posttoday

ตะวัน เทวอักษร "ผมอยากจะยกระดับคุณภาพการศึกษาไทย"

15 มีนาคม 2561

“บริษัทที่ดีอยู่แล้ว คุณจะเข้ามาทำอะไรให้ดีขึ้นได้อีก” ประโยคนี้อาจเป็นเพียงสายลมผ่านสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับคนที่ไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้”

เรื่อง พุสดี สิริวัชระเมตตา ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

“บริษัทที่ดีอยู่แล้ว คุณจะเข้ามาทำอะไรให้ดีขึ้นได้อีก” ประโยคนี้อาจเป็นเพียงสายลมผ่านสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับคนที่ไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ในพจนานุกรมอย่าง ตะวัน เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อักษร เอ็ดดูเคชั่น กลับมองว่านี่คือแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้หนุ่มวิศวะผู้ผันตัวมาเป็นแบงเกอร์ ก่อนชีวิตจะหักเหให้ต้องเข้ามาสานต่อกิจการของครอบครัวในฐานะเจเนอเรชั่นที่ 3 ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า “ผมทำได้” 

ก่อนจะเฉลยถึงเบื้องหลังเป้าหมายในใจ ที่ผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่คิดการใหญ่ ว่าจะเข้ามายกระดับมาตรฐานการศึกษาไทย ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ ตะวันย้อนวันวานไปถึงจุดเริ่มต้นของสำนักพิมพ์อักษรเจริญทัศน์ ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี

“ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 80 ปีที่แล้ว คุณปู่ผมมาจากเมืองจีน มาแบบเสื่อผืนหมอนใบเลย อาชีพแรกของคุณปู่คือ รับหนังสือมาขายตามวัด ขายไปขายมาคุณปู่เริ่มคิดว่าทำไมไม่ผลิตหนังสือเอง เลยเริ่มหาช่องทาง จนในที่สุดก็สามารถตั้งสำนักพิมพ์ของตัวเองได้สำเร็จ แรกๆ ก็เริ่มต้นจากพิมพ์ใบลานค่อยๆ ขยับขยายขึ้นมาเรื่อยๆ คุณปู่เก็บหอมรอมริบจนสามารถส่งลูกชาย ซึ่งก็คือคุณพ่อผมไปเรียนที่สหรัฐได้ ซึ่งถ้าย้อนไปเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ไม่ง่ายนะที่ลูกพ่อค้าคนจีนจะมีโอกาสได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งหลังจากคุณพ่อเรียนจบกลับมา ก็นำความรู้ที่ได้กลับมาพัฒนาธุรกิจที่คุณปู่สร้างไว้”

อย่างไรก็ตาม ถึงจะเห็นเส้นทางชีวิตคุณพ่อที่เปรียบเหมือนลูกไม้ใต้ต้น แต่สำหรับตะวัน เขากลับไม่เคยคิดสักนิดว่าวันหนึ่งจะกลับมาสานต่อธุรกิจของครอบครัว

“ผมเรียนจบวิศวะจากออสเตรเลีย แต่พอเรียนใกล้จบ ดันไปรู้จักรุ่นพี่ที่เป็นแบงเกอร์แล้วประทับใจอยากเป็นแบบเขา เทอมสุดท้ายผมตัดสินใจเบนเข็มชีวิต หันมาศึกษาด้านการเงินและธุรกิจ จนในที่สุดก็ได้ทำตามฝัน ยึดอาชีพแบงเกอร์มานานถึง 10 ปี”

ตะวันบอกเล่าถึงเส้นทางชีวิตอย่างออกรส พร้อมยอมรับว่าชีวิตแบงเกอร์ที่เขาใฝ่ฝัน พอได้มาลิ้มลองก็เป็นรสชาติใหม่ที่น่าพอใจจนไม่อยากถอนตัวออกมา

ตะวัน เทวอักษร "ผมอยากจะยกระดับคุณภาพการศึกษาไทย"

