posttoday

ลิมปนิลชาติ (เพจ) หมาจ๋า...เปลี่ยนชีวิต

27 กุมภาพันธ์ 2561

"นัด...หมาจ๋า" คนรักหมาต้องร้องอ๋อ ก็เพราะ ณัฐวีร์ ลิมปนิลชาติ หรือนัด...หมาจ๋าผู้นี้ ก็คือเจ้าของเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อหมาจ๋า

เรื่อง วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

บอกชื่อจริงไปไม่มีใครรู้จัก แต่ถ้าบอกชื่อ "นัด...หมาจ๋า" คนรักหมาต้องร้องอ๋อ ก็เพราะ ณัฐวีร์ ลิมปนิลชาติ หรือนัด...หมาจ๋าผู้นี้ ก็คือเจ้าของเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อหมาจ๋า (Facebook.com/maaja) ที่นำเสนอเรื่องราวน่ารักน่าประทับใจ แถมยียวนกวนโอ๊ยของเหล่าบรรดาหมาๆ ผ่านภาพวาดลายเส้นและการลงสีในแบบเรียบง่าย อบอุ่น มีชีวิต ไปรู้จักตัวจริงของนัด...หมาจ๋ากันเลยดีกว่า

"ชอบวาดรูปตั้งแต่เด็ก คงเคยเห็นเด็กที่เขียนทุกอย่างบนกำแพงบ้าน บนผนังบ้าน ทุกอย่างที่มีที่ว่างให้วาด ใจรักมาก"

นัดเล่าว่า เธอไม่ได้จบด้านการวาดรูปมาโดยตรง เพียงแต่มีพื้นฐานและใจรัก รวมทั้งพรสวรรค์ที่ไขว่คว้าเมื่อภายหลัง ตอนเด็กๆ ได้ไปเยี่ยมบ้านคุณปู่งี่ซ้งที่แม่กลองตอนปิดเทอมใหญ่บ่อยๆ ได้เห็นคุณปู่วาดรูปพู่กันจีน จะนับเป็นอิทธิพลเรื่องลายเส้นหรือไม่ นัดตอบว่าไม่ทราบ แต่ภาพวาดนกกระเรียน เสือโคร่งลายพาดกลอน และป่าไผ่แบบจีนนั้นเห็นมาแต่เด็ก

"ชอบวาดรูป แบบอยู่ดีๆ มือก็วาดนู่นวาดนี่แบบคนมืออยู่ไม่สุข วาดจนเป็นธรรมชาติของมือ"

สมัยเด็กของนัดหมาจ๋า ได้เป็นตัวแทนของโรงเรียนเพื่อประกวดวาดภาพลายเส้นก็หลายครั้ง ถ้วยรางวัลมากมาย เธอดูการ์ตูนเท่าที่เด็กคนหนึ่งจะพึงดู การ์ตูนที่ชอบเป็นแนวผจญภัยวัยเด็ก เช่น ปาร์แมนและโดราเอมอน หากนักวาดการ์ตูนที่ชื่นชอบมากที่สุดชื่อ จิเอโกะ ฮาระ เป็นนักวาดการ์ตูนแนวย้อนยุค ภาพลายเส้นของฮาระสวยงามมาก และให้แรงบันดาลใจมาจนทุกวันนี้

"อยากเรียนคณะมัณฑนศิลป์ อยากทำงานวาดรูป แต่ก็ผิดหวัง นัดจบคณะบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยสยาม และไม่ได้ทำงานอะไรที่เกี่ยวข้องกับลายเส้นที่รักเลยแม้แต่น้อย"

เรียนจบแล้วแต่ไม่ได้ทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับการวาดภาพเลย นัดทำงานบริษัทเอกชน เปิดร้านกาแฟ ขายตรง และทำฟรีก๊อบปี้เกี่ยวกับท่องเที่ยว ชีวิตล่องลอยไปเหมือนลิขิตฝัน นอกเหนือจากการชอบวาด นัดหมาจ๋ายังชอบอ่าน และชอบขีดเขียน ทั้งหมดซ้อนอยู่ในชีวิตและการทำงานของเธอ

"ชอบอ่านหนังสือ ชอบอ่านกลอน จากนั้นก็ขยับขึ้นมาเป็นนักแอบเขียน นักแอบแต่งกลอน สมัยนั้นกลอนวัยรุ่นได้รับความนิยมมาก ก็ชอบอ่าน แล้วก็หัดแต่ง กระทั่งรวมเล่ม ตอนนั้นอยู่ ม.3 เอง"

รวมเล่มคำกลอนของนัดได้รับความนิยมพอสมควร เธอทำงานกับสำนักพิมพ์ใยไหม ซึ่งรวมเล่มหลายเล่มและหลายครั้ง กระทั่งมีพ็อกเกตบุ๊กเกี่ยวกับจิตวิทยาวัยรุ่นตามมาอีกหลายเล่ม ระหว่างนี้ก็เรียนไปด้วยและทำงานไปด้วย เธอทำธุรกิจส่วนตัวหลายอย่าง เริ่มจากร้านกาแฟ ขายของแฮนด์เมดและอีกมากมาย

"ทำแมกกาซีนเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ต้องขึ้นเหนือล่องใต้ ต้องรู้ทุกมุม ทำแมกกาซีนเล่มนี้เหมือนไปเรียนลัดเรื่องธุรกิจ เพราะนัดทำเกือบทุกอย่าง ทั้งเป็นเจ้าของและบรรณาธิการ ติดต่อประสานงาน ดีลโฆษณาต่างๆ การเขียน การข่าว การถ่ายรูป ทำเองเกือบทั้งหมด ทีมงานเล็กแต่อบอุ่น"

ลิมปนิลชาติ (เพจ) หมาจ๋า...เปลี่ยนชีวิต

แมกกาซีนประสบความสำเร็จ แต่ก็เหนื่อยมาก เมื่อมีเอเยนต์ติดต่อเข้ามาขอซื้อ เธอจึงขายหัวแมกกาซีนให้กับผู้สนใจชาวต่างประเทศ ขณะนั้นเพิ่งอายุช่วง 20 ปีต้นๆ เธอกลับมามุเขียนหนังสืออีกครั้ง ตลาดหนังสือวัยรุ่นบูมมาก ตลาดต้องการหนังสือที่วัยรุ่นอ่านง่ายๆ

"ฉันจะรักตัวฉันเอง" เป็นหนังสือจิตวิทยาความรักที่มีการ์ตูนประกอบ ซึ่งนัดเขียนเองทั้งตัวบทความและภาพการ์ตูนประกอบ นัดกลับมาเขียนหนังสืออีกครั้งในที่สุด เจ้าตัวบอกเองว่า เป็นอาชีพที่เหมาะที่สุดแล้วเพราะรู้ตัวดีว่าเป็นคนคิดเยอะ คิดและเก็บมาตั้งคำถามในทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในห้วงคำนึง

"ทุกอย่างที่เขียนเอามาจากตัวเอง เอามาจากชีวิต เอามาจากหนัง เอามาจากเพลง ดูหนังฟังเรื่องเล่า แล้วเขียนออกมาพ็อกเกตบุ๊กรวมเล่ม ช่วงนี้เขียนหนังสืออย่างเดียว 1 ปีจะรวมเล่มประมาณ 2-3 เล่ม ชอบนะช่วงนี้ ได้อยู่กับตัวเองดี"

หนังสือของนัดหมาจ๋า ส่วนใหญ่พิมพ์กับสำนักพิมพ์ใยไหม เช่น ผู้หญิงร้องไห้ ผู้ชายไม่ได้ยิน, ผู้ชายดีๆ ไม่ได้มีแต่ในนิยาย, คุยกับใจแล้วไปต่อ เป็นต้น แต่ละเล่มได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้อ่านวัยรุ่น และก็เป็นช่วงนี้เองที่เธอเริ่มทำเพจของตัวเองเพื่อสื่อสารกับนักอ่าน ชื่อ มาบุชี่ (mabushi) เป็นภาษาญี่ปุ่นหมายถึงพระอาทิตย์ที่กำลังเจิดจ้า

"เพจมาบุชี่สื่อสารแนวคิด คำคม รวมทั้งข่าวสารหนังสือใหม่ๆ เพื่อให้แฟนนักอ่านได้ติดตามอัพเดท ชื่นชมและให้กำลังใจกันและกัน"

วันหนึ่งนัดขับรถไปทำงาน จู่ๆ ก็อยากทำเพจเกี่ยวกับเรื่องหมาชื่อเพจหมาจ๋า ชื่อเพจนำมาก่อนเลย คำนี้แว่บขึ้นมาในใจแล้วนัดก็คิดปุบปับกับตัวเองว่า ฉันจะกลับบ้านไปเปิดเพจชื่อหมาจ๋า ทุกอย่างลงตัวหมด เนื้อเรื่องคือการแซวหมาของตัวเอง เพจลายเส้นในหมาจ๋าคือการ์ตูนหมาๆ ที่บอกเล่าเรื่องราวว่าหมาคิดอะไร หมาทำอะไร พฤติกรรมและธรรมชาติแบบหมาๆ ที่ดูง่ายๆ ขำๆ

"แก๊กทั้งหมดนำมาจากหมาที่บ้าน ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้คือหมาที่รับอุปถัมภ์มาชื่อ ฮองเฮา ตั้งแต่มีฮองเฮา ชีวิตของนัดก็เปลี่ยน จะว่าเปลี่ยนเพราะฮองเฮาหรือเปลี่ยนเพราะเพจหมาจ๋าก็ได้"

