแล้วมาทำเพลงด้วยได้มั้ย
คือต้องบอกว่าการเป็นนักบินนั้น ใน 1 เดือนเราจะบินแค่ 15 วัน ส่วนอีก 15 วันจะต้องพักสแตนบายด์อยู่เฉยๆ ผมจึงขออนุญาตผู้ใหญ่ในสายการบิน ซึ่งท่านก็อนุญาตให้ทำเพลงได้ แต่ด้วยอุปสรรคเรื่องเวลา ทางค่ายโมโนฯ ก็เลยให้ผมทดลองออกซิงเกิ้ลเดี่ยวๆ ก่อน ยังไม่สามารถออกเป็นวงได้ แต่ผมก็ไม่ได้ลืมน้องๆ ที่เคยร่วมวงกันมานะ ยังคงให้เครดิตกับพวกเขา และยังให้ค่าลิขสิทธิ์เพลงด้วย ตอนนี้นอกจากค่ายโมโนฯ จะซื้อลิขสิทธิ์เพลงโรมิโอมาแล้ว ผมยังเซ็นสัญญาโดยออกทีละซิงเกิ้ล ซึ่งเพลงนี้ได้ พี่เต๊ะ-ศตวรรษ เศรษฐกร มาเป็นผู้กำกับมิวสิควิดีโอให้ครับ”
อั้มเสริมว่า เพลงโรมิโอเป็นเพลงแนวโรแมนติก-ร็อก ที่ได้ โอ้-เสกสรรค์ ปานประทีป นักร้องนักแต่งเพลงผู้มากประสบการณ์ มาเป็นโปรดิวเซอร์ทำเพลงให้มีความกลมกล่อมและน่าฟังมากขึ้น โดยถ่ายทอดผ่านภาษาที่เรียบง่าย แต่เพิ่มเติมสีสันของดนตรีเข้าไปให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น
“ผู้ที่ควบคุมการร้องให้ผมก็คือ พี่หมู มูซู (บัณฑิต แซ่โง้ว) โดยเราเริ่มกระบวนการเข้าห้องอัดและอื่นๆ รวมแล้ว 6 เดือน จนออกมาเป็นซิงเกิ้ลที่พร้อมปล่อยออกสู่คนฟัง ซึ่งช่องทางที่เราปล่อยซิงเกิ้ลนี้ก็คือ YouTube, JOOX, seeme.me, FB Fanpage : Mono Music รวมทั้งไปโชว์ตามรายการของช่องโมโน 29 ด้วย หลังจากปล่อยเพลงไปได้ 1 เดือนก็ได้รับฟีดแบ็กจากคนรอบๆ ตัวที่รู้จักผมบอกว่าชอบเพลงนี้กัน จึงเหมือนกับว่าผมได้กลับมาทำตามความฝันแรกที่อยากมีซิงเกิ้ลของตัวเองให้เป็นจริงขึ้นมาได้แล้ว ส่วนผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไรคงต้องฝากแฟนๆ เป็น
ผู้ตัดสินครับ
สำหรับความคาดหวัง อย่างที่ทราบว่าผมมีชั่วโมงบินเฉพาะเครื่องบินแอร์บัสน่ะ (ยิ้ม) แต่ยังไม่ค่อยมีชั่วโมงบินทางด้านร้องเพลงสักเท่าไร แค่ให้โอกาสนักบินคนนี้ได้มาร้องเพลงให้ฟังบ้าง แค่นี้ผมก็ดีใจแล้วครับ ผมอยากเป็นพยานบุคคลให้กับคนที่มีความฝันทุกคน ว่าอย่าละทิ้งความฝันของคุณไป แม้มันจะยังไม่เป็นจริงในวันนี้ แต่ฝันนั้นจะเป็นจริงได้ในสักวัน ตราบใดที่คุณยังไม่ละทิ้งความฝันนั้นไปซะก่อน ก็จะไม่มีคำว่าสายเกินไปแน่นอน”
อั้มทิ้งท้ายว่า ทุกวันนี้งานทุกอย่างของเขาลงตัวดี และเร็วๆ นี้นอกจากงานเพลงแล้ว เขาจะมีผลงานการแสดงภาพยนตร์มาให้เห็นกันด้วย ยังไงก็ฝากให้แฟนๆ ติดตามกันด้วย และในอนาคตก็จะมีเพลงซิงเกิ้ลที่ 2 และซิงเกิ้ลที่ 3 ตามมาอีกแน่นอน…อัพเดทได้ที่ IG : AumThanwa