“ผมสนุกกับงานที่ทำ ได้เจอคนเก่งๆ ในหลากหลายสาขาอาชีพ จนวันหนึ่งเมื่อครอบครัวคิดจะมองหาเจเนอเรชั่นใหม่ที่จะเข้ามาสานต่อธุรกิจ ผมถามตัวเองอยู่พอสมควร เพราะผมเองไม่มีความรู้เรื่องการศึกษามาก่อน และนึกภาพไม่ออกว่าถ้าเข้ามาทำงานตรงนี้แล้วจะมีความสุขเหมือนงานเก่าที่ทำอยู่หรือเปล่า แต่สิ่งที่เป็นจุดหักเหให้ผมตัดสินใจว่าจะเข้ามาทำงานตรงนี้ คือ คำพูดของคนรอบข้าง ที่บ้างก็บอกว่า ส่วนใหญ่ธุรกิจที่มาถึงเจเนอเรชั่น 3 มักไปไม่รอด บ้างก็ว่า บริษัทนี้มันดีอยู่แล้ว ผมจะทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร สำหรับผมคำพูดเหล่านี้ทำให้ผมบอกตัวเองว่า ต้องเข้ามาทำเพื่อพิสูจน์ฝีมือให้ดู”

จากลูกฮึดตามประสาคนหนุ่มรุ่นใหม่ ตะวันเริ่มต้นปูทางเส้นทางธุรกิจด้วยการทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อกำหนดเข็มทิศในการทำงานของตัวเอง 

“ผมเริ่มจากการลงพื้นที่ไปเยี่ยมโรงเรียน ร้านหนังสือทั่วประเทศ ไปแบบทัวร์นกขมิ้นค่ำไหนนอนนั่น เพื่อสำรวจว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ คำตอบที่ได้คือ พวกเขาไม่ได้ต้องการแค่หนังสือเรียน แต่อยากได้การเรียนรู้ที่ดี คำตอบนี้ทำให้ผมปิ๊งไอเดียว่า หากจะสร้างการเรียนรู้ที่ดีให้เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่การเอาเนื้อหามาแปะบนกระดาษแล้วพิมพ์เป็นหนังสือเรียนขาย แต่ในฐานะผู้ที่ผลิตสื่อการเรียนการสอน เราต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อสร้างการเรียนรู้ที่ดี”

ตะวันไม่พูดเปล่า แต่คว้าปากกาและกระดาษเปล่าใกล้ตัว วาดโมเดลสามเหลี่ยมที่ประกอบด้วย นักเรียน สื่อการเรียนการสอน ครู โดยมีกระบวนการเรียนการสอนอยู่ตรงกลาง พร้อมอธิบายว่า “นักเรียนจะดีได้ ต้องอาศัยกระบวนการสอนที่ดี กระบวนการสอนจะดีได้ ต้องมีสื่อการเรียนและครูที่ดี

พอได้โจทย์แล้ว เราเริ่มจากการปฏิวัติภายในองค์กร ทำให้พนักงานเห็นภาพและเป้าหมายเดียวกันว่า ถ้าสังคมอยากสร้างนักเรียนยุคใหม่ที่กล้าคิด สร้างสรรค์ และสื่อสารเป็น ต้องมีสื่อการเรียนการสอนและครูที่ดี จากนี้หนังสือเรียนต้องทรงพลังและไม่น่าเบื่อ ต้องไม่ใช่แค่การเอาเนื้อหามาแปะลงกระดาษ แต่ต้องเพิ่มกราฟฟิก เปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอข้อมูลใหม่ พูดง่ายๆ คือ แก่นความรู้ไม่เปลี่ยน แต่รูปแบบการนำเสนอและกระบวนการสอนต้องเปลี่ยน”

ตะวัน เทวอักษร "ผมอยากจะยกระดับคุณภาพการศึกษาไทย"

ทุกวันนี้ นอกจากอักษร เอ็ดดูเคชั่น จะออกแบบกระบวนการเรียนรู้ในรูปแบบของโซลูชั่น (Education Solution Design) อันประกอบไปด้วยหนังสือเรียน แบบฝึกหัด หนังสือและชุดอุปกรณ์เสริมความรู้ สื่อการเรียนในรูปแบบดิจิทัล ของเล่นเพื่อการศึกษาและเสริมศักยภาพ อุปกรณ์การเรียนที่ดึงดูดใจให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ รวมไปถึงโปรแกรมพัฒนาครูผู้สอน ทุกๆ ปียังจัดอบรมสัมมนาพัฒนาครู

“ทัวร์นกขมิ้นของผม จนทุกวันนี้ก็ยังไปอยู่ วันไหนหมดมุข หรือต้องการหาไอเดียใหม่ๆ ผมจะออกไปหาแรงบันดาลใจด้วยการไปพบคุณครูตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อกลับมาพัฒนาสื่อการเรียนการสอน ทุกวันนี้เราเป็นผู้นำด้านสื่อการเรียนการสอนในระดับปฐมวัยจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ทั้งในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราสร้างพลวัตแห่งการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในวงการศึกษาด้วยนวัตกรรมการเรียนรู้ระดับโลก อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพการศึกษาและนักเรียนไทยในอนาคต