ลิมปนิลชาติ (เพจ) หมาจ๋า...เปลี่ยนชีวิต

ชอบชื่อเพจเพราะฟังแล้วอ้อนๆ ดี นัดชอบชื่อนี้ แต่มีหลายคนไม่ชอบ โดยเฉพาะเพื่อนที่ชื่อจ๋าหลายคนโทรศัพท์มาบอกให้เปลี่ยนชื่อเพจได้ไหม จังหวะก็ดีเพราะเป็นจังหวะที่คนอ่านหนังสือน้อยลง และหันมาใช้แพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ต เปิดเพจได้ไม่นาน คนก็เข้ามาเป็นแฟนเพจติดตามมากมาย น่าปลื้มถึงปลื้มที่สุด

"จาก 20 คน ก็เพิ่มเป็น 200 คน และเพิ่มเป็น 2,000 คน และเพิ่มเป็น 200,000 คนในเวลาไม่นาน ปัจจุบันแฟนเพจหมาจ๋ามีกว่า 600,000 คน เปิดเพจถึงปีนี้ปีที่ 4 แล้ว" นัดหมาจ๋าเล่า

เพจหมาจ๋าไม่เพียงทำให้นัดหมาจ๋าได้เป็นศิลปิน เธอกล่าวว่าเธอได้เป็นศิลปินนักวาดการ์ตูนสมใจ ได้ทำงานลายเส้นที่รักอย่างมีความสุขก็เพราะหมาจ๋า ไม่เพียงเท่านั้น เพจหมาจ๋ายังให้โอกาส ได้ทำให้เธอรู้จักเครือข่ายคนรักสุนัขและช่วยเหลือสุนัข ทำให้ได้เป็นส่วนหนึ่งของการให้โอกาสแก่หมาจรอีกมากมาย

"เพจหมาจ๋าทำให้นัดได้มีลายเส้นเป็นของตัวเอง ทำให้นัดได้เป็นศิลปินที่มีลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ ถ้าไม่มีหมาจ๋า ก็คงไม่มีวันนี้"

ยิ่งไปกว่านั้นการทำงานเพจหมาจ๋า ก็ยังเปลี่ยนแปลงตัวเจ้าของเพจโดยสิ้นเชิง จากเดิมที่เป็นคนมีด้านมืด คิดแล้วคิดอีกอยู่กับมุมมืดของชีวิต ชอบร้องไห้ ชอบเป็นเหยื่อ แต่เมื่อทำงานลายเส้นวาดภาพในเพจหมาจ๋า นัดเปลี่ยนตัวเองเป็นคนไม่เครียด เป็นคนโล่งๆ เลิกรักเลิกผิดหวังแต่ใช้ด้านสว่างของตัวเองนำทางออกมา จากคนเศร้าก็กลายเป็นคนอารมณ์ดี นี่เรื่องจริง

"เหมือนเราได้ดึงพลังงานด้านบวกออกมาใช้ เหมือนเพจหมาจ๋าทำให้เรามีความสามารถนั้น เฟซบุ๊ก บูมมาก ก็เป็นจังหวะที่นัดมีตัวตนขึ้นมา เพจหมาจ๋าจึงถือเป็นจุดเปลี่ยนชีวิต เหมือนได้เกิดใหม่ เหมือนมีตัวตนใหม่ เป็นที่ยอมรับในอีกมุมหนึ่ง ถัดจากน้ำตาก็คือรอยยิ้ม จากมุมเศร้ากลายเป็นมุมตลก"

ควานหาตัวเองมาตลอดชีวิต แต่ก็มาพบที่เพจหมาจ๋า โดยเธอยังเขียนหนังสือสืบเนื่องจากเพจหมาจ๋าด้วย นั่นก็คือ "หมาจ๋า 50 จากล้านเหตุผลที่คนหนึ่งคนรักหมา" เล่มแรกในฐานะนักเขียน "นัด...หมาจ๋า" คนมายืนรอลายเซ็นเป็นร้อยๆ คน รู้สึกขอบคุณมาก

นอกจากนี้ก็คือโอกาสที่ได้ทำงานกับสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ วาดภาพประกอบหนังสืออยู่วังสระปทุม เล่ม 1 และพวกเราขอเล่าบ้าง (อยู่วังสระปทุม เล่ม 2) โครงการหนังสือเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ เล่าเรื่องพระเมตตาคุณต่อสัตว์ ทั้งหลายทั้งปวงทั้งที่ทรงเลี้ยง ที่มาอาศัยพึ่งพระบารมี

"เพราะเพจหมาจ๋าทำให้ได้มีโอกาสวาดภาพประกอบแมวทรงเลี้ยงและเหล่าสัตว์ทั้งหลายใน หนังสืออยู่วังสระปทุมและพวกเราขอเล่าบ้าง ถือ เป็นเกียรติประวัติต่อตัวเองและครอบครัวอย่างสูงสุด" นัด...หมาจ๋าทิ้งท้าย n