“ถามว่าหากเรายังคงผลิตสื่อการเรียนการสอนแบบเดิมได้มั้ย คำตอบคือ ได้ แต่ในระยะยาวผมว่าองค์กรที่จะดำรงอยู่ได้ต้องเป็นองค์กรที่ทำประโยชน์ให้สังคม ทุกวันนี้ใครๆ ก็พูดถึงการเข้ามาของเทคโนโลยีที่เข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงในหลายธุรกิจ แต่สิ่งที่ผมมองว่าสำคัญกว่านั้นคือ การสร้าง Learning Disruption เพื่อให้เด็กไทยก้าวในโลกยุคใหม่ได้ ซึ่งกระบวนการที่จะไปถึงจุดนั้นได้ ต้องย้อนมาถึงสามเหลี่ยมที่ผมบอก ซึ่งประกอบด้วยครูที่พร้อมจะสร้างห้องเรียนให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ สื่อการเรียนการสอนที่นำสมัย เพื่อสร้างนักเรียนสายพันธุ์ใหม่”

ตะวัน เทวอักษร "ผมอยากจะยกระดับคุณภาพการศึกษาไทย"

เมื่อเป้าหมายคือการปฏิรูประบบการศึกษา ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่ท้าทาย ไม่ต้องถามต่อว่ายากหรือง่าย ก็พอมีคำตอบในใจอยู่แล้ว สำหรับผู้ที่คลุกคลีและเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่พยายามขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาตลอด ตะวันยอมรับว่าอุตสาหกรรมการศึกษาเป็นการยกระดับจิตวิญญาณของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่จับต้องยาก ไม่เหมือนกับการยกระดับยนตรกรรม ที่เห็นชัดเจนถึงรูปลักษณ์ และเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนไป เวลาพูดถึงการศึกษาไม่ใช่แค่ครู นักเรียน และสื่อการเรียนการสอน แต่มีหลายองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง หมายรวมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตั้งแต่กระทรวงศึกษาธิการ ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้ปกครอง ทั้งหมดนี้ต้องเห็นพ้องและเดินหน้าไปด้วยกัน เพราะฉะนั้นเป้าหมายที่จะยกระดับวงการศึกษา เหนื่อยแน่นอน แต่เขาคิดว่าคุ้มค่า

“โจทย์ของเราในวันนี้คือ เรากำลังเปลี่ยนคน กรอบความคิดผู้คน ซึ่งไม่ง่ายเลย แต่เราเชื่อว่าวันนี้เรือของเราแล่นไปข้างหน้าเยอะแล้ว ถึงเรือจะลำใหญ่มากก็ตาม แต่อย่างน้อยมันขยับแล้ว เป้าหมายการทำงานของผมคือ เปลี่ยนห้องเรียนทั้งประเทศเป็นห้องเรียนที่มีปฏิสัมพันธ์สูง ครูตั้งคำถามเยอะขึ้นเพื่อให้นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์กัน และจะเกิดองค์ความรู้ที่ดี มีคุณภาพ สามารถแข่งขันทั่วโลกได้”

แม้จะต้องแบกความรับผิดชอบที่หนักอึ้งไม่น้อย แต่ตลอดเวลาที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับตะวัน สิ่งที่เราสัมผัสได้จากผู้ชายคนนี้ คือพลังบวกและความมุ่งมั่นที่จะไปถึงจุดหมาย

“ผมว่าการบาลานซ์งานกับชีวิตส่วนตัวเป็นเรื่องสำคัญ แต่ละปีผมเดินทางเยอะมาก อย่างปีที่แล้วผมขึ้นเครื่องบิน 45 ครั้ง มีทั้งทริปที่ไปทำงานและไปเที่ยว การเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่ ทำให้ผมเกิดไอเดียใหม่ๆ กลับมาเสมอ บางครั้งผมก็ไปเรียนรู้ระบบการศึกษาจากประเทศที่พัฒนาแล้วเพื่อนำมาปรับใช้ เวลาที่เหลือจากการท่องเที่ยว ผมชอบอ่านหนังสือ อ่านได้ทุกแนว ผมเป็นคนที่ไม่มีของสะสม เพราะสิ่งที่ผมสะสมคือความรู้และประสบการณ์เพื่อมุ่งพัฒนาองค์กรและระบบการศึกษาให้ก้าวไกลเทียบเท่านานาชาติ” ตะวัน กล่าวทิ้งท้าย